สวัสดีค่ะ เปิดตัวกระทู้แรกของปี 2022 ด้วยการไปทาน omakase กันเลย!!

ที่สำคัญเป็นครั้งแรกด้วยค่ะ ที่เราได้มีโอกาสไปทาน ปัจจุบันร้านโอมากาเสะในไทยมีเยอะมากให้เลือกสรร แต่ละร้านก็มีสไตล์ และ การนำเสนอต่างกัน

           วันนี้อยากมาแนะนำร้านที่พึ่งได้ไปลองทานมา เพราะเค้ามีหลายคอร์ส หลายราคา และ หลายสาขาให้เลือกด้วย นั่นก็คือ  寿司十番 本店 SUSHI JUBAN Asok Branch 

  ร้าน SUSHI JUBAN (อ่านว่า ซูชิ จู- บัน) เหตุผลที่เลือกเลย เพราะไหนๆ อยากลองกินทั้งที ก็อยากได้ฟิวแบบญี่ปุ่นจริงๆ และ เสิรฟ์โดยเชฟชาวญี่ปุ่นจริง เพื่ออรรถรสในการทาน ซึ่งสาขาที่ มิ้วกับมุมมาทาน คือ สาขา อโศก (สุขุมวิท 23 ) เป็นสาขาแรกเลยก็ว่าได้ บรรยากาศทางเดินเข้าร้าน ตกแต่งได้อารมณ์ญี่ปุ่นมากๆ (พูดแล้วก็คิดถึงญี่ปุ่น แต่ช่วงนี้สถานการณ์ไม่ดี ก็กินเที่ยวในไทยไปก่อนเนาะ)

ผลักประตูทะลุมิติเข้ามาภายในร้าน สิ่งแรกที่จะเจอก่อนเลยก็คือ เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อความปลอดภัยในยุคโควิด

บรรยากาศภายในร้าน ตกแต่งแบบเรียบง่าย โทนสีขาวครีมๆผสมไม้ ให้ความอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่น เพดานสูงโล่งโปรงสบายไม่อึดอัด มีมุมโชว์ควรสาเกหลายแบบเรียงรายด้วย ใครสายถ่ายรูปนี้ห้ามพลาดเลยนะ โต๊ะที่นั่งหน้าเคาท์เตอร์มีอยู่พอสมควร หรือ ใครมาหลายท่านจะจองห้องส่วนตัวด้านบนก็ได้ค่ะ

หันกลับมาที่เคาท์เตอร์ จะเจอเชฟยืนคอยตอนรับอยู่

เชฟที่เราได้เจอ วันนี้คือ “เชฟโชตะ” ชาวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เชฟเล่าให้ฟังว่า ทำซูชิมามากกว่า 16 ปี ก่อนจะมาเป็นเชฟในไทย เชฟโชตะทำงานอยู่ที่ ตลาดปลาทซึกิจิ มาก่อน ใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น คงจะทราบกันดี ตลาดส่งปลาชื่อดังที่เค้าประมูลปลาขายกัน และ มีร้านซูชิซาซิมิสดๆอร่อยๆแบบแล่ทำกันตรงนั้นเลย เพราะฉะนั้นดีกรีไม่ธรรมดาแน่นอน

เนื่องจากมิ้วจองมื้อเย็น ไว้ตอน 18:00 และ เราไปถึงร้านก่อนเวลา ยังไม่มีลูกค้ามาก็เลยได้ที่นั่งทำเลดี โต๊ะที่นั่งจะเป็นแบบเคาท์เตอหน้าเชฟเลย

บนโต๊ะ จะมีอุปกรณ์การทานไว้ให้ มีขิงดอง โชยุ ผ้าเช็ดมือ ตะเกียบ เตรียมไว้ให้

มาถึงในส่วนของ Omakase กินครั้งแรกก็จัดไปเลย course " Asok premium "  ในคอร์สจะมี ทั้งของคาว ของหวาน ครบจบคอร์สเดียว แต่ไม่รวมเครื่องดื่มนะคะ สั่งเพิ่มได้ มิ้วสั่งน้ำเปล่า ส่วนคุณแมงสั่ง ชาเขียวเย็นแบบ refill

course " Asok premium " ที่เราทาน มีทั้งหมด 18 คำ ไปชมพร้อมกันเลยค่ะ ว่ามีเมนูอะไรบ้าง

                                           เริ่มจากคำแรก Otoshi เมนูเรียกน้ำย่อย

  เป็นปลาแซลมอนเสิรฟ์แบบพอดีคำ ราดด้วยน้ำซอสใสๆ รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม ทานคำแรกสดชื่นมากๆเหมือนทานล้างปากไปรอเมนูต่อไป  

                                                 เมนูที่สอง  > 2 kinds of sashimi                                                       

ซาซิปลา 2 ชนิด มีปลากระพงไทยเนื้อสีแดง และ ปลาโอ เชฟแล่แบบพอดีคำ ปลาเนื้อเด้งสดดีไม่คาว ปลาโอมีกลิ่นเบิรน์ไฟนิดหน่อยทำให้หนังกรอบขึ้น ถ้าใครไม่ค่อยชอบกลิ่นไหม้ๆอาจจะไม่ผ่าน

                                              เมนูที่ 3 > Chawanmushi หรือ ไข่ตุ๋น

เมนูไข่ตุ๋นเสิรฟ์แบบร้อนๆ เนื้อไข่ตุ๋นเนียนนุ่มมากกกกกกกก แบบมากๆ แทบละลายในปาก ตกแต่งด้วยกุ้งลวก ไข่ปลาแซลมอน และ กระเจี๊ยบหั่นบาง อร่อยค่ะ

                                                    เมนูที่ 4 > Hotate Tartar 

ขนมปังหอยเชลล์ทอด อันนี้ชอบมากกกกกกดีย์มากกก ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ด้านในมีหอยเชลล์ ทอปด้วยไข่ปลา ซอสมายองเนส เข้ากันมาก ละมุนสุดๆ

                                                   เมนูที่ 5 > kobayashi Burger

ซาลาเปาไส้ปลาทูน่าและชีส ซาลาเปาเนียนนุ่ม ไส้ปลาทูนาไม่คาว ชีสหอม แต่คิดว่าเมนูค่อนข้างธรรมดาไปหน่อย แต่โดยรวมเมนูนี้รสชาติอร่อยนะคะ

                                                         เมนูที่ 6 > Otoro หรือ ปลาทูน่า

เริ่มซูชิคำแรกด้วยโอโทโร่ หรือ ปลาทูน่า on top ด้วยวาซาบิ คำนี้คือดีมากกกกกก อร่อยมาก ปลาสดมาก เนื้อเด้ง ไม่คาว วาซาบิอร่อยไม่เผ็ดเลย 

                                                       เมนูที่ 7 > Madai หรือ ปลากระพงแดง        

ซูชิคำต่อมา คือ ปลามาได หรือ ปลากระพงแดง เป็นปลาที่คนญี่ปุ่นนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารในงานสำคัญๆต่าง เช่น งานแต่งงาน งานฉลองปีใหม่  เพราะมีคำแปลว่า มงคล ในภาษาญี่ปุ่น ถือเป็นปลากระพงชั้นสูงก็ว่าได้  รสชาติของคำนี้ เนื้อสัมผัสนุ่มเด้ง ไม่คาว สดมาก มีความหนุบหนับ ถือว่าอร่อยมากอีกคำนึงเลย

                                            เมนูที่ 8 > Kohada หรือ ปลาปลาตะเพียนญี่ปุ่นดอง

คำนี้คือ ซูชิปลาโคฮาดะปรุงรสด้วยน้ำสมสายชู เนื้อนุ่มเด้ง รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม เชฟเสิร์ฟมาแบบพันเนื้อปลาเป็นเกียวๆสวยมาก มีกลิ่นดองนิดหน่อยไม่คาว ความรู้สึกคล้ายๆปลาซะบะดองค่ะ แต่เนื้อสัมผัสดีกว่า

                                               เมนูที่ 9 > Maguro  หรือ ปลาทูน่า

คำนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก เพราะมันอร่อยอยู่แล้ว ฮ่าๆ เป็นปลาสุดฮิตที่ทุกคนต้องเคยกิน ยอดนิยมพอๆกับแซลมอนเลย สัมผัสเนียนเด้งอร่อยหนุบหนับเช่นเคย แต่ร้านนี้จะสดกว่าทุกๆที่ที่เคยทานมา

                                            เมนูที่ 10 >  Uni หรือ ไข่หอยเม่น

คำนี้คือ ซูชิไข่หอยเม่นห่อด้วยสาหร่าย อร่อยมาก สดมากกกก เนื้อเนียนนุ่มแทบละลายในปาก  ไม่มีกลิ่นคาวเลย ปกติมิ้วเป็นคนไม่ทานอูนิเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยชอบกลิ่นของเค้า แต่ร้านนี้ดีมากกก ไม่มีกลิ่นคาวเลย อร่อยสุดๆ ประทับใจมาก ทานมาหลายคำไม่มีคำไหนที่ปลาคาวเลยสดทุกคำ

                                       เมนูที่ 11 > Oyakodon  หรือ เมนูข้าวญี่ปุ่น

เมนูข้าวญี่ปุ่นที่เชฟทำให้ มีปลาแซลมอน ไข่ปลาแซลมอน on top ด้วยวาซาบิ ทานง่ายค่ะเมนูนี้ รสชาติทั่วไปเลย ข้าวนุ่มๆ ไข่ปลามันๆ

                                     เมนูที่ 12 >     Sawara หรือ ปลาอินทรีย์

คำนี้ คือ ซูชิปลาอินทรีย์จะมีกลิ่นหน่อยๆ แต่ไม่ได้คาวมาก เชฟนำมาเบิรน์ไฟหน่อยๆช่วงหนัง ต่อด้วยทาซอสโซยุ อร่อยแบบกรอบๆ เนื้อเด้งๆดี

                                                เมนูที่ 13 > Hamachi หรือ ปลาฮามาจิ

คำนี้ คือ ซูชิปลาฮามาจิ เนื้อเด้งๆ สดไม่คาว มองแว๊บแรกเหมือนอกไก่เลย ฮ่าๆ รสชาติก็อร่อยทั่วไปเลยค่ะ 

                                     เมนูที่ 14 > Anago หรือ ปลาไหลทะเล

เมนูสุดกรี๊ดของมิ้ว เชฟเอาปลาไปย่างเตาถ่านแบบสดๆใหม่ๆ หอมมากก ต่อด้วยเบิรน์ไฟ เสิรฟ์มาคำใหญ่ๆ ชอบมากกกกกกกกกกก อร่อยมากกกก ดีย์ไม่ไหวฟินสุดๆ ต้องมาลองเอง

                                                  เมนูที่ 15 > Soba หรือ โซบะ
เมนูยอดนิยมของคนญี่ปุ่น โซบะเย็นเส้นเสิรฟ์พร้อมน้ำสต็อกที่ทำมาจากปลาโอ สาหร่ายคอมบุ ปรุงรสด้วยโชยุ ทานแล้วสดชื่นมากๆ

                                       เมนูที่ 16 > Miso soup หรือ ซุปมิโสะ

เมนูนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก หลายๆคนคงรู้จักกันดี แต่กินปิดท้ายตอนจบคอร์ส รู้สึกผ่อนคลายดี เหมือนล้างคาวก่อนที่จะทานของหวาน

                                             เมนูที่ 17 > Tamago หรือ ไข่หวานย่าง

เมนูของหวานปิดท้ายคอร์ส ไข่หวานย่างเนื้อเนียนนุ่ม หอมๆ อร่อยดีค่ะ

                            เมนูที่ 18 > moji caramel หรือ ครีมสดราดซอสคาราเมล

จานสุดท้ายส่งท้ายคอร์ส กับเมนูของหวาน อีกหนึ่งอย่าง คือ ครีมสดราดซอสคาราเมล เนื้อครีมคล้ายๆพุดดิ้งแต่เบากว่า ราดด้วยซอสคาราเมล อร่อยหอมหวาน ละมุนลิ้นมาก ถือว่าจบคอร์สอย่างสวยงาม

หลังท่านเสร็จก็แชะภาพกับเชฟเป็นที่ระลึกสักหน่อย


สำหรับใครที่กลัวทานไม่อิ่ม สามารถสั่งเมนูเพิ่มเติมได้นะ แบบ A la carte ก็มี มีเมนูให้เลือกเยอะพอสมควร ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม

ปล. แอบกระซิบบอก ตอนแรกคิดว่าไม่อิ่มแน่เลยเสิรฟ์เป็นคำๆ สายกินจุซะด้วย สั่งของทานเล่นมารอระหว่างเชฟทำ ตกใจมากกก จานใหญ่มากกกกกตอนมาเสิรฟ์ สั่ง เมนูหอยเชลล์ทอด ราคาแค่ 150 บาทเอง ราคาถูกมากก 

สุดท้ายนี้ ใครกำลังมองหาร้าน Omakase ลองทานก็แนะนำร้านนี้มากๆนะ วัตถุดิบดี เสิรฟ์โดยเชฟคนญี่ปุ่นน่ารักเป็นกันเอง พูดไทยเก่งมาก บรรยากาศร้านฟีลญี่ปุ่น มีตั้งแต่คอร์สเล็กๆไปถึงแบบคอร์สใหญ่ มีหลายสาขา ที่จอดรถสะดวก ต้องไปตามรอยนะ!


ตอนนี้ทางร้านซูชิจูบัน ทุกๆสาขา มี Promotion ของเดือนมกราคม ปี2022 นี้ให้เลือกได้ตามใจ (*ขึ้นอยู่กับแต่ละสาขาด้วยนะ)

สาขา อโศก ที่มิ้วมาทานมีให้เลือก 3 แบบ คือ

-Omakase Sushi 8 Pieces

1,500THB++

-Omakase Sushi 12 Pieces

3,000THB++→2,500THB++

-Asok Premium

4,300THB++→3,800THB++

----------------------------------
**รอบเวลาทาน หลักมี 2 ช่วง คือ

Lunch 11:30 - 15:00

Dinner 17:00 - 22:00

> รายละเอียดเพิ่มเติม

ปัจจุบัน ร้าน SUSHI JUBAN มีทั้งหมด 4 สาขา

สาขา อโศก (สุขุมวิท 23 ) **สาขาแรกเลย

สาขา พญาไท (อินทามระ 23 )

สาขา ทองหล่อ (สุขุมวิท 49)

สาขา บางนา (บางนาตราด ซอย 21) *เปิดใหม่

--------------------

> สำรองที่นั่งได้ที่

Tel : 02-258-2813, 063-225-4115

LINE Official : @juban

Facebook : https://www.facebook.com/sushijuban

Website : https://www.sushijuban-asok.com/


#omakaselover #sushiaddict #japaneserestaurant #bangkokfoodies #BangkokRestaurant #BangkokFineDining #sushi #omakase  #juban #sushijuban

เที่ยวไม่เลิก : Tiewmailerk

 วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 13.21 น.

ความคิดเห็น