ทุกครั้งที่ออกเดินทาง เรามักคาดหวังเสมอว่าปลายทางจะต้องเจอกับความสวยงาม เรื่องราวสนุกสนานต่างๆ มากมาย แต่จากประสบการณ์ท่องเที่ยวในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา มันทำให้ "ดินสอขอเขียน" เริ่มคาดหวังน้อยลง เพราะเมื่อใดที่เราไม่คาดหวัง สิ่งที่ได้รับกลับมามันจะมีค่าและสวยงามเสมอเช่นเดียวกับทริป "เกาะกูด" ทริปนี้

"เกาะกูด" เป็นเกาะสุดท้ายปลายสุดทะเลตะวันออก เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้าง มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทะเล และน้ำตกให้เราได้เลือกเที่ยวตามความชอบใจ เราเลือกเดินทางไปเกาะกูดด้วยรถทัวร์ของบริษัทเชิดชัย ออกจากกรุงเทพฯ ตอน 23.30 น. ถึงตราดประมาณตี 4 จากนั้นก็นั่งรถมารับเพื่อไปลงสปีดโบ๊ท

ประมาณ 9 โมงกว่าๆ รถกระบะที่รอก็มารับ "ดินสอขอเขียน" และเพื่อน จากนั้นก็ตระเวนรับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ตามรีสอร์ทต่างๆ เพื่อไปลงเรือสปีดโบ๊ท เรือออกจากท่าเกือบๆ 10 โมงครึ่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงเกาะกูด แต่ต้องคอยส่งนักท่องเที่ยวตามรีสรอ์ทต่างๆ อีกเช่นเคย และเนื่องจากเป็นเรือโดยสาร จึงไม่ได้มาส่งที่หน้ารีสอร์ทที่เราจองไว้ เราจึงต้องต่อรถไปอีกประมาณ 30 นาที ทำให้ถึงรีสอร์ทประมาณเที่ยง

กิจกรรมวันนี้ของเราคือการไปเที่ยว "น้ำตกคลองเจ้า" ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของเกาะกูด น้ำจะเยอะในช่วงหน้าฝน แต่วันนี้ที่เราไป น้ำค่อนข้างน้อย อย่างที่เห็นในรูป สามารถลงเล่นได้แป๊บนึง เพราะมีเวลาให้ไม่นาน ส่วนตอนเย็นของวันนี้ "ดินสอขอเขียน" ยังไม่ลงเล่นน้ำ เพราจะรอถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกค่ะ แต่ยังไม่ได้ภาพที่สวยงามดังใจนัก ไม่เป็นไร ยังมีพรุ่งนี้ให้แก้มืออีกวัน

วันที่สองของการอยู่บนเกาะกูด คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการเดินเล่น ถ่ายรูปทะเล และรีสอร์ท ลืมบอกไปว่า "ดินสอขอเขียน" พักที่ "เกาะกูด อ่าวพร้าว รีสอร์ท" ตั้งอยู่ทางใต้สุดของเกาะกูด บนชายหาดที่มความยาวที่สุดบนเกาะกูดอีกเช่นกัน โดยมีความยาวถึง 900 เมตรเลยทีเดียว ภายในรีสอร์ท ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ โดยเฉพาะต้นมะพร้าวจนเป็นที่มาของชื่ออ่าวพร้าวนั่นเอง ไม่ว่าจะเลือกนั่งตรงไหนของรีสอร์ท ก็มีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน "ดินสอขอเขียน" หลับสบายมากๆ เลยแหละค่ะ

จากนั้นเราขอออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการพายคายัคไปชมป่าโกงกางกันซะหน่อยดีกว่า ความมีเสน่ห์ของเกาะกูดนั้นอยู่ที่มีส่วนของน้ำทะเลบรรจบกับน้ำจืด สามารถพายเรือคายัคเข้าไปชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ชมป่าโกงกาง ธรรมชาติสุดๆ เลยแหละ
ส่วนกิจกรรมยามบ่ายของวันนี้หนีไม่พ้นการเล่นน้ำทะเลนั่นเอง น้ำทะเลที่อ่าวพร้าวของเราใส สะอาด คลื่นไม่แรง และไม่มีโขดหิน สามารถลงเล่นน้ำ และว่ายน้ำได้อย่างสบายเลยแหละ การว่ายน้ำในทะเลเป็นอะไรที่ท้าทาย และสนุกสุดๆ เลยสำหรับ "ดินสอขอเขียน"

หากใครที่อยากดำน้ำ ทางรีสอร์ทก็มีแพ็คเกจทัวร์ไปดำน้ำที่เกาะรัง สามารถเลือกเป็นแพ็คเกจแบบ 3 วัน 2 คืน หรือจะเลือกแบบ one day trip ก็ได้ แต่ "ดินสอขอเขียน" ไม่ได้ไป เราเลือกที่จะเล่นน้ำและถ่ายรูปเล่นที่รีสอร์ทแทน

แม้ว่าทริปนี้จะไม่มีกิจกรรมอะไรมากนัก เป็นการพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อจะได้กลับมาทำงานต่ออย่างสดใส ทุกการเดินทางล้วนมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น และสร้างความประทับใจให้เราเสมอ และทริปนี้ก็เช่นกัน "รักเธอนะ...เกาะกูด"

ติดตามเรื่องกินเรื่องเที่ยวของ "ดินสอขอเขียน" ได้ที่ www.facebook.com/EatAndTravelWithTT กันนะคะ