ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ....ดำน้ำใส หาดสวย ที่หมู่เกาะสุรินทร์ กับชาวมอร์แกน

รถตู้มารับส่งเราถึงโรงแรม เพื่อเดินทางมาท่าเรือว้าวอันดามัน

รถตู้มารับเราที่หน้าโรงแรมก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเราเตรียมตัวเอาไว้พร้อมแล้วตั้งแต่ได้รับการคอนเฟิร์มเวลาจาก Mamy Booking ตัวแทนจำหน่าย ทริปทัวร์ดำน้ำรายใหญ่ของภูเก็ต ที่มีประวัติการทำทัวร์ดำน้ำมายาวนานและเชื่อถือได้ ที่นอกจากจะมี One day trip หมู่เกาะสุรินทร์ที่เราใช้บริการนี้แล้วยังมีทัวร์อื่น ๆ อีกหลากหลายทั้ง One day trip หรือแบบค้างคืน ใครสนใจสามารถเข้าไปเลือกดูได้ที่เวปไซด์ของ Mamy Booking ที่มีทัวร์ยอดนิยมให้เลือกหลากหลายทีเดียว

ลงทะเบียนและรับหมายเลขเรือ

รถตู้ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ๆ ก็เดินทางมาถึงท่าเรือว้าวอันดามันที่เราจะลงเรือไปเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์กันในวันนี้ ทันที่มาถึงเราต้องผ่านมาตรการคัดกรองด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนที่จะทำการลงทะเบียนและรับหมายเลขเรือที่จะเดินทางเพื่อไปพบกับไกด์ประจำเรือของเรา

ท่าเรือกว้างขวาง สะดวกสบาย มีพื้นที่ให้เว้นระยะห่างได้มาก ห้องน้ำมากมายไม่ต้องแย่งกัน

จากนั้น เมื่อได้รับหมายเลขเรือ และพบปะพูดคุยกับไกด์ประจำเรือแล้วเราก็จะเดินมาทีจุดรับอุปกรณ์ ซึ่งทางทัวร์ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับทุกคนไว้เรียบร้อยแล้ว อันได้แก่ ตีนกบ หน้ากากและท่อดำน้ำ (สน๊อกเกิ้ล) ผ้าขนหนู ใส่กระเป๋าให้พกพากันได้อย่างเรียบร้อย

มีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ให้บริการจนกว่าจะถึงเวลาขึ้นเรือ

ก่อนรับตีนกบต้องมีการวัดขนาดให้พอดีกับเท้า เพื่อจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการดำน้ำ หรือหล่นหายในทะเล โดยมีน้อง ๆ ประจำสถานีบริการให้การช่วยเหลือและสอนในการสวมใส่ก่อนรับอุปกรณ์ไป และหากใครไม่ประสงค์จะเอารองเท้าลงเรือไปด้วยก็สามารถถอดฝากไว้ที่นี่ได้เช่นกัน

จากนั้น ก็ได้เวลาอาหารเช้า ซึ่งทางทัวร์จัดอาหารไว้ให้บริการอย่างหลากหลาย ทั้งข้าวต้มร้อน ๆ ขนมปัง ขนมเค้ก ชา กาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมายให้ทานกันจนกว่าจะขึ้นเรือเลยทีเดียว แล้วบอกเลยนะคะ รสชาติไม่ขี้เหร่เลยจริง ๆ อร่อยจนไม่อยากอิ่มเลยหละ

พื้นที่นั่งทานอาหารกลางแจ้ง โปร่ง ๆ โล่งสบาย

จากนั้น ก่อนขึ้นเรือไกด์ประจำเรือจะเรียกเรามารวมกัน พร้อมทั้งอธิบายทริปคร่าว ๆ ว่าวันนี้เราจะไปทำอะไรที่ไหนกันบ้าง และแนะนำเจ้าหน้าที่ประจำเรือที่จะคอยช่วยเหลือให้บริการเราตลอดทริป เมื่อรู้จักกันแล้วก็ได้เวลาลงเรือ

ท่าเรือว้าวอันดามัน ของ SeaStar

หมู่เกาะสุรินทร์ นั้นตั้งอยู่ในเขตอำเภอท้ายเหมืองของจังหวัดพังงา ห่างจากชายฝั่งประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาในการนั่งเรือประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นหมู่เกาะที่อยู่ติดกับน่านน้ำทะเลพม่า ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะไข่ (Khai Island) เกาะกลาง (Klang Island) และเกาะรี (Ri Island)

หมู่บ้านปลานีโม่ ณ อ่าวแม่ยาย

จุดแรกที่เราจะลงไปดำน้ำกัน คือ จุดดำน้ำที่เรียกกันว่า หมู่บ้านปลานีโม่ อ่าวแม่ยาย ที่อยู่บนเกาะสุรินทร์เหนือ บริเวณนี้น้ำใสแจ๋ว อย่างกับกระจก เรียกว่ามองจากบนเรือยังสามารถมองเห็นทรายใต้ทะเลได้เลย

บริเวณอ่าวแม่ยาย

พอเรือขับมาถึงบริเวณอ่าวแม่ยาย ไกด์ประจำเรือก็ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์น้ำ และการดำน้ำตื่นในบริเวณนี้ รวมถึงสอบถามว่าใครที่ต้องการใช้บริการแท็กซี่นำเที่ยว โดยเฉพาะผู้ร่วมทริปที่ว่ายน้ำไม่เป็นจำเป็น ๆ อย่างมากที่ต้องใช้บริการแท็กซี่

การปล่อยตัวนักดำน้ำประจำทริปบริเวณอ่าวแม่ยาย

บริการแท็กซี่ คือ บริการของน้อง ๆ ที่มาดูแลเรา เขาจะมีหน้าที่ลากเบาะโฟม โดยให้ผู้ใช้บริการเกาะ แล้วพาเราไปดำน้ำดูในจุดต่าง ๆ ของอ่าวแม่ยายแห่งนี้ บ่อยครั้งที่พวกเขามักจะมีโชว์ดำน้ำเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ล้วนแล้วแต่น่าร้องว๊าววว ให้เราชม เช่นการดำลงไปในน้ำแล้วทำฟองอากาศเป็นวง หรือดำลงไปในน้ำเพื่อชี้ชวนให้เราดูสิ่งน่าสนใจต่าง ๆ ใต้ท้องทะเลที่ใสเหมือนกระจก

หลาย ๆ คนเอากล้องถ่ายใต้น้ำไปด้วย ก็จะได้ภาพสวย ๆ แบบนี้กลับมา หรือใครไม่มีก็สามารถขอเช่าได้ที่ท่าเรือ จะถ่ายเอง หรือให้น้อง ๆ ถ่ายให้ก็ได้ภาพสวย ๆ เช่นกัน ส่วนเรา ขอภาพมาจากน้อง ๆ เพราะไม่ได้เตรียมกล้องถ่ายใต้น้ำไปด้วย

ปะการังสวย และปลานีโม่ใต้ทะเล

หลังจากดำน้ำชมสัตว์ทะเลและปะการังใต้น้ำกันจนจุใจแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านชาวเลที่อาศัยอยู่ ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์นี้ และได้รับนามสกุลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพฯ ว่า "กล้าทะเล" นั่นคือ ชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์นั่นเอง

หมู่บ้านชาวมอแกนที่เกาะสุรินทร์ใต้

หมู่บ้านชาวมอแกน

ก่อนจะถึงบริเวณหมู่บ้านชาวมอแกน ที่เกาะสุรินทร์ใต้ น้อง ๆ ได้นำน้ำเย็น ๆ ทั้งน้ำดื่ม และน้ำอัดลมมาให้บริการ แต่ก็ได้แจ้งให้พวกเราทราบว่า เราไม่สามารรถนำขวดน้ำพลาสติกขึ้นไปยังหมู่บ้านชาวมอแกนได้ ดังนั้น ให้ทานกันให้เรียบร้อยแต่บนเรือ

ชาวมอแกนบนเกาะสุรินทร์ใต้นี้ นอกจากจะทำประมงพื้นบ้านแล้ว ยังเปิดร้านขายของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนพวกเขาในราคาเป็นกันเอง และมีของที่ระลึกให้เลือกหลากหลาย

ของฝากจากชาวมอแกน

เด็ก ๆ ชาวมอแกน

จากนั้น ก็ได้เวลาอาหารกลางวัน ซึ่งเราต้องขึ้นเรือเล็ก ไปกินข้าวกลางวันกันที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โดยแบ่งไปทีละลำ ๆ ละ สิบกว่าคน

เรือเล็กพาไปกินข้าวที่ที่ว่าการอุทยานฯ

เรากลับมายังเกาะสุรินทร์เหนืออีกครั้ง เพราะเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ และเราต้องไปกินข้าวกลางวันกันที่สโมสรของที่ทำการอุทยานฯ

บริเวณที่ให้บริการอาหาร สโมสรที่ทำการอุทยานฯ

อาหารเป็นแบบบุฟเฟต์อาหารไทย มีให้เลือกหลากหลาย รวมถึงน้ำดื่ม และขนมที่จัดเป็นสเตชั่นไว้ให้บริการ

อาหารกลางวัน บอกเลยอร่อยมาก

มะม่วงน้ำปลาหวานที่นี่เด็ดสุด

หลังจากกินข้าวกลางวันกันจนอิ่มหมีพลีมันแล้ว ก็มาเดินย่อยอาหารกันบริเวณหาดไม้งาม ชายหาดเล็ก ๆ แต่น้ำทะเลใสแจ๋ว และทรายสวยละเอียด

หาดไม้งาม

บริเวณจุดกางเต้นของอุทยานฯ

มีชิงช้าเชือกให้โล้เล่น

จากนั้นก็ได้เวลากลับลงทะเลอีกครั้ง

ครั้งนี้เราได้มาดำน้ำกันที่จุดที่เรียกว่า อ่าวสัปรด ไกด์เล่าให้ฟังว่า ที่เรียกว่าอ่าวสัปรดเพราะว่าครั้งหนึ่งเคยมีสัปรดจำนวนมากมายลอยละล่องต๊องแต๊ง มาจนเต็มบริเวณอ่าวแห่งนี้ โดยไม่มีใครรู้ว่าพวกมันมาจากไหน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อ่าวแห่งนี้ จึงได้ชื่อว่า "อ่าวสัปรด" มาตั้งแต่นั้น

น้ำใส และเย็นสบาย

โลกใต้ทะเลสวย ๆ

พร้อมแล้ว ลงเลย

น้ำใสจนเห็นปะการังใต้น้ำ

ได้เวลาอันสมควร ก็เดินทางกลับท่าเรือว้าวอันดามัน น้ำทะเลที่นี่มีความสะอาดมาก และมีความเค็มสูง ดังนั้น เราจึงไม่รู้สึกเหนียวตัวเลยเมื่อขึ้นมาจากน้ำ ยิ่งได้น้ำเย็น ๆ ลูกอมหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ จากน้อง ๆ ที่เดินมาให้บริการถึงที่ ยิ่งสดชื่นยิ่งขึ้น ถึงตอนนี้ใครที่เมาเรือคงต้องพึ่งพายาแก้เมาเรืออีกครั้ง พร้อมถุงพลาสติกคู่กาย จะได้ไม่ต้องให้อาหารปลาไปตลอดทาง

เตรียมตัวกลับท่าเรือว้าวอันดามันกันแล้ว

พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบทะเล

เมื่อกลับมาถึงท่าเรือว้าวอันดามัน น้อง ๆ บนฝั่งจะเอารองเท้าที่เราฝากไว้ มาวางเรียงไว้ให้ที่บริเวณท่าเรือ จากนั้นจะพาพวกเรามาทานอาหารเย็น ซึ่งเป็นแบบบุฟเฟต์ที่มีอาหารหลากหลาย โดยเฉพาะส้มตำต่าง ๆ ไก่ทอด หมี่ผัด และเด็ดสุดคือ ไอศครีมกะทิแสนอร่อย ก่อนที่หลาย ๆ คนจะพาตัวเองไปอาบน้ำ และเตรียมตัวขึ้นรถตู้ที่จะไปส่งเราที่โรงแรมที่พักโดยสวัสดิภาพ