สำหรับทริปนี้ของเราเป้าหมายอยู่ที่ดอยแม่อูคอ โดยรถยนต์ส่วนตัว เที่ยวแบบพ่อแม่ลูก แต่การเดินทางอันแสนไกลนั้น เราก็คิดหาที่แวะรายทาง อย่างน้อยพักรถ พักคน ความตั้งใจแรกคือ เดินทางกลางคืน ให้คนหนึ่งนอนพักผ่อนในรถ อีกคนก็ขับไป  ไป ๆ มา ๆ  นอนไม่หลับทั้ง 2 คน เราออกจากบ้าน 1 ทุ่มเศษ ๆ ขับรถตามเส้นทางหลัก ผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว - หล่มสัก - เขาค้อ - พิษณุโลก - อุตรดิตถ์ - ลำปาง มีแต่รถสวนทางเราทั้งนั้น ไม่มีใครขับคู่ขนานไปกับเราเลย เพราะช่วงที่อยู่ในเขตอุทยาน ณ เวลานั้นก็ 5 - 6 ทุ่มแล้ว ขับไปเรื่อย ๆ ค่อยคึกคักหน่อยก็ช่วงที่ขับมาถึงเมืองอุตรดิตถ์ และแล้วเราก็ถึงเมืองลำปางประมาณตี 5 พักเติมน้ำมัน ล้างหน้าล้างตา หาอะไรรองท้องเล็กน้อย อยู่รอดได้เพราะเซเว่นนี่แหล่ะ 
              จุดหมายตอนแรกจะไปบ้านแม่กำปอง แต่พอถึงลำปางเลยคิดขึ้นได้ ไหน ๆ ก็มาแล้ววิ่งอ้อมเป็นวงกลมดีกว่า จะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ก็เลยเปลี่ยนเส้นทางมุ่งไปที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ระหว่างทางไปก็มองกระจกหลังวิวสวย แปลกตาดี ก็เลยจอดรถแชะภาพซะหน่อย น่านเขามีถนนลอยฟ้า ถนนหมายเลข 3 ลำปางก็มีนี่ ไม่รู้จะตั้งชื่ออะไร พิกัดบ้านดินดำ ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน  จ.ลำปาง     

ซูมดูดี ๆ จะมองเห็นเจดีย์วัดเฉลิมพระเกียรติตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา   

มาถึงน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ก็ประมาณ 08.00 น. นึกว่าเรามาเช้า  มีคนเช้ากว่าเราอีกนะ  

พระเอกประจำทริป 

วันนี้เราค่อนข้างรีบ ไข่ที่มาต้มเป็นอาหารเช้าก็ไม่ได้ซื้อกลัวเสียเวลา เพราะจุดหมายหลักเรายังอีกไกล   

เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ  30 นาที ก็เดินทางต่อไปยังบ้านแม่กำปอง ซึ่งดูตามแผนที่จะต้องผ่านบ้านป่าเหมี้ยง - กิ่วฝิ่น ซึ่งบ้านป่าเหมี้ยงเขาบอกว่าเป็นคู่แฝดกับแม่กำปองกันเลย กำลังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทริปนี้เราขอผ่านไปก่อน เอาภาพทางผ่านมาฝากกัน   จากอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน - บ้านป่าเหมี้ยง ระยะทางประมาณ  14  กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เป็นหมู่บ้านสุดท้ายชายแดนระหว่างลำปาง - เชียงใหม่

มีลำธารไหลผ่านกลางหมู่บ้านด้วย 

จากบ้านป่าเหมี้ยง - ทางขึ้นจุดชมวิวกิ่วฝิ่น ระยะทางประมาณ 5  กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที

ณ จุดชมวิวเวลาประมาณ 09.30 น. อากาศเย็นมาก ฟ้าปิด

เราเดินทางข้ามจังหวัดได้ภายในพริบตา เส้นแบ่งเขตลำปาง - เชียงใหม่

เราลงมาถึงบ้านแม่กำปองประมาณ  10.00 น. เริ่มจากจุดนี้ หาที่จอดรถค่อนข้างลำบาก เป็นร้านกาแฟชื่อดัง ตอนนี้เรายังสโลว์ไม่ได้  แชะเอาบรรยากาศไปก่อน

เราขับรถลงไปเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นช่วงที่ ครม.ประกาศเป็นช่วงวันหยุดยาว ทีนี้เราได้เจอสโลว์ของจริง คนเยอะ รถติด ทางแคบ บางช่วงกำลังก่อสร้างปรับปรุง   บรรยากาศตอนที่เราหาที่จอดรถ  สุดท้ายไม่มีที่จอด  ต้องขับรถลงไปที่ทางเข้าหมู่บ้านแล้วเหมารถขึ้นมาอีกที 

หลังจากเหมารถขึ้นมา ตอนนี้ลำบากยิ่งกว่าคือหาที่ถ่ายรูป มุมมหาชน เอาเท่าที่ได้  เอาบรรยากาศช่วงหยุดยาวไว้พิจารณานะครับ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถลางานไปในช่วงวันทำการได้ 

เขาบอกว่าการที่จะได้บรรยากาศตามที่เขารีวิวในเว็บต่าง ๆ คือต้องไปพักที่นั่นและเป็นวันธรรมดา  แต่ก็อาศัยจังหวะและโชค ที่จะได้ภาพตามใจชอบ   รอจังหวะวนไป  

อากาศเริ่มร้อน จะมีบางช่วงที่ไม่ค่อยมีคน แต่ก็ยังถือว่าเยอะมาก นี่ก็เที่ยงแล้ว สงสัยต่างคนต่างหาที่กินกัน ถนนเลยโล่ง  จากจุดนี้ถ้าขึ้นไปข้างบนต้องเหมารถขึ้นไปอีกคนละ 20 บาท ต่อเที่ยว ขาลงต่างหากจะเดินหรือจะเหมารถลงมาแล้วแต่สะดวกครับ  จุดหมายข้างบนก็คือจุดชมวิวร้านชมนกชมไม้ ร้านระเบียงวิว

มองลงไปจากร้านระเบียงวิว

อีกฝั่งตรงข้ามกัน เดินข้ามถนนไปก็เป็นร้านกาแฟชมนกชมไม้  จัดร้านไสตล์วินเทจ เก๋ไก๋สไลด์เดอร์

มีห้องเรียนจำลองด้วย นึกถึงวัยเด็กเลยเนี่ย

เดินลงมาเรื่อย ๆ จุดไหนพอถ่ายภาพได้เราก็ถ่ายไป  เลือกไม่ได้  เริ่มร้อนแล้ว ไม่ได้หลับได้นอนกัน  

ร้านสำราญชน 

ค่อย ๆ เดินลงมาเรื่อย คนเริ่มเบาบางล่ะ แต่แดดร้อนจัด 

เดินสโลว์ได้เต็มอิ่ม 4 ชั่วโมงเต็ม เย็นนี้เป้าหมายคือพักแถว ๆ อำเภอจอมทอง เชียงใหม่ เพื่อจะขยับเข้าไปให้ใกล้เป้าหมายและจุดแวะรายทางได้มากที่สุด  ติดตามใน EP.2 นะครับ

Khundet

 วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.16 น.

ความคิดเห็น