........
สวัสดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เพื่อนๆทุกท่านค่ะ
ช่วงเดือนเมษาที่ผ่านมา ได้รวบรวมพลเพื่อนๆมหาลัยไปเที่ยว มาเก๊า มาค่ะ
ไปกัน 4 คน หลงทิศบ้าง งงๆ มึนๆ แต่ก็เที่ยวได้ตามแพลน
3วัน2คืน ที่เที่ยวได้ไม่มาก แต่ก็คุณภาพนะคะ
มาดูกันค่ะ ว่าเราไปไหนกันบ้าง
DAY 1
เริ่มต้นเดินทางจาก สนามบินดอนเมือง
เนื่องจากตั๋วนี้เป็นตั๋วโปรที่ซื้อกันไว้นานมากกกกก
ของ Airasia ซึ่งมันถูกมาก 2XXX ไป-กลับ คือมันดีๆๆๆๆ ไม่รวมเป๋านะคะ
รวมเป๋าก็ 3XXX แล้วแต่ใครอยากโหลดเป๋าเท่าไหร่
Flight
DMK 3.45 PM (15.45) -----> MFM 7.15 PM (19.15)
MFM 10.10 PM (22.10) -----> DMK 11.55 PM (23.55)
สกุลเงิน มาเก๊า = MOP
RATE 4.35 - 4.38 (คือแลกหลายรอบค่ะ ขึ้นอยู่ ณ วันนั้นๆ)
เราถึง มาเก๊า เกือบๆ 2 ทุ่มได้ กว่าจะหาวิธีไปที่พัก ก็วนกันไปมาพักนึง
ไม่กล้าขึ้นรถเมล์กลัวหลง เลยนั่งแท็กซี่ (ประเด็นคือ หาที่จอดรถเมล์ ใม่เจอ 5555++)
ถ้าใครอยากขึ้นรถเมล์ หรือ รถฟรี พอเดินออกมาจากสนามบิน ให้เลี้ยวขวาแล้วเดินไปเรื่อยๆ
ผ่านตรงที่จอด Taxi เดินไปพักนึงก็จะเห็นคิวรถค่ะ ....
จากสนามบินไปที่พัก ใช้เวลาไม่นานมากนัก นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ
แท็กซี่ก็ชวนคุยมาตลอดทาง ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง 5555++
คือ Taxi ที่มาเก๊า จะกดมิดเตอร์ 2 รอบ เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไม
เราคิดว่าเค้าโกงตอนแรก แต่พอขึ้นมา 2 คัน ถึงรู้ว่า เหมือนกันหมดเลยอะ
อันนี้วานผู้รู้มาบอกหน่อยค่ะ !!!
Map การเดินทางจาก สนามบินมาเก๊า - Macau Masters Hotel
ก็ใช้เวลาไม่นานนะคะ นั่ง Taxi มาก็สะดวกดี
ค่า Taxi 95MOP ที่เราจ่ายไปค่ะ หารกัน 4 คน ก็ไม่เท่าไหร่
Taxi ที่นี้ใช้ TOYOTA Camry นะจ๊ะะะะ ไม่ธรรมดาาาาาาาา
ที่นั่งสบาย นั่งได้สูงสุด 4 คน
เราพักกันที่ " Macau Masters Hotel "
พอถึงที่พัก ก็เช็คอิน เราจองที่พักผ่าน Agoda แจ้งไว้แล้วว่าเช็คอินล่าช้า
มันเหลือ 2 ห้องสุดท้ายด้วยค่ะ โชคดีสุดๆ
จริงๆ มาจองที่นี้ ก่อนเดินทางไม่กี่วัน เพราะยกเลิกอันเก่าไป
กลัวว่าไปถึงมึด แล้วจะหาที่พักไม่เจอ เลยเอาแบบอันที่ชัวร์ๆดีกว่า
เราชอบจองก่อนจ่ายทีหลัง สำหรับเรามันก็สะดวกดี
สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หน้าโรงแรม มีป้ายรถเมล์ อยู่นะคะ
สามารถนั่งรถเมย์สาย 26 และ MT4 มาลงป้าย Rau Das Lorchas (M137)
(อันนี้เรายังไม่เคยนั่งมาลง คนที่อยากนั่งรถเมล์ลองศึกษากันดูนะคะ)
** ห้อง Standard 2 เตียง **
** 2740 บาท / 2 คืน / คน **
ที่นี้ถือว่าราคาไม่แพงสำหรับพวกเราค่ะ
ห้องแต่ละห้องก็จะต่างกันไป แล้วแต่ดวงว่าห้องจะใหญ่แค่ไหน
เราจองห้องแบบ 2 เตียง จะได้ไม่ต้องมาเบียดกัน อิอิ
อย่างห้องของ จขกท ห้องนี้วิวดี มองออกไปก็เห็น แกรนด์ ลิสบัว ด้วย สวยยยยย ++
ห้องน้ำก็ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้เล็กเกิน มีอ่างอาบน้ำด้วย
ไม่ต้องไปเกยกะชักโครก มีอ่างล้างหน้าแยกออกมา เป็นสัดส่วน
สิ่งที่มีในห้อง
- ผ้าเช็ดตัว + ผ้าผืนเล็ก
- Slippers ใส่ในห้อง
- ตู้เย็น (ขนาดเล็ก)
สิ่งที่มีให้ในห้องน้ำ
- แชมพู + ครีมนวด (ขวดเล็ก)
- แปรงสีฟัน + ยาสีฟัน (หลอดเล็ก)
- สบู่ก้อน
- หมวกคลุมผม
- ไดร์เป่าผม
พอเก็บของเสร็จ เพื่อไม่ให้เสียเวลา พวกเราจะไปเดินเล่นกันที่
" Senado square "
จากที่พักสามารถเดินไปได้ค่ะ เราก็ศึกษาจาก google map เอา
ให้พี่จีนำทางไป ประมาณ 7 นาที เดินไปเพลินๆค่ะ
ประมาณ 2 ทุ่ม ไม่น่ากลัวนะคะ มีคนเดินเป็นเพื่อนเยอะเลย
แต่ทางมันจะต้องเดินขึ้นเนิน อาจเหนื่อยนิดนึง แต่อากาศไม่ร้อนค่ะ
ตามทาง ร้านค้าบางร้านก็ยังไม่ปิดนะคะ
มีร้านชานมไข่มุกหลายร้านเลย ช๊อบชอบ
สาวกชานมอย่าพลาดค่ะ
" Senado square "
มาเพื่อไปถ่ายรูปกับ " Ruins of St. Paul's "
เดินๆมาเรื่อยๆ ก็หลงทิศ 5555++
เลยไปเจอ McDonalds แล้วมันมีไอติมรสมันม่วงงงงงงง จะพลาดได้อย่างไร
รสชาติมันก็จะแบบ มันม่วง อะแหละค่ะ 555555555++
มันม่วงงงงงงงงงงงงงง สุดๆ อิอิ
" Ruins of St. Paul's "
แลนมาร์ค มามาเก๊าก็ต้องมาถ่ายรูป
ตอนมึดๆ ก็จะมีวัยรุ่น และหลายๆรุ่น มานั่งรวมตัวกันที่นี้ค่ะ
ตอนเราไป กลิ่นละมุดนี้ชัดมากกกก สาวๆก็ระวังกันด้วยนะ
มาหาอาหารเย็นกินกันค่ะ หาข้อมูลมาว่าร้านนี้อร่อย คนไทยชอบมา
" Wong Chi Kei "
ร้านบะหมี่ไข่เกี๊ยวกุ้ง
** เปิด 08.00-24.00 น. **
มานั่งปุ๊บ พนักงานก็เอาเมนูมาให้ พร้อมกับ ชาร้อน
มาดูเมนูของเรากันค่ะ
เมนู " wonton w/noodle in soup "
เกี๊ยวหมูอร่อยดีค่ะ รสชาติกลมกล่อม บะหมี่เส้นเล็กมาก
เมนู " shrimp dumping w/noodle in soup "
เมนูเกี๊ยวกุ้งล้วน (แต่ไม่แน่ใจว่าล้วนจริงมั้ย 5555++)
เมนู " deep fried frishballs "
เป็นลูกชิ้นปลาทอด เนื้อปลาแน่นดีค่ะ แต่น้ำจิ้มตรงกลางรสชาติไม่ไหว
มันมีกลิ่นแปลกๆ แล้วแต่คนชอบนะคะ
ทานกันเสร็จก็ได้เวลากลับไปนอนนนนนนนนนนนนน
จบไปสำหรับวันแรกค่ะ
..DAY 2..
เริ่มต้นวันใหม่ สดใสกว่าเดิม เราจะไป " วัดอาม่า "
จากที่พักเราก็เดินกันไปค่ะ ดูจาก map แล้วน่าจะเดินได้
ใน map บอกว่าเดิน ประมาณ 14 นาที คิดซะว่าชมเมืองไปเรื่อยๆค่ะ เพลินๆ
ให้ข้ามถนนมาอีกฝั่งของโรงแรม แล้วเดินตรงยาววววว เลยค่ะ
จากหน้าที่พัก เดินไปทางวัดอาม่า ก็จะมี 7-11 เล็กๆ
เดินไปเจอร้านซาลาเปา ไม่แพงด้วยค่ะ ร้านจะอยู่ในซอยตรงทางที่เราเดินนั้นแหละ
ลองมองดูนะคะ มีอยู่ร้านเดียว
" ซาลาเปา ไส้หมูแดง "
ไส้หมูแดงอร่อยมากกกกก แต่ว่าแป้งซาลาเปาจะเยอะไปซักหน่อย
แต่โอเคค่ะ จำราคาไม่ได้ แต่รู้ว่าไม่กี่ mop รู้แค่ว่าถูกไม่แพง
" A-Ma Temple วัดอาม่า "
เปิดให้เข้าชม : 07.00 – 18.00 น.
มาขอพร คือขอเป็นภาษาไทย 555555++
ไปดูรีวิวจากหลายๆกระทู้ บอกว่าให้ขอเป็นภาษาจีนนนน
ก็หวังว่าท่านจะเข้าใจพรของนู๋ๆๆๆๆๆ
ขอพรเสร็จแล้ว ลงมาข้างล่างเพื่อขอพรอีกค่ะ
มาเขียนชื่อลงบน กังหัน กระดิ่ง ? คือเรียกไม่ถูก ขออภัย
เขียนภาษาไทย ก็หวังว่าท่านจะอ่านออก
ก่อนกลับ อ่านมาว่า ต้องไปถูๆ ที่ชามใบใหญ่ หลังจากไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ให้ใช้มือถูไปมาบริเวณหูจับ หากมีน้ำกระเซ็นขึ้นมา พรที่ขอไว้จะสมหวัง โชคดี
ถูวนไปค่ะ ถูนานแค่ไหนน้ำก็ไม่กระเซ็นซักนิด 55555555555555+++
พอจบจากไหว้พระ เราก็จะไปเที่ยวกันต่อ
เราขึ้นรถเมล์สาย MT4 จากป้าย TEMPLE A MA จะไป Studio City
คือศึกษากันจาก google map แล้วก็ดูตรงป้ายรถเมล์ควบคู่กันไป
ค่ารถ มัน 4.5 MOP (ถ้าจำไม่ผิด) เรามีเหรียญ 5 MOP เลยหยอดไปเลยค่ะ
ไม่ได้เงินทอนนะ รถเมล์ที่นี้ต้องเตรียมเงินไว้ให้พอ หรือไม่ก็ใช้บัตรตื๊ดเอาค่ะ (ซึ่งเราไม่มี)
ตอนลง จขกท ไม่รู้เลยค่ะว่าป้ายที่ลงชื่ออะไร พอเห็น Studio city กดกริ่งเลยค่ะ
เหมือนจะเป็นทางเข้าข้างหลังนะคะ
จุดประสงค์ที่มาที่นี้คือ " Golden Reel กงล้อทองคำ "
Golden Reel กงล้อทองคำ อยู่ที่ Studio City ชั้น 3 BOX OFFICE
มีความสูงเหนือพื้นดินขึ้นไป 130 เมตร แต่ละแคปซูล นั่งได้ 8 คน
หมุนตามรางเป็นเลข 8 ตามความเชื่อฮวงจุ้ย เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต
และยังได้ชมวิวรอบเกาะไทป้ามุมสูงกันด้วย
สำหรับราคาค่าบัตร ผู้ใหญ่ HK$100
** เวลาเปิด-ปิด **
วันจันทร์-วันศุกร์ เปิดเวลา 11 โมง - 3 ทุ่ม
เสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 10 โมง - 4 ทุ่ม
ตื่นเต้นๆ จะได้ขึ้นวงล้อทองคำ 555555555++
มันก็จะมีพื้นที่เป็นกระจกด้วย นิดนึง เลยไปถ่ายรูปค่ะ
นั่งลงก่อนแล้วค่อย กระดึ๊บ 5555 กลัวมันแตกกก
จบไปอย่างสวยงาม วน 1 รอบ
พอออกจาก Studio City ก็เดินออกมาทางถนนค่ะ ฝั่งตรงข้ามเราก็จะเห็น หอไอเฟล
ออกมาถ่ายรูปกันนนนน
" หอไอเฟล จำลอง (มาเก๊า) "
ตั้งอยู่ที่ The Parisian Macau ค่ะ ถ้าใครอยากขึ้นไปก็มีค่าใช้จ่าย แต่เราไม่ได้ขึ้น
ถ่ายรูปกันข้างล่างก็พอ แค่นี้ก็สวยแล้ว
จากนั้นเราก็ไป
" Rua Do Cunha ถนนสายอาหาร "
ในแพลนวางไว้ว่าจะนั่ง Taxi ไป แต่พอเดินไปเดินมา
ก็เปลี่ยนใจ หารถฟรีนั่งไปดีกว่า เลยไปขึ้นที่ City of dream
เข้าไปแล้วจะมีป้ายบอกนะคะ ว่าให้ลงไปชั้นล่าง
จะมีรถบัสฟรีไปส่งที่ "หมู่บ้านไทปา" เราไปถามเจ้าหน้าที่ เค้าก็ชี้บอกว่าต้องไปขึ้นตรงไหนค่ะ
" Rua Do Cunha ถนนสายอาหาร "
ที่นี้ผู้คนคึกคัก ของกินเยอะค่ะ มีร้านพวกขนมของฝาก อร่อย
และที่นี้ก็มี ทาร์ตไข่ เจ้าดัง
และร้านนี้ ร้านดัง ร้านเก่าแก่ ร้าน " Casa de Cha Fong Kei "
ร้านนี้ก็จะขายทองม้วนแบบไม่มีไส้ แบบมีไส้หมูหยอง
และ คุกกี้อัลมอนด์ อันแสนเลื่องลือ เราก็ไม่พลาดไปต่อกันมาค่ะ
เพื่อนซื้อเยอะมากกกกกกกกกกก
เดินไปเดินมา ก็ต้องหาอะไรทานกันค่ะ อาหารกลางวัน
ก่อนมื้อหลัก ขอหา โอเด้ง ทานก่อน เพื่อนอยากมากินมากกก
เพื่อนก็พุ่งไปร้านนี้เลยค่ะ มีคุณลุงยืนอยู่
ของก็มีหลายอย่าง มันเยอะมาก อยากทานไรก็ ชี้ๆให้คุณลุงดูค่ะ
มีทั้ง ผัก เนื้อสัตว์ ลูกชิ้น บลาๆ แกก็เอาไปลงหม้อต้ม แล้วก็ราดน้ำจิ้ม
น้ำจิ้มมี 3 ระดับ : ไม่เผ็ด เผ็ดกลาง เผ็ดสุด (อร่อยดี)
นางแบบของเราค่ะ 55555++ ผู้ซึ่งอยากกินมากกกก
จากนั้นก็ไปหา อาหารมื้อหลักกันค่ะ เดินไปเดินมาก็มาเจอร้านนี้
" Cafe Kokoro "
มามาเก๊า มากินอาหารเกาหลีกันค่ะ 555555555555++
เป็นแนวฟิวชั่น มีกาแฟด้วย มีอาหาร มีของหวาน ครบครัน
ประเด็นคือ พนักงานแซ่บ 555 คู่ควรมากกกกกกกกก
ตัดภาพมาที่อาหารค่ะ อิอิ
# พิซซ่าหน้ากุ้งทอด แป้งดำ กรอบ อร่อยมากค่ะ
ไปกันหลายคน สั่งมาทานก็ยังทานไม่หมด -*-
อาจเพราะสั่งมาหลายอย่างเกิน
# สปาเก็ตตี้กิมจิ คืออร่อยมากค่ะ ต้องลอง
# Kimbup (김밥) อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก สั่งเลยยย
ราคา รวมมื้อนี้ คิดเป็นเงินไทยแล้วนั้นนนนนน 2XXX
ร้านนี้มี vat ด้วยนะคะ ถือซะว่าค่าชื่นชมพนักงาน 5555++
ได้เวลากลับถิ่นค่ะ เราก็ไปขึ้นรถตรงที่เราลง
รอรถบัสฟรี ขึ้นมาแล้วมาลงที่ Studio City ค่ะ รถฟรีของที่นี้มาพอดี
พอลงรถที่นี้แล้วก็ไปต่อแถว เพื่อไปลงให้ใกล้กับ Senado Square ที่สุด
อันนี้ลืมถ่ายรูปมาค่ะ ขอโทษด้วยจริงๆ ลองดูตามป้ายนะคะ ไม่ยากๆ
รถจะมาจอดใกล้กับ Senado Square พอลงรถเราก็เดินตาม GPS ค่ะ
ไปเดินเล่นกันอีกรอบ เพื่อซื้อของฝากกันค่ะ วันนี้คือซื้อแบบจัดหนัก
และวันนี้ เราจะมาช๊อปกันที่ " SASA " แหล่งช๊อปปิ้งที่ทำให้คุณหมดตัววววว
และนี้คือที่เราซื้อมาทั้งหมด :
ใครชอบแบรนด์นี้ ซื้อที่นี้จะฟินนนน เพราะมันราคาต่างกับไทยหลายร้อยเลยทีเดียว
จะแจงราคาเท่าที่พอจำได้นะคะ
# Fairydrops มาสคาร่า = ประมาณ 4XX บาท
ที่ไทยราคา 1XXX บาท โอวววววววว...ช่างต่างละเกินนนนนน มันก็ควรซื้อ ถูกมั้ยคะ ;)
# Bioderma 2 ขวด (โปรโมชั่นซื้อคู่) = ประมาณ 1,200 บาท
ที่ไทยตกขวดนึงก็ จะเป็นพันแล้วมั้งคะ มันก็ควรซื้อ
# evian สเปรย์น้ำแร่ : ขวดเล็ก + ขวดใหญ่ = ประมาณ 4XX บาท
อันนี้ก็ควรซื้อ เพราะคิดว่ามันถูกกว่าไทย
# rainbath neutrogena ** Recommend ** : ขนาด 32 fl oz (946ml) = 4XX
อันนี้มันแบบ คุ้มมมมมมมมมมมมมมมม มาก เพราะ ที่ไทยไม่มีขนาดนี้นะคะ
ขนาดที่ขายในไทย 473ml ราคา 399 บาท (Eveandboy)
จขกท ซื้อมาได้แค่นี้ เป๋าเต็ม @_@ เสียดาย อยากได้อีกขวด
ขวดนึง ใช้ได้ประมาณ 3 เดือน (เพื่อนบอกมา)
# Ajuste UV Spray SPF 50+ PA++++, Clean Savon (200g)
= ประมาณ ........ คือจำไม่ได้ แต่รู้ว่ามันคุ้มค่ะ 5555++
อันนี้ซื้อตาม น้อง เมอา กลิ่นหอมมมม ดี๊ดี
ตัดภาพไปยังขนม
# Egg Rolls
อร่อยมากกกกกกกกกกกก คือมันจะเป็นกล่องใหญ่ มันมีโปรตอนไปพอดีค่ะ
ไม่แน่ใจว่ามันมีแยกเป็นกล่องเล็กมั้ย
(ขออนุญาต ยืมภาพคนอื่นมาค่ะ)
# Almond Cookie อร่อยยยย
จากนั้นก็ควรกลับที่พักได้แล้วววว
เอาของไปเก็บที่พัก แล้วก็ออกมา ซุปเปอร์มาร์เก็ต
แถวๆที่พัก มี ซุปเปอร์มาร์เก็ต ด้วยนะคะ ตอนทางเดินกลับมาจาก เซเนโด้
ไปหาของกิน สำหรับคนหมดตัว 55555++ มื้อนี้ มาม่าาาาาาา
เพื่อนเหมากลับไทยเพียบ เดินไปตรงพวกน้ำๆ
ชาไต้หวันนนนนนน ของเค้าาาาาาาา ซื้อกลับมาหลายขวด
มาม่าเพื่อนรัก แฮปปี้ แล้วนอนซะ
DAY 3
และแล้ว วันกลับมาก็มาถึง
check - out แล้วฝากเป๋าไว้ที่ที่พัก แล้วไป เซเนโด้ อีกรอบ เก็บตก
เดินไปดูอีกซักรอบ อยากได้รองเท้า แต่ไม่มี size เลยอดดด
จาก เซเนโด้ มาร้านไม่ไกลค่ะ เดินมาเลย
" Chan Kuong Kei Casa De Pasto "
ร้านเป็ดย่างชื่อดัง ชางคองเก
ร้านนี้คนไทยชอบมาค่ะ ตอนเราไปต่อแถวก็มีคนไทยมาต่อเหมือนกัน
เห็นในรีวิวคนไทยมากันเยอะ เลยมากะเค้าด้วย ว่ากันว่า เป็ดย่างอร่อย
พนักงานที่ร้าน พูดไทยได้ด้วยนะคะ พูดได้แบบนิดๆหน่อยๆ
พวกเมนูต่างๆไรงี้ (พนักงานผู้ชาย)
หน้าร้าน ละลานตาละเกินนนน
เข้าไปในร้านคนเพียบเลย
มีเมนูติดไว้ข้างกำแพง
สั่งแบบ Spiced Mixed 65MOP
จะมี หมูกรอบ + หมูแดง + ไก่ + เป็ดย่าง
เราขอให้พนักงานแยก หมู+หมู ไก่+เป็ด ค่ะ เพราะเพื่อนเราเป็นอิสลาม
ส่วนผัก ก็พยายามมองโต๊ะอื่นๆ ที่มันจะเป็นชิ้นเล็กๆ แต่พอสั่งมาแล้วได้แบบนี้ 5555++
ก็อาจกินยากนิดนึง เพราะมันใหญ่ แต่มันอร่อยค่ะ ไม่ขม ผักอร่อย
หมูกรอบ + หมูแดง
- หมูกรอบ : เค็มไปนิดค่ะ ถ้าคนไม่ชอบเค็มอาจไม่ชอบ แต่มันอร่อยนะ
มันเป็นหมูกรอบอบมั้งคะ
- หมูแดง : อันนี้อร่อย อร่อยมากจริงๆ ควรสั่งค่ะ
เป็ด + ไก่
ไก่ต้ม : อร่อยค่ะ ฉ่ำๆ
เป็ดย่าง : คือ ดีมากกกกกกกกกกกกก สั่งค่ะ อย่าพลาดดดดดด
มื้อนี้คืออิ่มและอร่อยมาก คู่ควรแห่งการต่อคิว อิอิ
ไปไวหน่อยก็ไม่ค่อยมีคิวนะคะ แต้ถ้าไปช่วงกลางวัน
อาจต้องต่อคิวนานหน่อยยยย
กลับไปเอากระเป๋าแล้วไป เวเนเชี่ยน กันนนนนน
เรานั่ง Taxi ไป เวเนเชี่ยน ค่ะ เพราะว่ากระเป่าเดินทางแต่ละคนนั้นนน
หนักมากกกกกกกกก แล้วยังมีถุงงอกกันอีกเพียบ -*-
ขอนั่งไปแบบสวยๆแล้วกัน
Taxi พามาส่งตรงที่จอดบัสฟรีของ เวเนเชี่ยน ค่ะ
แล้วก็มุ่งหน้าไปหาที่ฝากเป๋ากัน
เราเข้ามาทางฝั่งฝากกระเป๋าพอดี ค่าฝากกระเป๋า 10MOP
คือเราอ่านมาหลายกระทู้ว่ามันมีฝากฟรี ฝั่ง west
คืออออ มันไม่ฟรีๆๆๆๆๆ เลยคิดว่าเรามาผิดฝั่งรึเปล่านะ
เลยไปถาม เจ้าหน้าที่ เค้าบอกว่า นี้แหละ ฝั่ง west - _ -
ก็เลยยอมเสียตัง เค้าก็จะถามเราว่า พักที่นี้มั้ย หรือว่าไปสนามบิน
ก็บอกเค้าไปค่ะ ว่าไป สนามบิน เค้าก็จะถามว่า ต้องการรับกระเป๋ากี่โมง
เค้าจะย้ายกระเป๋าไปฝั่ง main lobby ให้ค่ะ
พนักงานจะให้ตั๋วเรามาส่วนนึง เก็บไว้นะคะ อย่าทำหาย
ฝากเรียบร้อย ก็ไปชมเวเนเชี่ยน กันนนนน
" The Venetian Macao "
ที่เวเนเชี่ยน ก็มี ร้านทาร์ตไข่มากาเร็ตนะคะ มาซื้อกันที่นี้ได้
เดินวนไปค่ะ เดินไปเรื่อยๆ แวะร้านนั้น ออกร้านนี้ เพลินๆ
ได้รองเท้า adidass มา 1 คู่ " X_PLR SHOES "
ก็สมใจ ราคาประมาณ 3XXX บาท
ที่ไทยไม่แน่ใจว่าสีนี้มีมั้ย เห็นแบบมันสวยดีเลยเอามา จริงๆมันเป็นของผู้ชาย
มันมี size เลยซื้อเลย เป็นสาวเท้าใหญ่ ต้องทำใจ
ได้เวลากลับแล้ววววว เราก็ต้องไปหา main lobby ดูตามป้ายเอานะคะ
เราก็หลงเดินวนไปมา จนปวดขาไปหมด พอเจอก็เอาตั๋วที่เค้าให้ตอนที่เราฝากเป๋า
ส่งให้เจ้าหน้าที่เลยค่ะ เค้าก็ไปหากระเป๋ามาให้ เป็นอันเสร็จกระบวนการ
ไปต่อแถวขึ้นรถฟรีของ เวเนเชี่ยน เพื่อไป สนามบิน ฟินตรงนี้ๆๆ ไม่เสียเงิน
แล้วเราจะมาอีกกกกกกกกกกก
++++++++++++++++
ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านกันนะคะ
Khunhanazz
วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.30 น.