เฮลโหล๋ลลลลลล กลับมาแล้วคร้า หลังจากหายเข้าป่าไปหลายวัน ก่อนเข้าป่าหนีไปผจญภัยที่ Japan มา 8 วัน ใช่ 8 วัน อ่านไม่ผิดหรอก ไปนานมากกกก นานจนล่มจมกลับมา 555 ไว้มีเวลามาเล่าให้ฟังฮะ ขอเล่าเรื่องราวระทึกใจ ครั้งล่าสุดก่อน 555 เพิ่งกลับมาถึงเมื่อคืน (3 ตุลาคม 62) ไป "ทีลอซู" มาค่ะ ถ้าไปปกติก็ไท่ค่อยมีเรื่องเล่า แต่ไปคราวนี้มีเรื่องเล่า แบบ advance 5555 ระทึกใจกันไปเลยทีเดียว มาค่ะ มาเล่าแบบปกติก่อนดีกว่า ทริปนี้เริ่มด้วยการรวมตัวของสหายจากภูสอยดาว ตอนแรก แพลนไว้ตุลาคม แต่หาวันว่างไม่ได้ เลยจบที่ พย คุยกันเสร็จสัพ 3 ชีวิต เพื่อนเป็นคนดิวทริป/ทัวร์ ออกตัวก่อน ปกติไม่ค่อยชอบไปทัวร์ หรือไปที่เราไม่สามารถคบคุมได้ แต่คราวนี้จำเป็นค่ะ เนื่องด้วยอะไรหลายๆอย่าง การเดินทาง เวลา ทั้งการเข้าอุทยาน ล่องแก่งผ่านลำน้ำ เดินขึ้นน้ำตก นั่งฌโฟลล์วิล แล้วคือแต่ละคนเวลาน้อย เอาวะ รอบนี้ อยากไปต้องได้ไป ทัวร์ทริปก็ทัวร์ ลองหาสมาชิกเพิ่ม เพื่อช่วยกันจ่าย สรุปได้ ทั้งหมด 6 ชีวิต ตกคนละ 4,000 บาท (ถ้าครบ 10 คน จะถูกกว่านี้) ก็คือรถตู้ของรีสอร์ทมารับถึงกรุงเทพเลย ไปส่งรีสอร์ท และรอรับกลับกรุงเทพดินทางคืนวันศุกร์ สองทุ่มครึ่ง ถึงเช้าวันเสาร์ กลับวันอาทิตย์ถึงกรุงเทพประมาณสี่ทุ่ม

เริ่มจริงๆละ 5555 เริ่มด้วยการนัดเจอกันในจุดที่คาดว่า ตรงกลางที่สุด และสะดวกที่สุดมั้ง เอาตรงไหนก็ได้ที่มันมีที่ให้รอละกัน ได้ที่ Metro mall ตรง MRT จตุจักร เห้ยยยยย เพิ่งรู้ว่ามันมีที่แบบนี้ คือปกตินั่งรถเมล์เอาไง 5555 ก็รอๆ เพื่อนตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงสองทุ่มครึ่ง รอจนรีวิวได้หนึ่งชุด ประเด็นคือ มีอุด้ง กับตู้กาชาปองด้วย 555 คือดีย์

หลังจากครบสมาชิก นัดเรียบร้อย ก็พากันหอบไปขึ้นรถ รถที่มารับเป็นรถตู้ 6 ชีวิต นอนยาวไป ไปเรื่อยๆล่ะ ความพีคมันอยู่ตรงที่ ตอนเขาอยู่กันฝนไม่ตก พออิพวกนี้ไป ฝนตกจ้า เล่าก่อนว่า ทางไปทีลอซู เป็นทางโค้ง โค้งที่ไม่มีทางตรงเลย โค้งทั้งหมดที่ว่านั่น 1,219 โค้งงงงงงงง ใช่ฟังไม่ผิด พันกว่าโค้ง แล้วคืออิดอก มันไม่มีทางตรงเลยไง ทางขึ้น ทางลง โค้งซ้าย โค้งขวา ประกอบกับ พี่คนขับเป็นคนพื้นที่ ชินทาง เข้าใจคำว่าคนชินทางมั้ย คือ พี่เขาก็ขับไปสิ ขับไปแบบชินทาง แตะเบรคน้อยๆ ปล่อยไหลลงเขา หักหลบแบบชิลล์ (น่าจะชิลล์ของพี่เขาล่ะ) ตามที่เกริ่น อิพวกนี้พาฝนมาด้วย เอาใหม่ ประกอบใหม่นะ "ทางขึ้น ทางลง โค้งซ้าย โค้งขวา 1,219 โค้ง ไม่มีทางตรง ฝนตก ถนนลื่น ต้นไม้ล้ม หมอกหนา พี่คนพื้นที่ ขับกลางคืน" ... นอนกลิ้งกันไปเป็นลูกขนุน ท้งไส้ปั่นป่วน กลิ้งไปกลิ้งมา ควานหาถุงอ้วก จะอ้วกไม่อ้วก ง่วงก็ง่วง โอ๊ยยยย คิดถึงสภาพนั้น คือ ขนุนเอ๊ย สักพัก "โครมมมมมมมมมมมมมม" ใช่ฮะ แหกโค้งไปละ 555555 เดชะบุญ อยู่รอดปลอดภัยกัน เอารถออกมา แล้วก็ไปกันต่อ ลุยหมอกไปนั่นล่ะฮะ โค้งมันเยอะมากจริงๆ อะไรที่ว่าโค้งเยอะ ลองมาอุ้มผางฮะ ที่ผ่านมานั้น เบาๆ ไปเลย

ร่องรอยแห่งความทรงจำ 5555 หลังจากหายมึนงงแล้วไปต่อ ถึงอุ้มผางเช้าพอดี แวะเซเว่น แล้วก็พากันเข้าที่พัก เพื่อเตรียมตัวไปต่อ ใช่ ไปต่อ กูยังไม่ได้นอนเลย ถถถถถถ (เลือกการเดินทางดีๆนะฮะ) นอนพักให้เพียงพอ เลิกคิดเลยว่าจะหลับมาในรถ ทางที่ดี มานอนพักก่อน แล้วค่อไปกันต่อ แต่นี่อย่างที่บอกล่ะ เวลามันจำกัด อยากเที่ยวจัดมากกว่า 55555

อาหารมื้อแรกของอุ้มผาง คือ แบบ ทำไมอร่อยจัง 5555 ทั้งที่เป็นอาหารธรรมดางี้

มีน้องหมามาต้อนรับด้วย

หลังจากน้องหมามาต้อนรับแล้ว ก็มีน้องไกด์ท้องถิ่น ประจำกลุ่ม คือ เขาจะมีไกล์ให้คอยดูแลทุกเรื่อง ประจำกลุ่มเลย ตั้งแต่ดูที่หลับที่นอน พาลงทริป ดูอาหารการกิน แล้วก็ส่งกลับ เริ่มทริปด้วยการนั่งรถโฟล์วิลเพื่อไปล่องแก่ง น้องไกด์ประจำกลุ่มก็จะเป็นคนดูแลไปตลอดทาง ประจวบเหมาะกับน้อง "หน้าตาดี" จึงโดนแทะโลมโดยอิชะนีปลอมที่มากับกลุ่มด้วยไปตลอดทาง 55 สงสารน้อง

เรือยาง ลำนึงก็ มี 8 คน คนอื่นเขาไปแบบเงียบๆ อิผีพวกนี้ไปแบบดังลั่น ชะนีปลอมก็แทะโลมน้องเขาไปเรื่อยๆ นี่ถ้ากุเป็นน้องเขานะ จะเอาพายฟาดหัวละทิ้งซากมันไว้ที่นี่เลยเชียว

ระหว่างล่องลำน้ำ อากาศไม่เปิด แดดไม่ออก โอกาสเจอรุ้งน้อยมาก ไกด์บอกว่า พวกพี่พาฝนมาด้วยเหรอคับ (อ่าวน้อง เราจะไม่ยาวกันละ) ก้ไปแบบไม่หวังอะไรหรอก เดชะบุญรอบสอง เหมือนปลอบขวัญจากเหตุร้าย แดดออกมานิดนึง ไม่ถึง 5 นาที ให้เห็นละอองสายรุ้ง พอกดชัตเตอร์ได้ อยากจะได้แบบมุมสวยๆ ก็ติดหัวอิป้าด้านหน้า (เรือคนอื่น) ก็เอานะ พอได้เห็นรุ้ง ตื่นตาตื่นใจในบรรยากาศเงียบๆ ไปตลอดทาง (ได้ยินแต่เสียงอิชะนีปลอม) จุดที่เห็นรุ้งเรียกว่า น้ำตกสายรุ้ง ทีลอจ่อ นี่ถ้าแดดแรงๆ คงเห็นรุ้งสวยงามกว่านี้

หลังจากกดชัตเตอร์แป๊บนึง น้องก็พาไปต่อฮะ น้องบอกจะพาไปเซเว่นกลางป่า

ใช่ เซเว่นกลางป่า ที่มีไข่ต้ม ข้าวโพด หมูย่าง มันเผา บ่อน้ำร้อน และน้องงงงงงงงง ใช่ มีน้องเหมียวเดินไปเดินมาด้วย หลังจากไปไล่ตามจับน้อง ก็มารอลงเรือเพื่อไปจุดหมายของเราต่อฮะ

ถึงผาเลือด แล้วก็ต้องนั่งรถเพื่อขึ้นไปน้ำตก น้องบอกว่า เมื่อก่อนรถขึ้นไม่ได้ จะต้องเดินเท้าขึ้น และถ้าหน้าฝน รถก็จะขึ้นไม่ได้เช่นกัน แต่ตอนนที่ไปนี่ กำลังทำทาง คาดว่า อีกสักพัก คงให้รถขึ้นได้ทุกฤดู ยังไงก็เช็คกันก่อนไปนะฮะ

หลังจากขึ้นรถมาแล้ว น้องไกด์ก็แจกข้าวกล่องให้ พร้อมบอกว่า เหตุที่ไม่ได้ให้พวกพี่กินก่อนขึ้นรถ เพราะกลัวพวกพี่อ้วก ใช่ฮะ น้องทำถูกแล้ว 55555 เตรียมแมชปิดจมูกไปด้วยฮะ แล้วก็เตรียมกล้ามแขนแน่นๆ จับราวรถมั่นๆ พี่เอ๊ยยยย นั่งสนุกเลย

กินเสร็จก็เก็บกลับ เตรียมเดินขึ้นน้ำตก ระยะทาง 1.5 km เดินไปเรื่อย ถ่ายรูปไปเรื่อย วี๊ดว๊ายกันไปเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เราต้องไปกันแบบเงียบๆฮะ แต่นี่คือ อิชะนีปลอม เสียงมันดังมากกกกกกกกกกกกก

ทีลอซู : จุดหมายที่ต้องการ อยากมาต้องได้มา น้ำตกที่ใหญ่ที่สุด (เขาว่างั้น) ใหญ่จริง ดูอลังการมาก แล้วก็คนเยอะมาก ฝนตกด้วย เก็บกล้องใหญ่ ใช้มือถือถ่าย ขึ้นไปถ่ายข้างบน ถ่ายแบบลงทุนมาก

ทีลอซูที่ว่า ต้องเดินป่ายปีนขึ้นไปยังจุดต่างๆ เพื่อยลโฉมหลายมุม แล้วก็.. ใช่ มันมีน้ำตลอด แล้วเป็นดิน แล้วก็คือ.. "ลื่น" สิฮะ แต๋วแตกเลย กรี๊ดลั่นน้ำตก พวกนั้นตกใจ เจ็บไหมพี่ เราว่า จริงๆ แล้วมันคงอายมากกว่า อยากจะแบบ ไม่อยากรุ้จักอินี่เลย ประมาณนั้น 555555 (หยอกๆ) ลื่นฮะ ลื่นปี๊ดเลย ลื่นยาวด้วย นี่ถ้าทางยาวอีกหน่อยนี่เล่นสไลเดอร์ได้เลย เดชะบุญรอบ 3 ลื่นเก่ง ลื่นแม่งทุกที่ เลยมีสกิลในการลื่น เอาตูดลง เอามือยัน พอได้อยู่ ไม่ถึงกับระบม หรือถลอก หรือเสียเลือดเสียเนื้อแต่ประการใด ตั้งแต่ลื่นมา ใครยื่นมือให้ กุจับหมดเลย 5555555


ไหนๆ ก็ลื่นเลอะเทอะละ ลงน้ำเลย ล้างตัว เพื่อนสงสาร ลงน้ำตาม 5555 ป่าว น้ำมันน่าเล่นมากกก เลยกลายเป็นว่า เรานี่ต้องเอาหัวเหว่ย p20 pro ลงน้ำไปถ่ายรูปให้พวกมันด้วย แต่คือยอมรับในประสิทธิภาพการกันน้ำของมันอ่ะ เปียกมาก ตอนนี้ก็ยังใช้พิมพ์ได้อยู่ ผ่านๆๆ ส่วนโกโปร เลิกพูดไปเลย ให้เขายืมไป กลับมาแบตพัง เจ็บปวด 😂


ตัวเปียกกันออกมา นั่งรถกลับ นั่งหลังกันหมด ไกด์บอกว่า ผมไปนั่งหน้านะ ก็อือ ตอนไปล่องเรือไป ตอนกลับนั่งรถกลับ อิเด็กเวร ทำไมไม่บอกพวกกุละหึ๊ สภาพมาแบบชุบแป้งทอดอ่ะ ทางแบบเป็นผิวดวงจันทร์งี้ ทั้งกระโดด กระเด้ง ทั้งฝุ่น มือนี้ต้องยึดรถไว้ อีกมือก็ต้องเอาผ้าคลุมหัวปิดปาก โอ้โหหห กว่าจะถึง เล่นเอาสีสภาพแต่ละคนนี้เหมือน ชุบแป้งทอดกำลังจะไหม้อ่ะ. เนี่ย เพิ่งออกมาถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ยังไม่จบวันนะ ยังพาไปต่อ พาไปแวะวัดหนึ่ง จำชื่อไม่ได้ จำได้แต่เป็นโบสถ์ไม้สักทอง ก็แวะให้ตับไตใส้พุงมันเรียงกันใก้เเข้าที่แป๊บนึงก่อน

แล้วก็กลับเถอะฮะ เตรียมหาข้าวหาปลากิน เตรียมนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นไปดูหมอกกกกกกกกกกกกกกข้าวมื้อเย็นเป็นอะไรที่อร่อยมากก ผัดผัก ไข่เจียว น้ำพริก เติมได้ จะเหลือเหรอ เติมอย่างละสองๆ ดูล้างผลานยังไงไม่รู้ 55555 กินเสร็จก็แยกย้าย เตรียมนอนฮะ

นี่คือ สภาพ เรียกได้ว่า สภาพผู้รอดชีวิต ก็ว่าได้ ตัวดำกันเป็น หมูชุปฝุ่นทอดกันเลย แป้งกำลังจะไหม้งี้

ตื่นตีห้า ล้างหน้าแปรงฟัน ไปดูหมอก เราเข้าใจว่า ไปดูหมอกจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นด้วย แต่คือ ไปดูหมอกก็ไปดูหมอกนั่นล่ะ ก็ไปดูหมอก ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ไง จะดูพระอาทิตย์ขึ้น มึงต้องไปทางตะวันออก ซึ่งทางไหนก็ไม่รู้ ก็คือนะ ไปดูหมอกนั่นล่ะ

วันสุดท้ายแล้ว ประทับใจน้องไกด์มาก ดูและพวกเราตลอดทริป ขนาดจะโดนอิชะนีปลอมข่มขืน ยังดูแล 555 เลยขอน้องถ่ายรูปด้วย

หลังจากดูหมอกเสร็จก็นั่งรถกลับ จบไป ว่าไป ก็เฉยๆ กับหมอกนะ แต่ก็ถือว่าดี ที่มีอะไรให้ดู คือมันไม่ได้เวอร์วังอย่างที่คิด แล้วก็ที่เคยเจองี้ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ละกัน แวะร้านของฝากชื่อบ้านครูซัน มีมุมถ่ายรูปอีกละ

เสียทรัพย์กันไปพอประมาณ แถมได้เสื้อทีมบวกกับใบประกาศกลับมาคนละใบ 5555


กลับมาเตรียมตัวกลับละฮะ กินข้าวมื้อสุดท้ายของที่นั่น ล่ำราน้องไกด์ เก็บข้าวเก็บของ แล้วก็ "เตรียมใจ" ใช่ เตรียมใจฮะ เตรียมลงโค้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง ย้อนไปเมื่อวานระหว่างกินข้าวเย็น พี่คนขับรถเดินมาบอกว่า คืนนี้กินเยอะๆ พรุ่งนี้อย่ากินเยอะ เดี๋ยวออกหมด ก็งงนิดๆ พอนึกขึ้นได้ อื้อหืออออ เออพี่ พวกหนูจะกินข้าว กินยา ขึ้นรถแล้วจะหลับเลย ถ้าจะตายก็ตายเลยทีเดียวงี้ 😂 ทรมานจิตใจเหลือเกิน ขึ้นรถปั๊บตั้งหลักนอนกัน โอ้โห กำลังจะเคลิ้มหลับ แวะ เคลิ้มหลับ แวะ แวะประมาณ 3 ครั้ง ยาหมดฤทธิํ์พอดี นี่ลงมาทางปกติละ ไม่เมาละ แต่คือ ขากลับดูดีกว่าขามา อาจเป็นเพราะฤทธิ์ยา หรือ อาจเพราะเรามองเห็นระหว่างทางก็เป็นได้มั้ง 555 แต่ที่แน่นอนคือ ส่งเพื่อนไปนั่งข้างหน้ากับพี่เขาด้วย ไปช่วยกันเหยียบเบรค 55555 ครึ่งทางโค้ง เป็นจุดพักรถ ชื่อ "อุ้มเปี้ยม" มั้ง 5555 (โคตรดีใจ ครึ่งทางแล้วยังไม่อ้วก)

พอหลุดโค้งมา พี่คนขับรถบอกว่า หมดแล้ว เรางี้ถึงกับตะโกนออกไปว่า "เย้" ดังๆ พลาวคิดในใจว่า กูรอดแล้วๆ 5555 สักพักพี่แกพาแวะน้ำตกพาเจริญ ริมทางแม่สอด เพิ่งรู้ว่ามีน้ำตกนี้นะ


ถ่ายรูปเสร็จ ก็ไปต่อ พาแวะตลาดมูเซอ ดูผัก ผลไม้ ถูกๆ แบบถูกมากจริงๆ อโวควาโด 3 โลร้อยงี้ เสาวรส 3 โลร้อยงี้ สดๆ ด้วย ยืนชิมไปหลาย 5555 เดินผ่านป้าย "ลูกไหนสด" นั่นสิ ลูกไหนสด เราจะรู้ไหมล่ะ แม่ค้าก็นะ มาถามลูกค้า "ลูกไหนสด" บร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา (กูเนี่ยบ้าแล้ว) ถถถถถถถถถ เลอะเทอะ กลับเถอะฮะ


หลังจากแวะตลาดมูเซอ ก็ยิงตรงยาวกลับเลย ระหว่างลงแม่สอด ก็ใช่จะหมดทางโค้ง ก็ยังโค้งต่อไปเรื่อยๆ แต่นี่ดูจะเป็นการโค้งระยะยาวๆ ถนนกว้างๆ พอกันอ้วกได้ ยิงยาวไปพักรถที่นครสวรรค์ แล้วก็กลับเข้ากรุงเทพ พร้อมับฝนที่ตก .. แน่ะ อิหอยหลอด ตอนไปตากก็เอาฝนไป ตอนกลับมากรุงเทพยังเอาฝนกลับมาอี๊กกกกก ถึงหมอชิตประมาณสี่ทุ่มได้ กรุงเทพน้ำท่วม!!! เฉยเลย แยกย้ายกันกระโดดขึ้นรถเมล์ไม่ได้ร่ำลา แต่ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ขอบคุณพี่คนขับรถที่ทำให้เราได้พบเจอประสบการณ์ดีๆ แล้วทำให้พวกเรารอดกลับมาเล่าได้จนัจจุบันนี้ 555555


จบฮะ ทริปเดชะบุญ "ทีลอซู" เดี๋ยวมาแปะลิ้งรูปภาพให้ฮะ อันนี้มาเล่าก่อน อยากเล่า ยังไม่ได้อัพรูปเลย 555

ไว้เจอกันทริปหน้าฮะ

จบคืนนั้นด้วยการกินข้าวเย็นและนอนแบบ หลับเป็นตาย ประมาณนั้น


เที่ยวให้ได้ "เรื่อง"

 วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 12.09 น.

ความคิดเห็น