กลับมาอีกแล้วววว กับ "ปุยฝ้าย ลูกอ่อนตะลอนทัวร์"

ยังจำกันได้มั้ย จากกระทู้ที่แล้ว เราพาทุกท่านไปเยี่ยมชม วัดพระพุทธฉาย
รอบนี้ขอพาไปเข้าป่าค่ะ แต่ยังคงเป็นสายวัดแนวเดิม จริงๆรอบนี้ก็ว่าจะไปน้ำตกเหมือนรอบที่แล้วด้วย แต่ก็อดไปอีกตามเคย
เอ๊ะ น้ำตกกับเรานี่คลาดกันเป็นหนังเกาหลีเลย มันยังไงๆ รอบหน้าไม่พลาดแน่นอนจ้า


ขอเปิดด้วยรูปนี้นะคะ เราจะพาทุกท่านเข้าสู่ดินแดนแห่งป่าและขุนเขากันจ้า ตามไปโลด

วันเสาร์ได้รับเมสเสจจากเพื่อนตุ๊ดสุดเลิฟว่า วันจันทร์จะพาแฟนจากเกาะอังกฤษมาเยี่ยมเยียน ให้จัดทริปที
นางแพลนว่าจะไปอยุธยาก่อนแล้วค่อยมาหาเราที่สระบุรี โดยจะไปรับเพื่อนอีกคนแถวเมืองเอกตอน 9 โมง
แต่......เพื่อนตุ๊ดสุดเลิฟของเรา ตื่น 9 โมงจร้าาาาา โอ้ย.....ทริปอยุธยาล่มค่าาาาา ไม่ได้ปงได้ไป
สรุป นางรับเพื่อนแล้วยิงยาวมาหาเราที่สระบุรีเลย



มาถึงสระบุรี ตอนเที่ยงครึ่ง หิวกันมาก ตั้งใจพาไปกินเกี๊ยวกรอบราดหน้าเจ๊แดง เกี๊ยวหมดค่ะ กินเมนูเส้นไปแทน
กินเสร็จตั้งใจพาไปกินไอศกรีมเจ๊หมวย ตลาดใน เจ๊หมวยปิดค่ะ เลยได้กินแต่อีกร้านที่มีกินปลาเค็มและผัดกระเพราร้านข้างๆไป
แถมน้ำก็รสชาดเหมือนน้ำก๊อกมาก



จบค่ะ จะเล่าทำไม แค่อยากบอกว่า ทุกอย่างผิดแผนไปหมด กินเสร็จเริ่มออกเดินทาง เราตั้งใจว่าจะไปถ้ำพระโพธิสัตว์กันก่อนเป็นที่แรก เราเริ่มออกเดินทางจากตลาดในตอน บ่ายสองได้ เลทไปเยอะเลย



เดินทางมาถึงแล้วค่า รวดเร็วประหนึ่งวาปมา แต่จริงๆแล้วไกลพอสมควรจากตัวเมือง

ขาดคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆ บอกแล้วค่ะ ทุกทริปจะมีสาวน้อยเป็นคนพาเที่ยว เด็กเล็กก็เที่ยวได้ อย่าไปกลัวค่ะ

เดินผ่านป้ายกันสักหน่อย ที่นี่มีลิงด้วย (อีกแล้ว ทริปที่แล้วก็มีลิง) ตอนขับรถเข้ามาในเขตลานวัด
วินาทีแรกที่สามีเห็นว่ามีลิง ถึงกับพูดว่า ลิงอีกแล้วหรอ เกลียดลิง
ที่นี่สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยมีนะคะ ของฝ้ายกับแฟนใช้ AIS ไม่มีสักขีดเลย แต่เห็นป้ายว่า ทรู4Gเข้าถึง ไม่รู้จริงหรือเปล่า

ขับเข้ามาปุ๊ป มองหากลุ่มมะหมาสี่ขานะครับก่อนเลยค่าาา ที่ไหนมีหมาที่นั่นปลอดภัยจากลิง แน่นอนจ้า นอนเฝ้ายามให้เลย
ปล.ขอเซนเซอร์ทะเบียนรถนะคะ แหะๆ

โฉมหน้าผู้ร่วมทริปในครั้งนี้จ้า ขาดเราคนถ่ายรูปไป ไว้ไปดูช่วงท้ายๆกระทู้เนอะ (มีใครอยากจะเห็นหน้าบ้างมั้ยนะ อิอิ)

อันนี้บรรยากาศรอบๆวัด จะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่(ไม่มาก)และมีบ่อน้ำด้วย มีปลามีเต่า(ตัวใหญ่อยู่ หลายตัวด้วย)
ตอนเดินไปถ่ายรูป เต่าที่นอนรับลมสองตัวริมบ่อ ตกใจเสียงเราเลยวิ่งลงน้ำ ไอเราก็ตกใจเสียงเต่าโดดน้ำ กล้องแทบหล่น เอ้อ

บรรยากาศร่มรื่นมากจริงๆ หรือเพราะวันนั้นฝนตกพรำๆปรอยๆด้วยมั้ง เลยไม่ร้อน ออกแนวชื้นๆด้วยซ้ำ

พร้อมลุยค่า ดีใจได้ลงเดิน เตรียมตัวเดินขึ้นเขา ดูสิ กล้องจับโฟกัสไม่ทันเลย

เอาละ พร้อมแล้ว ลุยโลดดดดดดด

สาวน้อยดีใจนึกว่าจะได้เดิน ป่าวค่ะ ทางชันและลื่นเกิน สรุปป๊าอุ้มขึ้นค่ะ

ทางเดินตลอดทางจะเป็นบันไดหินมีราวจับให้นะคะ ไม่ต้องกลัวตก แต่ตอนไปฝนตกเลยแอบลื่นบ้าง บางช่วง บางขั้นก็ชันเหมือนกันค่ะ แต่วิวสองข้างทางจะเป็นป่าที่ยังสมบูรณ์อยู่นะ เขียวชะอุ่มเลยละ

ขึ้นมาถึงด้านบนแล้วค่า เหนื่อยหอบกันไป คนอุ้มอะนะ เด็กน้อยเริงร่ามาก

ปากทางเข้าถ้ำค่ะ เป็นทางแคบๆเล็กๆ

เข้ามาถึงด้านในจะเจอสิ่งนี้ค่ะ เป็นเจดีย์สถูปตั้งอยู่บนฐานโบกปูน ปูด้วยกระเบื้อง
ซึ่งไม่แน่ใจว่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้หรือเปล่า

เงยหน้าแหงนขึ้นไปด้านบนจะพบกับภาพสลักบนผนังค่ะ เป็นลวดลายศิลปะสมัยทวาราวดี สันนิษฐานว่าเป็นภาพของทวยเทพกำลังอาราธนาให้พระพุทธเจ้าแสดงธรรมโปรดสรรพสัตว์ ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานที่ควรค่าแก่การศึกษาและการทัศนา สันนิษฐานว่าภาพจำหลักนี้มีอายุมากกว่า 1,600 ปี และที่นี่น่าจะเคยมีกลุ่มนักบวชฤๅษีเคยอาศัยอยู่

หินสลักข้อความ เป็นข้อความเชิงธรรมะเตือนใจค่ะ มันร้างมากไม่มีคนมาเท่าไร ดูจากขวดน้ำและธูปเทียน
ที่ระเนระนาดมากหรือค้างคาวบินชนไปมาก็ไม่รู้นะคะ

เข้ามาจนสุดทางจะพบกับบริเวณองค์พระอีกฝั่งของถ้ำค่ะ
ข้างในถ้ำค่อนข้างมืดและมีค้างคาวอยู่ด้วย แต่ไม่เยอะเท่าเมื่อก่อนแล้ว

ภายในถ้ำก็จะมีหินงอกหินย้อยรูปทรงต่างๆตามธรรมชาติ ตรงนี้สะดุดกับคำว่าห้ามเขียนมากค่ะ
เลยถ่ายเก็บมา ห้ามเขียนนะคะ แต่คำว่าห้ามเขียน ก็เขียนเอาไม่ใช่หรอ โอ้ย ยังไง

ที่นี่เราจะเจอแมลงชนิดนี้เยอะมาก ตามพื้น ตลอดแนวทางเดิน เห็นเพื่อนบอกว่ามันกัดเจ็บ มันคือตัวอะไรคะ
ใครรู้บอกที ตอนนั้นกลัวลูกสาวไปสนใจเอามือจับแล้วมันกัดมาก

จะลงกันแล้วนะคะ รอบนี้เปลี่ยนกันอุ้ม ป๊าเหนื่อยมาก แบกเด็กสิบโลขึ้นเขา ม๊าเลยอาสาเอง ให้ป๊าพักเนอะ

ระหว่างทางลงพวกเราตัดสินใจแวะ ถ้ำเลียงผา เป็นทางเดินแยกไปทางขวา(ถ้าหันหน้าลงปันไดนะ จะอยู่ขวามือ)
แต่สิ่งที่เราเจอคือ ไหนละถ้ำ ไหนคะ นี่มันเป็นแค่หน้าผา ชะง่อนผา อะไรแค่นั้น ฮือๆ แถมมันร้างมากแบบ กลิ่นขี้ค้างคาวแรง และหิ้งพระก็โทรมสุดๆแล้ว เราก็ได้แต่เดินเข้าไปยืนตรงนั้นอยู่ 2 นาที (เอ...หรือไม่ถึง) แล้วเราก็เดินกลับลงมาค่ะ

วิวระหว่างทางเดินลงบันไดมา ตอนขึ้นมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่ได้สนใจวิวเลย
พอตอนลงเห็นช่วงที่มีช่องว่าง มองไปเห็นทิวเขา โอ้ย สวยหยดงดงาม กดมาเลยค่า

ม๊าอุ้มต่อไม่ไหวแล้วค่ะ ยอมแพ้ ให้ป๊าอุ้มต่อดีกว่า

ดูคุณลูกสาวทำหน้าเข้าสิคะ ป๊าม๊าใจร้าย ไม่ยอมให้ปันลงเดินมั่ง



ต่อไปจะเป็นภาพบรรยากาศรอบๆของบริเวณวัดเมื่อเราลงจากถ้ำกันมาแล้วนะคะ

อันนี้ต้นไม้ตรงตีนบันไดเลยค่ะ อายุ 300 กว่าปีแล้วนะ ใหญ่มาก

นอกจากถ้ำพระโพธิสัตว์แล้ว ภายในวัดยังมี ถ้ำพระธรรมทัศน์ ถ้ำลุมพินีสวนหิน และถ้ำสงัดเจดีย์
ที่เราสามารถเข้าไปเยี่ยมชมหินงอก หินย้อยภายในถ้ำได้อีกด้วย

ต้นไม้และทิวเขาบริเวณวัด

ศาลาธรรมเจดีย์องค์นี้โดดเด่นด้วยลักษณะเจดีย์ทรงลังกา สีขาวสะอาดตาแซมด้วยสีทองที่ช่วยขับเน้นให้เจดีย์องค์นี้สง่างามท่ามกลางป่าเขียวชอุ่ม บริเวณบันไดทางขึ้นถูกตกแต่งด้วยรูปปั้นนาคราช ซึ่งมีท่อนบนเป็นเทวดา ส่วนท่อนล่างเป็นหางนาคขนานไปตลอดเส้นทางขึ้นสู่ภายในองค์เจดีย์ แต่วันที่ไปตากล้องไม่ได้เข้าไปเก็บภาพมาค่ะ เหมือนว่าจะปิดแล้วด้วย ไปซะบ่าย แต่เพื่อนที่เข้าไปบอกว่าไม่มีอะไรเท่าไร เป็นโถงโล่งๆ โล๊งโล่งเลยค่ะ มีโต๊ะบูชาพระเล็กๆ จำได้ว่าคราวที่แล้วมาก็เป็นโถงโล่งๆแบบที่เพื่อนว่านั่นละ เลยไม่ได้เข้าไป

ต้นไทรที่ใหญ่มากๆ อลังการงานสร้างสุดๆ

อันนี้ให้ชมความอลังการของต้นไทรนะคะ ส่วนสองคนในรูปนั่นปล่อยเขาไปค่ะ ฮ่าๆๆๆ

ใครที่ชอบการมาวิปัสนานะคะ แนะนำที่นี่อีกหนึ่งทางเลือก รายล้อมด้วยขุนเขาสามด้าน และต้นไม้ร่มรื่นที่เงียบสงบ
(ยกเว้นลิงสแมป่าที่อาจดุร้ายบางเวลา) ตอนเรามาก็เห็นมีคนมานุ่งขาวห่มขาวที่นี่อยู่นะคะ

ป๊าถ่ายให้ ระหว่างรอทุกคนไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำวัดสะอาดอยู่ค่ะ แต่พวกนางไปล้างรองเท้าที่ย่ำดินวันฝนพรำมา
จากสะอาดๆกลายเป็นสกปรกเลยค่า ขี้ดินเต็มพื้นห้องน้ำ เลยได้พาคนอังกฤษมาล้างห้องน้ำวัดที่ไทยซะเลย
ทำภาระกิจส่วนตัวเรียบร้อย ความหิวก็บังเกิดอีกครั้ง หมดพลังกับการเดินขึ้นไปชมถ้ำมาก
เลยตัดสินใจไปต่อที่แดรี่โฮม มวกเหล็กกันค่ะ

ขอนำทุกท่านสู่แดรี่โฮม ยามเย็นจ้าาาา

ปกติเราจะมากันตอนกลางวันหรือไม่ก็บ่ายๆ ไม่เคยมาถึงแบบ 5 โมงเย็นขนาดนี้ พอดีวันนี้ฝนตกฟ้าเลยมืดๆครึ้มๆ
มาทันเห็นที่นี่เปิดไฟ ก็แปลกตาไปอีกแบบ หลายคนอาจจะเคยมาหรือรู้จักแล้ว แต่เพื่อนตุ๊ดของเราไม่รู้จักที่นี่ค่า

แดรี่โฮม เป็นร้านขายของที่มีฟาร์มนมของตัวเองนะคะ โดยผลิตภัณฑ์หลักๆของที่นี่คือ ไอศกรีมรสชาดต่างๆ และผลิตภัณฑ์นม เช่นนมสด หรือที่รู้จักกันในชื่อ นมก่อนนอนหรือ Bed Time Milk ที่ช่วยในเรื่องการนอนหลับ อันนี้ขายของให้จังหวัดตัวเอง แต่ไมไ่ด้ตังค่าคอมมิชชั่นประการใด ฮ่าๆ นอกจากนี้ยังมีโยเกิร์ตจากแดรี่โฮมที่วางขายใน Tops ทั่วประเทศ ถ้วยละ 25 บาทมั้ง
จำไม่ได้ ไม่รู้ขึ้นราคาหรือยัง ไมไ่ด้กินนานแล้ว

อันนี้เป็นบรรยากาศรอบๆบริเวณร้าน มีมุมให้ถ่ายรูปเล่นเยอะมากๆ

ภาพรอบๆร้านสามีเป็นคนถ่ายให้ แอบมีเราเป็นนางแบบกับเด็กน้อยที่แบตหมดอยู่ในรถเข็น

มีมุมให้โพสท่าสวยๆเยอะพอสมควรค่ะ แต่เราก็มีเวลาเลือกกันไม่กี่มุม

ใครอยากมาถ่ายพรอตเทรตเล็กๆ แบบฉบับนั่งปุ๊ปถ่ายปั๊ป ที่นี่เข้ามีพรอพให้พร้อมมากๆ เชิญตามสบายเลย

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการถ่ายภาพ ตัดภาพมาที่สาวน้อยของเรา....Zzzz

พอเข็นรถเข้ามาในโซนร้านไอศกรีม เด็กน้อยก็ตื่นซะงั้น สงสัยจะอยากกินของหวาน
มาค่ะ มาดูกันว่ามีไอศกรีมให้เลือกหลากหลายขนาดไหน

ทุกคนกำลังตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายและรสชาดแปลกๆของไอศกรีม เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว

ที่นี่จะขายเป็นคูปองนะคะ ถ้วยละ70บาท ได้ 2สกูปแถมถ้วยกลับบ้านได้เลย เราสามารถเลือกลายถ้วยได้ค่ะ
ขั้นตอนการสั่งจะเป็นดังนี้ค่ะ สมมติอยากกิน1ถ้วย ไปแลกคูปอง1ใบราคา70บาท เดินมาเลือกไอศกรีม2สกูป
แล้วเลือกถ้วย ยื่นคูปอง รับไอศกรีมแล้วเชิญที่โต๊ะได้เลยจ้า



รสชาดให้เลือกหลากหลาย ทั้ง รสกุหลาบ มะม่วง อัญชัน ชอกโกแลต บราวนี่อัลมอนด์ ชาไทย สตรอเบอรี่ งาดำ ฯลฯ
จำไม่ได้แล้วค่ะ เอาว่าเลือกไม่ถูกจริงๆ ส่วนตัวฝ้ายมาหลายครั้ง ก็ยังไม่เคยลองครบทุกรสชาดเลย

แถ่นแถ๊น ไอศกรีมที่เราเลือกค่า มาชิมกันดีกว่า
(มีแหว่งไปถ้วยนึงแล้ว ชิมไปก่อนเพิ่งนึกได้ว่าเราน่าจะเอามาถ่ายรวมกันนะ)

อันนี้ขอโชว์ลายถ้วยไอศกรีมหน่อย ทริปนี้ที่เราชิมมาจากหลายถ้วยของแต่ละคน บัตเตอร์บานาน่าอร่อยสุด

เอาภาพดอกหางนกยูงบริเวณหน้าร้านมาฝากค่ะ ออกดอกสีแดงสวยสดดีมากเลย

จริงๆที่นี่ของฝากหลากหลายนะคะ ผลิตภัณฑ์จากที่อื่นก็มีนะไม่ใช่แค่แดรี่โฮม
แถมมีอาหารเมนดิชด้านในด้วยนะคะ ไม่ใช่แค่ไอศกรีม
ปล.เคยมาครั้งก่อนกลับเพื่อนอีกกลุ่ม เจอแพนเค้กที่นี่ด้วย เห็นเขาเดินเข้าไปโซนที่เป็นร้านอาหารเมนดิชตอนเรานั่งกินไอศกรีมด้านนอกกันอยู่ ตอนนั้นเลยรู้ว่า อ้าว มีเมนดิชขายด้วยหรอ เพราะแพนเค้กเลยจริงๆ (เกี่ยวกันมั้ย)


ต่อไปจะเป็นสรุปทริปนี้นะคะ

ถ้ำพระโพธิสัตว์


การเดินทาง

- จากในตัวเมืองสระบุรี ให้ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพมุ่งหน้าไปทางจังหวัดนครราชสีมาพอมาถึงโรงปูนนครหลวงนกอินทรีให้ชิดซ้ายขึ้นสะพานกลับรถ จากนั้นให้ขับตรงมาอีกเป็นระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตรจะเห็นป้ายวัดถ้ำดาวเขาแก้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปผ่านวัดถ้ำดาวเขาแก้ว จนถึงทางแยก จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปวัดถ้ำพระโพธิสัตว์จากนั้นขับไปตามทางอีกประมาณ 6.5 กิโลเมตร จะเห็นทางเข้าวัดถ้ำพระโพธิสัตว์อยู่สุดถนน

ปล. GPS 14.575518, 101.145059 (เสริชกูเกิลแมพในมือถือได้เลย ถึงจะป่าเขาลำเนาไพรขนาดนี้ แต่ขึ้นแน่นอนจ้ะ)



ข้อควรระวัง

  • ทางขึ้นบันไดไปชมถ้ำค่อนข้างชัน ผู้สูงอายุอาจลื่นล้มได้
  • ลิงที่นี่เป็นลิงสแมป่า ดุอยู่ค่ะ ตอนเราลงมาจากชมถ้ำไปหยิบน้ำส้มในรถกินกัน แค่เห็นเราถือขวดน้ำยังไม่ทันเปิดจะกิน ลิงมาแล้วค่ะ จะแย่ง พอเราทำท่าจะไล่ แบบกระทืบเท้าไล่หมาอะ แยกเขี้ยวขู่ใส่เลย น่ากลัวมากๆ ที่วัดทีป้ายเขียนว่าให้ระวังลิงและอย่าให้อาหารลิง นับวันจะยิ่งดุ
  • ถ้ามาช่วงหน้าฝนแนะนำใส่รองเท้าผ้าใบและพกหมวกพอร่ม หรือสเปรย์กันยุงแมลงกัดต่อยมาด้วยก็จะดีค่ะ
  • ที่วัดไม่มีป้ายบอกทางหรือบอกรายละเอียดเท่าไร เมื่อก่อนฝ้ายเคยไปเมื่อ 7 ปีที่แล้วได้ จะมีไกด์ใบ้นำทางค่ะ เขาเป็นใบ้ ผู้ชายตอนนี้ที่ไปไม่เจอเขาแล้ว ไม่รู้ยังอยู่ไหม และจำได้ว่าเขาพาไปดูน้ำตกจปร. ซึ่งเป็นน้ำตกที่รัชกาลที่ 5 ได้สลักชื่อเอาไว้(อีกแล้ว ที่พระพุทธฉายก็มี) แต่ต้องข้ามโขดหินไปดู รอบนี้เราไมไ่ด้แวะไปโซนน้ำตกเลย น้ำตกก็แล้งมาก น้อยมากๆเลยค่ะปีนี้



แดรี่โฮม

การเดินทาง

-มาไม่ยากค่ะ วิ่งเข้าเส้นมิตรภาพ มวกเหล็กสระบุรีที่มุ่งหน้าไปนครราชสีมา (โคราช) มองฝั่งตรงข้ามจะเห็นแดรี่โฮมที่เป็นโรงงานค่ะ ใหญ่ๆเด่นๆมาแต่ไกล เราก็ยูเทิร์น แต่พอยูเทิร์นมาจะไม่เลี้ยวเข้าโรงงานนะคะ โรงงานเขาถึงก่อน เราขับเลยไปอีกนิด จะเจอร้านแดรี่โฮมที่เป็นร้านอาหารค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปนิดเดียว ถึงเลย เป็นเส้นเดียวกับที่ไปเขาใหญ่ได้อีกทางจ้า ถ้าตรงไปเรื่อยๆก็มีที่เที่ยวอีกเยอะเลยนะคะเส้นนี้ เช่น The Bloom, วังน้ำเขียว, A cup of love, P.B.Valley และอีกมากมาย เอาว่าใครมาไม่ถูก เปิดกูเกิลแมพในมือถือ(อีกตามเคย) มีแน่นอนจ้า



ข้อควรระวัง

  • ระวังจะเพลินกับการถ่ายรูปจนลืมเวลานะคะ
  • ระวังเลือกไอศกรีมไม่ถูกนะ รสชาดเยอะจริงๆ
  • ระวังช๊อปของฝากจนตัวเบานะ เด่วหาว่าไม่เตือน

ลาทริปนี้ไปด้วยภาพพาโนรามาหน้าร้านสักรูป เจอกันทริปหน้านะคะ จะพาไปไหนในสระบุรี ติดตามได้จ้า

PuiFai Miniiz

 วันพฤหัสที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.16 น.

ความคิดเห็น