สำหรับใครที่ชอบดูวิวพระอาทิตย์ตกสวย ๆ แสงสีส้มสะท้อนภูเขาและใบหญ้า เรเยอร์ภูเขาที่มองไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา ผมแนะนำดอยนี้เลย ''ดอยม่อนจอง'' เส้นทางเดินง่าย ๆ สบาย ๆ เหมือนไปสวนหลังบ้าน

      ดอยม่อนจองอยู่บนทิวเขาถนนธงชัยตอนกลาง ครอบคลุมพื้นที่ อ.นันทบุรี (เดิม อ.ออมก๋อย) จ.เชียงใหม่ และอ.สามเงา จ.ตาก คำว่า “ม่อน” เป็นภาษาคำเมือง(ภาษาพื้นเมืองภาคเหนือ)ที่หมายถึง “ดอยหรือเนินเขา” ส่วนคำว่า “จอง”  เป็นภาษาคำเมืองจะออกเสียงว่า “จ๋อง” หมายถึงลักษณะจั่วสามเหลี่ยมที่อยู่สูงที่สุด ซึ่งเรียกตามลักษณะภูมิประเทศที่เป็นยอดเขา และมีหน้าผาสูงชัน บริเวณดอยหัวสิงห์

      ที่นี้เป็นดินแดนแห่งสรรพสัตว์ที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระเสรีและพืชพันธุ์นานนาชนิด เช่น กวางผา หรือม้าเทวดา และ เลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน 2 ใน 15 ชนิดของเมืองไทย รวมทั้งฝูงช้างป่า และต้นกุหลาบพันปี ที่ว่ากันว่า เป็นต้นกุหลาบพันปี ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นดินแดนที่อยู่ของประชากรหลากหลายชนเผ่าแตกต่างกันไป เช่น กะเหรี่ยง ม้ง มูเซอ ละว้า และคนพื้นเมือง มีวัฒนธรรม อาหาร วิถีชีวิตที่หลากหลายแตกต่างกันไป

     ดอยแห่งนี้ มีสภาพทางธรณีวิทยาเป็นภูเขาหินปูนผสมหินทราย หินเชลล์ และหินแกรนิตปะปนกัน ทำให่้ดอยแห่งนี้มีลักษณตื่นตาตื่นใจ คือ ไหล่เขาด้านตะวันออก จะค่อย ๆ ลาดลงไปและถูกปกคลุมไปด้วยป่าดิบเขาแน่นขนัด ส่วนด้านตะวันตก เป็นหน้าผาตัดสูงชันดำทะมึน มองไกลออกไปตามสันเขาแคบ ๆ ที่เลียบเลาะไปตามไหล่ผาอย่างน่าหวาดเสียวสู่ทิศใต้ ก็จะเห็นยอดภูผาดอยม่อนจอง ที่มีลักษณะคล้ายหัวสิงห์ ชูยอดเด่นตระหง่านอย่างน่าเกรงขาม โดยดอยหัวสิงเป็นจุดสูงสุดจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,929 เมตร

     สภาพทางธรณีวิทยาเป็นภูเขาหินปูนผสมหินทราย หินเชลล์ และหินแกรนิตปะปนกัน ทำให้ดอยแห่งนี้มีลักษณะตื่นตาตื่นใจ คือ ไหล่เขาด้านตะวันออก จะค่อย ๆ ลาดลงไปและถูกปกคลุมไปด้วยป่าดิบเขาแน่นขนัด ส่วนด้านตะวันตก เป็นหน้าผาตัดสูงชันดำทะมึน มองไกลออกไปตามสันเขาแคบ ๆ ที่เลียบเลาะไปตามไหล่ผาอย่างน่าหวาดเสียวสู่ทิศใต้ ก็จะเห็นยอดภูผาดอยม่อนจอง ที่มีลักษณะคล้ายหัวสิงห์ ชูยอดเด่นตระหง่านอย่างน่าเกรงขาม โดยดอยหัวสิงเป็นจุดสูงสุดจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,929 เมตร

คนจรขอเล่า...

หลังจากที่โทรจองการขึ้นดอยม่อนจองเสร็จแล้ว...

ผมและเพื่อนๆ จัดเตรียมอาหาร อุปกรณ์ทำครัว ตั้งแคมป์ต่างๆ ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านมูเซอดำเพื่อลงทะเบียนเข้าพื้นที่และแจ้งจำนวนคน จะได้ระบุจำนวนรถรับส่งจุดเริมเดินได้

จากนั้นก็ได้เตรียมตัวและขึ้นรถโฟวินจากหมู่บ้านไปยังจุดเริ่มเดินเท้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงจุดเริ่มเดิน

หลังจากลงรถเสร็จ พักแขนจากการเกาะรถขึ้นดอย ปวดแขนจริงๆ นะ ก็ได้เวลาออกเดินเท้ามุ่งสู่ยอดดอยม่อนจอง เส้นทางระยะ 3-4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็ถถึงแคมป์ บริเวณตั้งแคมป์จะมี 2 จุด ผมตั้งแคมป์บริเวณจุดที่ 2 กัน 

หลังจากตั้งแคมป์และพักผ่อนเสร็จ ก็ได้เวลาเดินเท้าไปชมวิวบริเวณลานกอล์ฟช้าง ชมวิวภูเขา และรอชมพระอาทิตย์ตก 

จุดสูงสุดดอยม่อนจอง ''หัวสิงห์'' สูงจากระดับน้ำทะเล 1,929 เมตร เดินสบาย ๆ บนสันเขาระหว่างมา แวะถ่ายรูปได้ตลอด วิวสวยจริง ๆ อยากให้ได้มาลองมองด้วยตาตัวเองมากกว่า จากจุดชมวิวระหว่างเดินกลับแคมป์พระอาทิตย์ก็ค่อย ๆ ลาลับหายไปในภูเขา ลมหนาวก็ค่อย ๆ ผ่านมา 

เช้าของอีกวัน หลังจากตื่นนอนและเก็บแคมป์เรียบร้อย แบกเป้ขึ้นหลัง วางไว้บริเวณสนามกอล์ฟช้าง เดินตัวเปล่ามายังจุดสูงสุดอีกครั้งเผื่อบอกลา แต่สายตามองไปเห็นเหมือนมีทางเดิน ก็เลยตัดสินใจเดินต่อ... 

เส้นทางที่เห็นเป็นเส้นทางที่มายังพระธาตุม่อนจองนั้นเอง

ก่อนกลับถ่ายรูปหมู่สักภาพไว้เป็นที่ระลึกหน่อย...

เรื่องราวของดอยม่อนจองคงเป็นอีกเรื่องราวหนึ่งในความทรงจำของทุกคน ที่เมื่อเวลาผ่านไปเราได้กลับมาเจอกัน และพูดคุยเรื่องราว สถานที่ ที่เคยไปด้วยกันมา มันคงสนุกและมีความสุขมากเลยนะ 

ไว้เจอกันอีกครั้ง... นะทุกคน

สวัสดี...

.....................................................................................................................
บันทึกคนจร

รายละเอียดติดต่อ

Facebook page : บันทึกคนจร

Youtube : บันทึกคนจร

บันทึกคนจร

 วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 16.57 น.

ความคิดเห็น