พูดถึงหน้าฝนหลายคนก็คง อยากอยู่บ้านพักผ่อนไม่อยากออกไปไหน เพราะไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือ ทำอะไรก็แล้วแต่เจอฝนทีไรหมดสนุกทุกที พวกเราเองก็เป็นเช่นนั้น... แต่ในเมื่อตั๋วโปรไปกลับภูเก็ต ไม่ถึง 500 ทำให้ต้องคว้าไว้ก่อน จุดเริ่มต้นของทริปนี้จึงบังเกิดขึ้น

วันจองตั๋วกับวันเดินทาง ห่างกันประมาณ 1 ปี มีเวลาวางแพลนเหลือๆ ไม่ว่าจะเป็น ที่พัก daytrip สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอร่อยๆ เยอะแยะมากมาย

แพลนที่วางไว้ (ระยะทางและเวลาใน map ไม่เกี่ยวนะครับ)


  • Daytrip เรือยอร์ช ดำน้ำ พักผ่อนที่เกาะไม้ท่อน ดูโลมา ชมพระอาทิตย์ตก ( ติดต่อทัวร์ของ http://www.discover-catamaran.com/ )
  • จุดชมวิวสามอ่าว
  • บ้านตีลังกา
  • แหลมพรหมเทพ
  • ร้านแหลมหิน
  • ร้านโกชัยปาท่องโก๋
  • ตลาดชิลวา(ไม่ได้ไป)

กล้อง

  • Canon 60D, Gopro Hero 4

ค่าใช้จ่าย(ต่อคน)

  • ค่าเครื่องบินไปกลับภูเก็ต ประมาณ 385 บาท (โปรโมชัน)
  • ที่พัก Cassia phuket 2 คืน 1920 บาท
  • Daytrip(ครึ่งวัน) เรือยอร์ช 2800 บาท
  • รถเช่า Avis 570 บาท
  • ค่าน้ำมันรถเช่า 175 บาท
  • ค่าเข้าชมเสม็ดนางซี 30 บาท
  • ค่าเข้าชมบ้านตีลังกา 250 บาท
  • ค่ากินและอื่นๆ 1000 บาท

รวมค่าใช้จ่าย 7130 บาท

ทริปนี้ 4 คน ทริปก่อนก็ 4 คน เพราะโดนเพื่อนเทไป 1 คนทั้งสองทริปเลยครับ แหม่ แต่ยังไงทริปก็ต้องดำเนินต่อลุย……..


วันแรก

ก่อนวันเดินทางมีข่าวเครื่องบินไถลรันเวย์ที่สนามบินภูเก็ต ทำเอาพวกเราจิตตกเบาๆ นึกในใจไม่เป็นไรๆ

พวกเราออกเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย มาถึงก่อนเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ไฟล์ท 6 โมงเย็น อากาศครึ้มๆ ฝนไม่ตก ได้แต่นั่งๆ นอนๆ รอเวลาขึ้นเครื่อง

ชั่วโมงกว่าๆ ลงสู่สนามบินภูเก็ต อย่างปลอดภัยไม่มีการไถลใดๆทั้งสิ้น อิอิ (เหมือนว่าฝนตกไปแล้ว คืนนี้เลยไม่เจอฝน)

ติดต่อ Avis รับรถ เช็ครถให้เรียบร้อย

มุ่งตรงสู่ที่พัก Cassia Phuket อยู่ในโครงการ Laguna Phuket เช็คอินๆ

บรรยากาศในโรงแรม ห้องพัก และบริเวณโดยรอบ (จองห้องวิวสวนไว้ พอดีทางโรงแรมมีโปรโมชันอัพเกรดห้องฟรี เป็นวิวทะเลสาบ กรณีห้องพักว่าง พวกเราก็ได้สิทธิ์นั้นทันทีครับ โชคดีจริงๆ)

ชื่นชมกับห้องพักเสร็จแล้วก็ไปหาของกิน เนื่องจากไม่ได้พักในตัวเมืองแหล่งของกินอาจจะหายากหน่อย ขับออกมาสักพัก เจอเซเว่นและร้านก๋วยเตี๋ยว ก็ไม่รอช้า จัดเลย

จากนั้นก็ซื้อขนมกลับไปกินเล่นที่โรงแรม (ภาพจากระเบียงห้อง)


วันที่สอง

วันนี้ daytrip ครึ่งวันของพวกเราเริ่มตอนบ่าย-เย็นครับ เลยไม่ต้องรีบตื่น กว่าจะตื่นกันก็ 7 โมง ทำธุระส่วนตัว มื้อเช้าของโรงแรม

เดินออกมาที่สระว่ายน้ำโรงแรม โอ้โหสระกว้าง วิวทะเลสาบรอบๆก็เวิร์ค

รออะไรล่ะ ถ่ายรูปวนไปครับ

ภาพหมู เอ้ยภาพหมู่

และก็ไม่พลาด โดดเลย ตูม!!!

แต่เล่นน้ำสักพัก ฝนมา กลับขึ้นห้องอาบน้ำแต่งตัวไปเที่ยวเลยดีกว่า 555+

ก่อนที่จะเราจะไปล่องเรือยอร์ช ก็ไปแวะจุดชมวิวสามอ่าว(หาดกะตะน้อย กะตะ กะรน เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว) ระหว่างทางไปฝนตกประปราย โชคดีตรงจุดชมวิวฝนไม่ตก เลยได้ลงไปเก็บภาพ

สวยงามๆ

ใกล้ได้เวลาที่ต้องไป daytrip เรือยอร์ชแล้ว ทางทัวร์นัดพวกเราไว้ 13.15 ที่ท่าเรือ Dolphin Pier

เหมือนพวกเราจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ไปถึง 55+

เรือยอร์ช 1 ลำ จะรับนักท่องเที่ยวได้ 20 คน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนจีนทั้งนั้นเลย มีแค่พวกเราที่เป็นคนไทย T_T

แม้วันนี้ท้องฟ้าจะไม่เป็นใจ แต่ยังดีที่ฝนไม่ตก ไม่มัวพูดพร่ำทำเพลงรีบไปขึ้นเรือยอร์ช

ได้เวลาแล้วก็ออกไปสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่….

ขึ้นเรือปุ๊บ ไกด์ก็ต้อนรับด้วยเครื่องดื่มโค้กกระป๋อง ดับร้อน

ไกด์บอกพวกเราว่า จะใช้เวลาเดินทางไปเกาะไม้ท่อนประมาณ 45 นาที จะนอนชิลหน้าเรือ นั่งชมวิวหรือถ่ายรูปชิคๆ ก็ตามสบายเลยทีนี้

ถ้าแดดออกฟ้าจะสวยกว่านี้ เสียดายจัง - -

ก่อนจะขึ้นเกาะไม้ท่อน ไกด์จะให้พวกเราดำน้ำ ดูปะการังก่อน แต่มาหน้ามรสุม ต้องทำใจหน่อยครับเพราะน้ำทะเลไม่ค่อยใสเท่าไหร่ ไกด์บอกมีเวลาให้ดำน้ำประมาณ 30 นาที เอ้าเริ่ม!!!

เห็นได้ว่าน้ำไม่ใสเท่าไหร่

ดื่มด่ำกับน้ำทะเล เอ้ยธรรมชาติใต้ทะเลไปแล้วก็ขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง

ถึงแล้วเกาะไม้ท่อน เจ้าหน้าที่จะให้ริสแบนด์คนละอัน ห้ามทำหายนะครับ

เกาะไม้ท่อนมุมกว้างงงง (อยากจะมีโดรนสักอัน T_T)

ชายหาดยาวมาก ทรายขาวด้วย ไกด์บอกกับพวกเราและลูกทัวร์ว่า ช่วงเวลานี้เป็นการพักผ่อนบนเกาะ เล่นน้ำ ถ่ายรูป นั่งนอนเก้าอี้ชายหาด อีก 1 ชั่วโมงมาเจอกันพร้อมรับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์

และกิจกรรมยามว่าง พักผ่อน คงไม่พ้นการถ่ายรูปรอบบริเวณชายหาด

อย่างที่บอกถ้าแดดออกสักหน่อย จะสวยกว่านี้เยอะเลยครับ (อยากจะกลับไปถ่ายใหม่

เสร็จจากถ่ายรูปพวกเราก็ อาบน้ำล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าไปรับประทานอาหารครับ (ข้าวผัด ต้มยำ ไก่ทอด บาบีคิว สปาเก็ตตี้ ผลไม้ ) ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ หิวจัด 55

อิ่มแล้ว ก็ได้เวลากลับ (ตามจริงบนเกาะมีอะไรให้ทำอีกหลายอย่างเลยครับจุดชมวิวก็มีแต่ไม่ได้เดินไปเพราะฝนทำท่าจะตกตลอดเวลา เสียดายอยู่เหมือนกัน) เดินไปท่าเรือ

อำลาเกาะไม้ท่อน

ขึ้นเรือๆ เรือมาล่ะ เหมือนว่าขากลับพวกเราจะเจอฝนด้วย ฟ้ามามืดเลย เรือออกไปสักพัก ได้ยินเสียงไกด์ตะโกนว่า โลมา โลมา !!! ทุกคนจากที่นอนๆชิล รีบลุกกันทุกคน พวกเราดีใจมากเพราะไม่คิดว่าจะเจอโลมา มาว่ายน้ำ เล่นน้ำใกล้ๆเรือ ว่ายมาบนผิวน้ำด้วย ทุกคนต่างส่งเสียง ว้าววว โหหห เหมือนกับว่าทุกคนยิ่งส่งเสียงมันยิ่งโชว์จัดเต็ม 555+

โลมาไปแล้ว สงสัยเหนื่อย หรือออกนอกพื้นที่ที่มันอาศัยอยู่มากเกินไป จากนั้นพวกเราก็เจอกับฝน แต่ไม่หนักมาก ใช้เวลาเดินทางกลับเข้าฝั่งประมาณ 45 นาที ประทับใจมากๆครับ daytrip วันนี้

จากนั้นก็ขับรถเข้าเมืองไปหาของกินเบาๆ ที่หาข้อมูลมาคือจะไปกิน ร้านโกชัยปาท่องโก๋ ก็ได้กินสมใจครับ

ร้านนี้ตั้งอยู่ ถนนภูเก็ต (หัวมุมถนน สี่แยกบางเหนียว) จอดรถริมถนนได้เลย

อิ่มแน่นท้องกันทุกคนล่ะ กลับที่พัก

วันที่สาม

วันนี้พวกเรานัด 5.15 เผื่อจะขับรถไปชม จุดวิวเสม็ดนางซีตอนพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งห่างจากที่พักพวกเราประมาณ 50 กว่ากิโลหรือประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที แต่ก็ต้องลุ้นอีกแหละว่าจะเห็นพระอาทิตย์ไหมหรือฝนจะตกหรือเมฆจะปิดอีกรึเปล่า ระหว่างทางขับไปก็ลุ้นกันตลอด โชคดีอีกที่ฝนไม่ตก

ถึงแล้วทางขึ้นจุดชมวิวเสม็ดนางซี จ่ายค่าธรรมเนียม 30 บาท เดินขึ้นไป 300 เมตร ทางลาดชันหน่อย ระวังลื่นกันด้วย 55+ จะถึงแล้ว ใกล้แล้ว ใกล้แล้วนะ

โค้งหน้าๆ………..โอ้โห สวยงามมาก ไม่ผิดหวังที่ขับรถมาชั่วโมงกว่า ข้างบนนั้นมีแค่พวกเราเองครับ ถ่ายรูปสบายเลย

พาโนรามา

มีห้องน้ำบริการด้วย เพราะข้างบนนี้สามารถกางเต็นท์ได้ครับ ถ้าไม่ใช่หน้าฝนก็น่ามากางเต็นท์อยู่นะ

กลับที่พัก กินมื้อเช้าโรงแรมและเช็คเอ้าท์ไปเที่ยวกันต่อ สถานที่ถัดไปจะไปกันที่บ้านตีลังกา ค่าเข้าชม 250 บาท(แพงไปหน่อย)

เจ้าหน้าที่จะแนะนำการถ่ายรูปมุมต่างๆ บอกเลยว่าไม่ยากเกินไป ถ่ายกันเพลินเลยครับ 55+

ห้องนอนและห้องน้ำ

ห้องใต้หลังคา

และก็ได้เวลาอีก 1 มื้อ มื้อนี้เราจะไปกันที่ร้านอาหารแหลมหินซีฟู้ด ริมทะเล อยากกินอะไรก็สั่งเลยยยย

หนังท้องตึงแล้วหนังตาต้องไม่หย่อน เพราะเราจะไปกันต่อที่ แหลมพรหมเทพ กินลมชมบรรยากาศและดูพระอาทิตย์ตก ฟ้าเปิดแล้วดีใจสุดๆ

คนก็เยอะ ทัวร์จีนก็เยอะ

พวกเราเดินลงไปข้างล่างเกือบสุดแหลมเลยเพื่อภาพที่สวยงาม

ลมแรงมากแทบจะพัดตัวปลิวเลย 55+

ลากันด้วย 360

โบกมือลาภูเก็ต ได้เวลาไปสนามบิน ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ ทริปนี้สอนให้รู้ว่า อย่ามาทะเลหน้าฝนเลย 555+

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและสนุกไปกับการเดินทางของพวกเราครับ ฝากไลค์ฝากแชร์ฝากแคร์กันด้วยนะครับ


ติดตามเรื่องราวของผมได้ที่ เพจ "เที่ยวออกเดิน" by Fun_O

https://www.facebook.com/TiewOkDern/
https://th.readme.me/id/funotravel
http://pantip.com/profile/2443477
http://chillblog.chillpainai.com/index.php?c=home&...

Fun_O

 วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.36 น.

ความคิดเห็น