....... ปลายปีของทุกปีผมกับภรรยาจะจัดทริปใหญ่ เดินทางท่องเที่ยวกันสองคนหลังจากทำงานหนักมานาน (จริงๆตัวผมก็แอบออกทริปกับเพื่อนๆบ่อยๆ) ขับรถสองคนตายายอยากถ่ายรูปตรงไหนก็จอด แสงไม่สวยก็ขับต่อไป เรียกได้ว่าชิวชิวกันไปเรื่อยๆ

ปีนี้ตัดสินใจวิ่งเส้นทางจังหวัดน่านทะลุไปยังเชียงราย ระยะทางเท่าไหร่ไม่ได้ดู ใช้วิธีคำนวนระยะทางด้วย GPS เป็นช่วงๆ วางแผนกันเป็นตอนๆ แต่กำหนดจุดหลักๆที่จะไปนอนพักไว้ แล้วก็ จุดชมวิวไฮไลท์ ไว้ก่อน

วันเดินทางก็หยิบเต้นท์ กราวด์ชีท กระเป๋าเสื้อผ้า โยนใส่ท้ายรถ และที่ลืมไม่ได้คือกล้องคู่กาย ปีนี้พกเลนส์เต็มพิกัด (ก็เอารถไปเองนินา อิอิอิ) ภรรยาบ่นจะบ้าหอบฟางไปไหน

กล้อง Sony A7 II + 28-70 F3.5/5.6 Kit + Samyang 12mm Fisheye + EF 70-200 F4 canon + Commite Adapter + Mamiya 55/2 มือหมุน + Nikkor C 500mm Reflex



สตาร์ทเครื่อง GPS พร้อม กล้องพร้อม คนพร้อม ไปกันเลย ..........



วันแรก เราเดินทางกลางคืนจากระยองมุ่งหน้า ดอยเสมอดาว ตั้ง GPS ไว้ระยะทาง 600 กิโลเมตร ขาดเกินไม่แน่ใจ แต่ GPS บอกว่าเราจะถึงที่หมายช่วงบ่ายสองโมง เราขึ้นทางแพร่ต้องผ่านอุทยานแห่งชาติขุนสถาน แว๊ะไปดูดอกชมพูถูคา เจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่บาน เราจึงมุ่นหน้าต่อด้วยซิตี้คันเล็กของเราสองคน ถึงจุดหมายบ่ายสองกว่าๆ ตามที่ GPS แจ้งไว้ จัดแจงหาพื้นที่กางเต้นท์ที่ถอยมาใหม่ พื้นที่ค่อยข้างจำกัดเนื่องจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาตาเพราะเป็นช่วงหยุดยาว คืนนี้เราจะถ่ายดาวกัน น่าเสียดายที่เดือนนี้ทางช้างเผือกจะเห็นแต่ปลายๆแล้วไม่ชัดเจนเท่าไหร่


จัดการตังกล้องใส่เลนส์ Fisheye ดัน ISO สูงหน่อย เปิด F2.8 ลาก Speed 20Sec เพื่อไม่ให้ดาวเบลอ (แต่มันก็เบลออยู่ดี อิอิอิ)

เช้าตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปรอถ่ายทะเลหมอกและเก็บดาวช่วงเช้า อัตราผู้ชมยังคงหนาแน่นเช่นเดิม เรากล้องเล็ก แต่ขาใหญ่ น้องๆเลยไม่ค่อยกล้าเข้าหน้ากล้อง จนต้องบอกน้องๆเข้าไปถ่ายได้เลยไม่บังกล้องพี่หรอก สังเกตุยุดนี้ กล้องไร้กระจกจะฮอตฮิตมากครับ รวมถึงตัวผมเองด้วย ที่ใช้กล้องไร้กระจก



กดชัตเตอร์นานๆรูปหูก็ฟังน้องข้างๆอธิบายการถ่ายภาพให้กับกลุ่มเพื่อนๆฟังพร้อมกับกดชัตเตอร์อย่างเมามัน ขาใหญ่อย่างเรายังต้องแอบหลบๆกลัวโดนลูกหลงเป็นพักๆ จนกระทั้งพีะอาทิตย์ขึ้นก็ได้เสียงน้องเค้าเนี้ยล่ะบอกว่า ขึ้นแล้วๆ ..... อะไรขึ้นล่ะน้องเอาให้ชัดพี่ล่ะกลัวจริงๆ อิอิอิ



ตั้งสติได้หลังจากเสียงชัตเตอร์เหงียบลง รีบเก็บเต้นท์เพราะเสียงประกาศให้เราไปขยับรถ เวรกรรมเพราะเราจอดอยู่หน้าสุด คันที่มาที่หลังต้องการออกก่อน มันไม่เป็นไปตามเข้าก่อนออกก่อนแฮะ มันกลายเป็นเข้าหลังออกก่อน อืมม จัดไปลงจากดอยเสมอดาว 7.30น. จะเช้าไปไหน ลงมาหาข้าวกินในตัวอำเภอนาน้อยก็ได้ แหมมมรีบไล่กันจัง



หลังจากหาข้าวใส่ท้อง หาคาเฟอีนเข้ากระแสเลือด จุดหมายต่อไปเราตั้งใจจะไปไหว้พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำปีเกิดปีกระต่าย ตั้งใจจะมาไหว้นานหลายปีล่ะแต่ก็ยังไม่มีโอกาส ปีนี้สบโอกาสถือว่ามีวาสนาที่ได้มา



ไหว้เสร็จกะว่าจะตามรอยของกินประจำเมืองน่าน แต่ลืมไปว่าวันนี้ 11 ธันวาคม 2558 วันปั่นเพื่อพ่อ ผู้คนมหาศาล และมีการปิดถนนบางส่วน การหาของกินจึงเจอแต่อาหารหมด กับผู้คนเต็มร้าน จึงตัดสินใจเข้าที่พัก แล้วค่อยออกไปเก็บวิวที่พระธาตุเขาน้อยตอนเช้าเลยดีกว่า ... ช่วงเย็นๆก็ยังพอมีถนนคนเดินให้ภรรยาได้เดินช๊อป ของฝากและของกินอยู่บ้างแต่เนื่องจากอาการแพ้ผู้คนจึงได้กลับที่พักเร็วไม่ได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ ปรับแผนมาเก้บภาพตอนเช้าที่ผู้คนไม่เยอะดีกว่า



วันที่สาม หลังจากออกจากเมืองน่าน เราก็มุ่งหน้าสู่ภูชี้ฟ้า ผ่านเส้นทางน่าน - เชียงคำ เส้นทางคดเคี้ยวขึ้นลงเขาสูงต่ำมากมายเล่นเอาภรรยาหลับไม่ลง แต่ด้วยความสามารถของคนขับกับรถดีๆ ก็ผ่านมาถึงเวียงคำด้วยสวัสดิภาพ มีก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นพริกไทยดำแสนอร่อยคลายหิว และกาแฟอร่อยๆ ดับความเหนื่อยเมื่อยล้าลงไปได้ พร้อมลุยสู่ภูชี้ฟ้า "ไร่ภูฟ้า" จุดหมายปลายทาง ป้าแดงทำอาหารเตรียมไว้รอแน่ๆ


เราขึ้นภูชี้ฟ้าผ่านทางภูซาง มีน้ำตกฟอร์มสวยอยู่ริมทางด้วย ได้แว๊ะพักเหนื่อย



เย็นๆเอาเลนส์ออกมาถ่ายนกแถวๆที่พัก ก็ชิวดีครับ ป้าแดงใจดี ผมก็ต้องดีใจหายเช่นกัน



เย้นๆป้าแดงบอกว่าให้ไปชมพระอาทิตย์ตกน่ะสวยมาก ณ ลานจอดฮอล์ ก่อนกลับมากินข้าวกัน ป้าจะได้ทำกับข้าวไว้รอ ปลาทอด ผัดผัก น้ำพริกหนุ่ม ไข่เจียว ...โอ้ยน้ำลายไหล ไม่เป็นอันจะถ่ายรูปล่ะ อิอิอิ



...... เช้าตีห้ารถมารับขึ้นภูชีฟ้า หวังให้เจอทะเลหมอก และแสงแรกฟ้าสวยๆ หวังนั้นไม่ทำให้ผิดหวังครับ รอบนี้สมใจผมได้ภาพที่อยากได้


ถือว่าคุ้มค่าครับ ภาพแทบไม่ต้องรีทัชใดๆก็ออกมาสวยสมใจแล้ว



ตอนฟ้าสว่างนั่งรถกลับ สังเกตุเห็นต้นพญาเสือโคร่งเต็มสองข้างทาง ถ้าเค้าบานพร้อมกันคงสวยหน้าดู บอกกับป้าไว้จะโทรมาถามว่าบานเมื่อไหร่ ต้องไปเก็บให้ได้ ซากุระที่ภูชีฟ้า



จบทริปลงตรงนี้ มุ่งหน้ายาวๆกลับระยอง 16ชั่วโมง กับซิตี้คันเก่ง กับภรรยาแสนน่ารัก ดูแลกัน สนุกด้วยกันตลอดการเดินทาง เถียงกันบ้างเป้นเรื่องเล็กน้อย ทนหิวทนร้อน ทนหนาว ด้วยกัน คู่ชีวิตตัวจริงเสียงจริง ยิ่งกว่าเดอะว้อยซ์ เสียอีก อิอิอิ

Suwit Gamolglang

 วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.28 น.

ความคิดเห็น