ไปเชียงใหม่ก็หลายรอบ แต่ไม่เคยได้ไปไหว้พระต่างๆเลย คราวนี้ไหนๆก็มาเชียงใหม่แล้วก็กะอยู่หลายวันเลยอยู่เที่ยวต่อคนเดียวโนไอเดียเหมือนกันว่าจะเที่ยวแนวไหนดี สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า เข้าวัดทำบุญไหว้พระบ้างดีกว่า วัดในเชียงใหม่เองก็มีให้เลือกหลากหลายมากทั้งวัดที่เป็นสมัยใหม่และวัดที่ยังคงเป็นโบราณสถานด้วย

ด้วยความพิเรนท์อยากออกนอกเชียงใหม่บ้าง จุดหมายปลายทางของทริปนี้ก็เลยเป็น ลำปาง ฟภว เลยตัดสินใจว่างั้นตื่นแต่เช้า ไปใส่บาตร ไหว้พระแล้วออกเดินทาง เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง

ที่เชียงใหม่เราเริ่มกันที่วันชัยมงคล ตรงริมแม่น้ำปิง แต่เนื่องจากตอนเช้าไม่ตื่นไม่ทันไปใส่บาตรเลยตั้งใจว่าก่อนไปขึ้นรถไฟ ไปไหว้พระ ทำบุญหน่อยก็แล้วกัน สุดท้ายก็ลงตัวที่วัดนี้เพราะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเชียงใหม่

ที่วัดชัยมงคลนั้นมีทั้งให้ปล่อยนก ปล่อยปลา ให้อาหารปลา เราก็เลยทำบุญโดยการปล่อยนกไป 1 คู่ เผื่อชีวิตจะได้เลิกนกบ้าง ( ความสวยต้องมาคู่กับการเล่นของนะคะ !! 555 ) ปล่อยนกเสร็จไอ้เราก็นึกว่านกจะบินไปไกลกว่านี่ ไม่เลยจ้า นางบินไปเกาะบนต้นไม้ข้างที่อยู่ข้างหน้าร้านขาย เอาหน่ะ ภาวนาขอให้พวกนางได้บินไปที่ไกลๆกว่านี้ละกัน

ปล่อยนกเสร็จก็เดินไปให้อาหารปลา แต่น้ำไหลเชี่ยวมาก โยนอาหารปลาไปครั้งแรก กริ๊บมาก ปลาไม่มีเลย สุดท้าย ได้เทหมดถุงแล้วเดินออกจากวัดไปสถานีรถไฟ เฟลเล็กน้อย

ตอนนั้นที่เชียงใหม่ฝนตกปรอยๆ เราได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้ลำพูนกับลำปางฝนตกเลย เพราะอยากไหว้พระ ทำบุญบ้าง เดินออกมาจากวัด รถแดงหามีไม่ เอออ เดินก็ได้วะ เปิด GPS แล้วเดินงงๆไปเรื่อยๆ เอ้า เจอขัวเหล้กแล้ว อยู่ตรงนี้นี่เอง เดินออกจากวัดมาไม่ไกลเลย (จริงๆก็มองเห็นจากท่าน้ำวัดนะ ฮ่าๆ )

ขัวเหล็กเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดฮิตอันดับต้นๆของเชียงใหม่เลยนะ เนื่องจากเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนสนิท ตอนที่ไข่ย้อยพาดากานดาขี่มอเตอร์ไซค์กลับจากงานลูกทุ่งวิจิตร (ความจริงคือมันไกลกันมากเลยอะแก 55555) แต่ฟีล และมู้ดโทนมันได้นะเว้ย ตอนที่เราไปมีคนมาถ่ายรูปกันนิดหน่อย คาดว่าน่าจะเช้าเกินไป

ฟภว เดินมานิดหน่อยก็เจอสะพานนวรัตน์ มองไปก็เจอดอยสุเทพเป็นพื้นหลักพร้อมกับหมอกหลังฝนตก อดไม่ได้จริงๆที่จะเอากล้องออกมาถ่าย ภาพที่ได้มันสวยมากเลย เราชอบ

จากวัดชัยมงคลเดินมาที่สถานีรถไฟนี่ ไกลเอาการเหมือนกันนะ แต่โชคดีที่อากาศไม่ร้อน เดินฟังเพลงมาเรื่อยๆ แปปเดียวก็ถึง เรารีบไปแลกตั๋วรถไฟฟรีรอบ 09.30 ไปลำพูน ทันในนั้นเอง

ฝนตก ... หนักมาก

และตกตลอดทางจนถึงลำพูน

ฟภว : ขอโทษนะคะ ถ้าจะไปวัดพระธาตุหริภุญไชย ไปไงอะคะ

จนท : ไม่มีรถหรอกน้อง ต้องมอไซค์รับจ้าง ประมาณ 40-50 บาทนี่แหละ อะ่ รอก็ได้ มองไปรอบตัว ไหนมอเตอร์ไซค์รับจ้างวะ รอฝนซาก่อนก็ได้ จะได้เข้าไปทีเดียว

40 นาที ผ่านไป ... ตกหนักกว่าเดิมอีกจ้าาาา อยากไห่เด้ T_T สุดท้ายคนลุงที่นั่งอยู่ในสถานีด้วยกันตั้งนานเดินมาถามว่าจะไปไหน ให้ไปส่งมั้ย ลุงเป็นมอไซค์รับจ้าง เอ้าาา ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้อะลุง มะกี้ฝนมันก็ซาๆละเด้ะ ตอนนั้น 11 โมงกว่าๆละ ไปก็ได้ ลุงมีเสื้อกันฝนใช่มั้ย โอเค งั้นลุย พาหนูไปวัดพระธาตุหน่อย สรุปคือ ฝนตกหนักกว่าเดิมไปอี้ก น้ำท่วมถนนด้วย จนสุดท้ายได้บอกลุงว่า คุณลุงคะ ไปส่งหนูขนส่งละกันค่ะ อ่ะ ไปลำปางเลยละกัน

ด้วยสภาพที่เปียกแบบไม่น่าให้อภัย แถมหนาวอีกต่างหาก

โชคดีมากที่ได้ข้าวเหนียวปิ้งร้อนๆที่ขนส่ง ไส้กล้วยอร่อยมากกกกกกกกกกกก ลุงขายไม่แะพงด้วยนะ

หลังจากที่ได้รองเท้าใหม่แล้ว ก็ได้เวลาที่จะต้องรีบไปวัดพระธาตุลำปางหลวง ก่อนที่วัดจะปิด ก่อนอื่นเราต้องหาเจ้ารถสีเหลืองที่วิ่งรอบเวียงบอกว่าไปคิวรถเกาะคา กาดออมสิน ค่ารถ 20 บาท หรือถ้ามากันหลายคนก็เหมารถเหลืองโลด ราคาขาไปน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-300 บาท ลองต่อรองดู ถ้าแพงว่า 300 บาทขอบอกว่า คุณกำลังโดนโขกสับอยู่ค่ะ

เราหาข้อมูลมาในพันทิพว่าให้ไปขึ้นคิวเกาะคาน่าจะถูกกว่า รถสายลำปางเกาะคาเป็นรถสีฟ้า พอถามคนขับเขาบอกว่าไปไม่ถึงวัดพระธาตุ เราต้องเหมาไปอย่างเดียว เอาไงดี อยากไปง่ะ เออ ไปก็ได้ นี่คือบทสนทนาที่เราคุยกับลุงคนขับ

ฟภว : ไปวัดพระธาตุ คนลุงคิดยังไงคะ"

คุณลุง : หนูจะให้ลุงเท่าไหร่ล่ะ"

เอาไงดีวะ ได้ยินมาว่าขาไป 2-300 บาท เอาวะ ลองต่อดู

ฟภว : ไปกลับ 200 ได้มั้ยคะ

คุณลุง : โอ้วววว 200 เองหรอ ขอเพิ่ม 50 ได้มั้ย ไปกลับ

ฟภว : ได้เลยลุง สบายมาก

สรุปได้ราคาที่ถูกมากกกกกกกกกกกกกกก คุณลุงใจดีหันมาบอกเราว่า ปกติ 300 นี่ได้แค่ขาไปนะ ฮ่าๆ ลืมขอเบอร์ลุงไว้แหะ แต่ลุงใจดีมากๆ นั่งรอเรา แนะนำเรานู้นนี่นั่น สารพัด

จากตัวเมืองลำปางมาถึงวัดพระธาตุก็ประมาณ 30 นาที จริงๆมันเลยตัว อำเภอเกาะคามาอีกพอสมควรเลยนะ วันที่เราไปเป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ชอบๆ

ช่วงหลังๆมานี้เราขึ้นเหนือบ่อยมาก ไปๆมาๆรู้สึกอินกับศิลปะและประวัติศาสตร์ล้านนาซะงั้น ศิลปะทางเหนือจะได้อิทธิพลมาจากพม่าซะส่วนใหญ่ เนื่องจากมีอาณาเขตติดกันและทางล้านนาเองก็เคยเป็นเมืองขึ้นของพม่าด้วย เอกลักษณ์ของศิลปะพม่าคือพระพุทธรูปค่ะ ใบหน้าจะกลม จะอิ่มเอิบ

ภายในบริเวณวัดพระธาตุลำปางหลวงจะมีพระธาตุหัวกลับหรือเงาพระธาตุหัวกลับ ซึ่งถ้ามองในมุมวิทยาศาตร์ ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการหักเหของแสงค่ะ คล้ายๆกล้องรูเข็มนั้นแหละ น่าเสียดายที่พระธาตุตรงนี้ห้ามให้ผู้หญิงขึ้นแหะ

บรรยากาศเริ่มครึ้มฟ้าครึ้มฝน ดูท่าจะไม่ดี ฟภว เลยลงมาละให้คุณลุงไปส่งที่พักดีกว่า ซึ่งที่พักที่เราเลือกไปนอนครั้งนี้อยู่่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุลำปางหลวงเลยค่ะ นั้นก็คือ "ลำปาง ริเวอร์ ลอดจ์ "

จริงๆแล้วในแพลนตั้งใจว่าจะไปขี่จักรยานในหมู่บ้านเซรามิกต่อ แต่เช็คอินปุ๊บ ฝนเททันที นี่ละหนา บุญมีแต่กรรมบัง

ที่ลำปาง ริเวอร์ ลอดจ์ นั้น บรรยากาศดีมากๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ ที่สำคัญ สงบ ไม่วุ่นวายเลยค่ะ บ้านพักจะแยกกันเป็นหลังๆ มีความส่วนตังสูงมาก

เก็บกระเป๋าเสร็จนี่ก็หลับทันที ฮ่าๆ ตื่นมาด้วยความหิวแล้วระลึกได้ว่ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยอะ ก็เลยเดินมาที่ห้องอาหารเพื่อหาข้าวเย็นกิน เราสั่งอาหารเหนือที่นี่กินเพราะอยากกินมาหลายวัน พบว่า ไส้อั่วและน้ำพริกอ่องอร่อยมาก !

ที่นี่ตอกย้ำความเหนือให้เรายิ่งอินเข้าไปอีกขั้นด้วยดนตรีพื้นบ้าน เพราะมากๆ กินอาหารเหนือเคล้ากับเพลงเหนือๆแล้ว อยากจะเอาชุดไทยภาคเหนือมานั่งกินขันโตกกันเลยทีเดียว

คืนนั้น ฟภว เลยหลับสนิทเป็นตายเพราะเหนื่อยมากๆจากการเดินทาง ตอนเช้าทางโรงแรมแจ้งว่า อาหารเช้าจะจัดที่ศาลาริมวังนะคะ ให้เดินข้ามสะพานไป ตอนแรกก็งงชื่อนะ ริมวัง? มาอ๋อตอนท้ายว่า เป็นห้องอาหารที่อยู่ติดกับแม่น้ำวังนี่เอง

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็เดินเล่นเตรียมเช็คเอ้าท์เพื่อเดินทางต่อ เช้านี้เราเจอบรรดาไก่ต๊อกทั้งหลายออกมาเดินเล่นที่สนามหน้าล๊อบบี้ด้วย น่ารักมาก

การเดินทางตระเวณไหว้พระครั้งนี้เราไม่ได้แพลนทริปอะไรมาเป๊ะๆ ทุกอย่างคือการแก้สถานการณ์ล่วงหน้าเกือบหมด มีความช๊อคและเงิบหลายครั้ง ฮ่าๆ แต่พอเราได้เดินทางไปถึงจุดหมายได้ด้วยตัวเองแล้ว มันกลับแฮปปี้อย่างบอกไม่ถูกแหะ ครั้งนี้ mission ก็ Success ไปอีกครั้ง อย่างน้อยก็ได้มาไหว้พระธาตุลำปางหลวงที่ไม่เคยได้มากซักที

fahpawa*

ติดตาม ฟภว ได้ที่ >> Fahpawa - Travel and Outing