ฤดูฝนมาถึงอีกแล้ว ใครหลายคนอาจไม่ชอบที่ฝนตกไปไหนมาไหนลำบาก วันหยุดก็อยากอยู่บ้านนอนฟังเสียงฝน จะดีกว่าไหมถ้าเราได้ไปนอนฟังเสียงฝน ได้เที่ยวด้วย เราเป็นคนชอบเที่ยวหน้าฝนมาก เพราะรู้สึกว่าถ่ายรูปติดสีเขียว ๆ ของต้นไม้ใบหญ้าแล้วสดชื่นสบายตาดี อากาศไม่ค่อยร้อนด้วย คนก็น้อยไม่ต้องแย่งกินแย่งเที่ยว ตั๋วเครื่องบินก็ถูกกว่า ทริปนี้มีกัน 3 คน ตามมาทีหลังอีก 1 เดินทางจาก กทม. โดยเครื่องบินจากดอนเมือง ถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 11 โมง รับรถเช่าซึ่งทำการจองล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ ขับรถออกจากสนามบินเลี้ยวขวาแล้วตรงไปยังเส้นทางสันกำแพง เพื่อไปยัง อ.แม่ออน ที่ตั้งของบ้านแม่กำปอง


ระหว่างทางเราผ่านแวะทานอาหารกลางวันที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขา สันกำแพง บรรยากาศในร้านร่มรื่น มีก๋วยเตี๋ยวเรือ ผัดไทยโบราณ ส้มตำ กาแฟ น้ำผลไม้ต่าง ๆ ผัดไทย 30 บ. ก๋วยเตี๋ยว 35 บ.


อิ่มท้องแล้วเดินทางกันต่อระหว่างทางเราเจอป้าย "ถ้ำเมืองออน" จึงเลี้ยวเข้าไปชม ค่าเข้าชมคนละ 20 บ. ค่าดอกไม้ธูปเทียน 10 บ. เดินขึ้นบันไดนาคไปยังปากทางลงถ้ำ ทางเข้าเป็นบันไดปูนค่อนข้างชันสูงไม่มากนัก ภายในถ้ำมีไฟส่องสว่าง อากาศเย็นสบายแต่อึดอัดเล็กน้อย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป และพระธาตุนมผา


จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านแม่กำปอง ทางคดเคี้ยว ลาดชันบ้างบางช่วง ถนนแคบพอรถสวนกันได้


ถึงแล้วที่พักของเราคืนนี้ โฮมสเตย์บ้านสายชล ราคาคนละ 550 บาท/คน รวมอาหารเย็น-เช้า ห้องน้ำรวม


โฮมสเตย์ติดกับลำธารน้ำตก ข้าง ๆ กัน เป็น โฮมสเตย์บ้านสำราญชน บ้านพักมี 2 ชั้น ห้องใต้หลังคาอีกชั้น และชั้นแรก กับชั้นใต้ถุนเป็นแบบกางเต้นท์นอนของทางที่พัก 450 บาท/คน รวมอาหาร 2 มื้อเช่นกัน


มองเห็นโฮมสเตย์สำราญชล


ส่วนนี่ห้องพักเรา ห้องใต้หลังคาเป็นส่วนตัวดี ลำบากปีนนิดหน่อย


เก็บของเสร็จก็เดินไป ร้านกาแฟชมนกชมไม้ อยู่ไม่ไกลจากที่พัก


รสชาติธรรมดา แต่บรรยากาศดี สวยงาม


เย็นพอดี ฝนเริ่มตก รีบวิ่งกลับไปที่พัก ตะเกียงระเบียงห้องใต้หลังคา


อาหารเย็น อร่อย เติมได้ อิ่มแล้วไปเดินเล่นหน้าบ้านกัน


ไม่มีที่จอดรถ จอดไว้ริมถนนหน้าที่พัก ถ้าไม่เช่ารถมาเอง ก็มีบริการรับส่ง ติดต่อที่พักได้


เบอร์ติดต่อตามนี้เลยจ้า พี่นก น่ารักใจดี


ฝนเพิ่งหยุดตก ลำธารน้ำเยอะขุ่นเล็กน้อย คืนนี้นอนฟังเสียงน้ำไหลทั้งคืน เหมือนฝนตกตลอดเวลา หลับสบายตลอดคืน ที่นี่ไม่มีพัดลม อากาศเย็นสบายนอนห่มผ้ากำลังดี ห้องน้ำมี 3 ห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีทีวี แต่มีเต้าเสียบไฟฟ้าใช้ตลอดนะ


เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้ารอสว่างเพื่อความปลอดภัยในการขับรถไป กิ่วฝิ่น เพราะเราไม่ชำนาญเส้นทาง ทางคดเคี้ยวบางช่วงสูงชัน ข้างทางมีเหว ขับรถระมัดระวังนะคะ ถ้าฝนตกถนนลื่นไม่แนะนำนะ
จอดรถในอุทยาน เดินขึ้นไปไม่ไกลก็ถึงแล้วค่ะ


จากนั้นเราไปยังจุดชมวิวอีกจุด ขับรถไปเขตลำปางไม่ไกล ไม่ถึง 2 กม. จะเจอจุดชมวิวข้างทางนี้ เห็นทะเลหมอกแต่ไกล


แล้วเราก็กลับลงไปยัง น้ำตกแม่กำปอง ขาลงความรู้สึกเหมือนชันกว่าตอนขึ้นมา น้ำตกแม่กำปองอยู่ติดถนน น้ำจากน้ำตกไหลผ่านถนนไปสู่ลำธารเข้าไปในหมู่บ้าน


มีร้านก๋วยเตี๋ยวเล็ก ๆ น่ารักอยู่ริมน้ำตก เช้านี้ร้านยังไม่เปิด


ร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่โค้งพอดี ทางซ้ายไปกิ่วฝิ่น ทางขวากลับเข้าหมู่บ้าน


น้ำตกใส และเย็นมาก มีทางเดินบันไดปูนและราวจับตลอดทางเดินชมน้ำตก สร้างได้กลมกลืนธรรมชาติ


ชั้น 1


ชั้น 2


ชั้น 3


เดินถึงชั้น 3 ทางก็ปิด ห้ามเดิน เนื่องจากชำรุด


ไปต่อไม่ได้ก็กลับกัน


กลับมารับประทานอาหารเช้าที่พัก


ที่พักน่ารักหากมีโอกาสมาพักอีกแน่นอน อาบน้ำเช็คเอ้าท์ ไปเที่ยวต่อกัน


วัดแม่กำปอง


โบสถ์กลางน้ำ ตั้งอยู่กลางลำธาร เดินผ่านแท่งปูนทรงกลมไปยังตัวโบสถ์น่ารักดี


จากนั้นเราไปแวะร้านกาแฟ ลุงปุ๊ดป้าเป๊ง ไม่ได้มาถ่ายรูปที่นี่เหมือนไม่ได้มาบ้านแม่กำปอง


บรรยากาศในร้านร่มรื่นติดลำธาร


กาแฟกับเค้กมะพร้าวรสชาติใช้ได้เลย


ใกล้ ๆ มีโฮมสเตย์


บรรยากาศในชุมชน


น้องหมาดูสมบูรณ์และมีความสุข


ร้านอาหารมีเยอะแยะเลย


ร้านแมวดอย ขายของที่ระลึก และส่งโปสการ์ด เสียดายยังไม่เปิดเราต้องไปก่อนแล้ว


ไปละนะเจ้าหมาน้อยแล้วจะมาเที่ยวอีก

บ้านแม่กำปอง มาลองแล้วจะหลงรัก ความเรียบง่าย ธรรมชาติและชุมชนที่อยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน ไม่ต้องหรูหราแต่ดูมีราคาคุณค่าทางใจ ลำธารที่มาจากน้ำตกไหลผ่านไปทุกบ้าน เหมือนเส้นเลือดใหญ่ ที่หล่อเลี้ยงคนในชุมชน น้ำใสสะอาดใช้อุปโภคบริโภค ชวนบ้านที่นี้น่ารักเป็นกันเอง ทางเข้าหมู่บ้านติดป้ายไม่อนุญาตให้นายทุนเข้ามาทำกิจการ แต่ไม่รู้จะทำได้ตลอดไปไหม อยากให้คงอยู่แบบนี้ตลอดไป ไม่คิดว่าประเทศเราจะมีหมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าและน้ำ ที่เข้าไปสัมผัสได้ง่าย ง่ายจนกลัวจะเจริญไปมากกว่านี้ ไปเที่ยวกันก็ช่วยเขารักษาความสะอาดด้วยนะคะ ขอให้เป็นแบบนี้ไปตลอดไป ใครยังไม่เคยไปสัมผัสความน่ารักเรียบง่ายของที่นี่ ลองไปเที่ยวดูนะคะแล้วคุณจะอยากกลับมาอีก...




สรุปค่าใช้จ่าย รถเช่า อาหารขนม ที่พัก ค่าเข้าชมถ้ำ หาร 3 คน เฉลี่ยประมาณคนละ 1000 บาท

กลับไปรับสมาชิกอีก 1 คน ที่สนามบิน และไปต่อกันที่ ดอยอินทนนท์ นาขั้นบันไดป่าบงเบียง , บ้านนาเลา เชียงดาว ติดตามต่อลิงค์นี้เลยค่ะ


<เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า> เที่ยวหน้าฝน " ดอยอินทนนท์ ป่าบงเปียง แม่แจ่ม "http://pantip.com/topic/35551629



สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ ฝากเพจ "เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า" ด้วยนะคะ

https://www.facebook.com/talk2travels/



ขอบคุณค่ะ

เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า

 วันพฤหัสที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.47 น.

ความคิดเห็น