#เมืองร้อยนาแม่ลาน้อย

อ.แม่ลาน้อยได้ชื่อว่า เป็นเมือง ๑๐๐ นา

เพราะเต็มไปด้วยทุ่งนา โดยเฉพาะนาขั้นบันได

เนื่องจากภูมิประเทศเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน

ชาวเขาที่นี่คือ ชาวละว้า กับปกากญอ



ในอดีตชาวเขาที่นี่ดำรงชีพด้วยการปลูกฝิ่น

และทำไร่เลื่อนลอย สภาพป่าจึงเสื่อมโทรม

แห้งแล้งกันดาร ชาวบ้านอยู่อย่างลำบากยากจน



เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙

เสด็จมาในปี ๒๕๑๔ ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป

...........................................................................................



ไปเถอะ ไปด้วยกัน ไปดูหลากหลายเรื่องราว ไปถ่ายภาพทุ่งข้าวเขียว ๆ กับฉัน



#การเดินทางของเรา

ทริปนี้ฉันใช้บริการน้องนกไปลงสนามบินเชียงใหม่ และเช่ารถจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน

โดยใช้เส้นทางหลวง 108 ผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง ผ่านสวนสนบ่อแก้ว ผ่านแม่สะเรียง



ตัดฉับมาสนามบินเชียงใหม่เลย เช้าตรู่ ฝนตกด้วย

รับรถที่จองไว้ของไทยคาร์เร้น

แวะไปหาอะไรง่าย ๆ กินในกาดวโรรส



อื่มมมม ง่ายจริงอะไรจริง มาเชียงใหม่ กินข้าวมันไก่เมืองนนท์

แล้วก็เริ่มเดินทางกันเลย

#อุทยานแห่งชาติอบบหลวง



ยาวไป ๆ เส้น 108 เส้นทางสวยงาม ผ่าน อ.ฮอด เส้นทางสวยแปลก

แวะค่ะ เราประเภทแวะไปเรื่อยตลอดทุกทริป

เส้นนี้ผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง

ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว คนจะไม่ค่อยมีค่ะ

เดินเล่นสักพักก็ไปต่อ

#สวนสนบ่อแก้ว

ถัดมาจากอุทยานแห่งสักระยะ โซนนี้เริ่มเห็นสองข้างทางเป็นป่าสนหละ

ซ้ายมือเมื่อเจอป้าย ก็เลี้ยวลงไปค่ะ

แวะถ่ายรูปกันเพลิน ๆ

ซึเนโอะ นายมาทำอะไรแถวนี้!

#ถนนเส้นนั้นที่ฉันผ่าน

เส้นไปแม่ฮ่องสอนนี่สวยจริง ๆ อะไรจริง ผ่านภูเขา ผ่านทุ่งนา หมู่บ้าน ร้านกาแฟ

ระหว่างทางมีฝนตกบ้าง บางช่วงก็มืดครึ้มต้องขับระวัง

บางช่วงก็สว่างใส



มาเรื่อยจนถึง อ.สบเมย แม่ฮ่องสอน ฝนก็ลงหนัก

พอดีเจอร้านกาแฟริมทาง แวะหลบฝน หาอะไรดื่มสักหน่อย

ชื่อร้าน เกอเจ่อโค่ ร้านน่ารักดีค่ะ เครื่องดื่มก็ทั่ว ๆ ไปหละค่ะ

แต่ร้านวิวดีมากมาย เสียดายฝนตกเลยมืด ๆ ครึ้ม ๆ ไปสักหน่อย

#แม่สะเรียง

เมื่อฝนเริ่มบางเบา เราก็เดินทางต่อ

มาถึงแม่สะเรียง ฟ้าใสกระจ่าง เกิดอาการอยากแวะอีก ได้ยินมาว่า สาละวินอยู่แม่สะเรียง

ตั้ง GPS. อุทยานแห่งชาติสาละวิน



ก็ตามเส้นทางไปเรื่อย ๆ

หมู่บ้านย่านนี้สวยจัง

มาโผล่วิวแบบนี้

ที่นี่คือที่ไหนกัน

บ้านแม่สะลาบนั่นเอง

เจอแม่น้ำอะไรไม่รู้ แต่นั่นไม่ใช่สาละวินนะเธอ

แล้วสาละวินอยู่ไหน?

ก็เลยบ้านแม่สะลาบไปหน่อยจะถึงอุทยานแห่งชาติสาละวิน แต่

แต่แม่น้ำสาละวินที่เขาไป ๆ กันน่ะ ไม่ใช่ทางนี้เฟร้ยยยย

เขาไปกันทางบ้านแม่สามแล่บนู่น ห่างจากตรงนี้ไปอีกสามสิบสี่สิบกิโลเลยนะ



ฝั่งอุทยานก็ไปได้แหละ แต่ต้องใช้ออฟโรด ลุยป่าเข้าไป

จนท.บอกว่า สะพานพัง ถนนขาด ไม่มีใครเขาไปทางนี้กันหรอก โธ่!



งั้นก็ถอดใจสิคะ รออะไร ไปไหนมาไหนโดยไม่หาข้อมูลก็งี้แหละ



กลับออกมาค่ะ ไปต่อ ตรงเข้าที่พักเลยคราวนี้ เพราะเเย็นมากแล้ว

#เฮินไตรีสอร์ท แม่ลาน้อย



ขออวยให้ถึงที่สุด คือดีงามมากกกกก สวยงามมาก

เมื่อมาถึงเขตแม่ลาน้อย ก่อนถึงจุดนี้เล็กน้อยก็เลี้ยวซ้ายลงเนินไปตามป้ายบอกทางเลยค่ะ

ถึงแล้วเฮินไต

ว่าแล้วก็เข้าห้องพักกันเลย



เราพักเรือนนี้ ชั้นล่าง ราคา 900 บาทรวมอาหารเช้า

มาดูในห้องกัน

ภายในห้องพักมีทุกอย่างนะคะ

ไม่ต้องกลัวลำบาก ทีวี ตู้เย็น แอร์ มีหมด

ห้องน้ำห้องท่าก็ประมาณนี้ น้ำอุ่นใช้ระบบแก๊ซนะคะ

ข้าวของเครื่องใช้อำนวยความสะดวกตามมาตรฐานห้องพักดี ๆ เลยหละ



ส่วนวิวนั้น คงไม่ต้องพูดอะไรมาก ฟินเว่อออออออ



ว่าแล้วก็ถ่ายรูปกันรัว ๆ

ค่ำแล้วก็หาข้าวหาปลากิน ที่เฮินไตอาหารอร่อยดีค่ะ

อันนี้เมนูแนะนำของร้าน ยำเฮินไต คล้าย ๆ ยำหัวปลีค่ะ แต่ออกรสหวานกว่า

อิ่มหนำสำราญ กลับเข้าห้องพัก อันที่จริงคาดหวังมากว่าจะเห็นดวงดาวมากมาย

แต่ก็ไม่ปรากฎค่ะ ฟ้าครึ้มฝน มีเมฆบัง

นอนดีกว่า พรุ่งนี้เช้าออกไปโครงการหลวงแม่ลาน้อยกัน

ยามเช้าก็สดชื่นมาก ข้าวเขียว ๆ หมอกไกล ๆ

พอดีเป็นวันพระ ชาวนาเขามาไหว้ข้าวค่ะ

เขาบอกว่าช่วงฤดูทำนา ต้องมาไหว้แบบนี้ทุกวันพระ

เอาหละ ไปทานมื้อเช้ากันเถอะ

จริง ๆ ก็มีอาหารให้เลือกพอสมควรนะคะ ผลไม้ต่าง ๆ เช่น กล้วย เสาวรส

แก้วมังกร และอื่น ๆ แต่เราทานแค่นี้หละค่ะ อิ่มหละ

แต่ติดใจข้าวเหนียวสังขยา อร่อยมากเลย



อิ่มแล้ว ได้เวลาเก็บของบอกลาเฮินไต คราวหน้าจะมาใหม่

เพราะประทับใจเหลือเกิน

#โครงการหลวงแม่ลาน้อย



ปี ๒๕๑๔

พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการลที่๙

พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

ได้เสด็จเยี่ยมประชาชนที่บ้านห้วยห้อม

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการฯหลวง ณ ที่แห่งนี้

ในปี ๒๕๑๙ ทั้งสองพระองค์เสด็จมาห้วยห้อมอีกครั้ง

และได้ใช้ทุนส่วนพระองค์ ในการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนที่ห้วยห้อม



ในปี ๒๕๒๑ ในหลวงเสด็จเป็นการส่วนพระองค์

และรับสั่งให้หน่วยงานราชการเข้ามาพัฒนาพื้นที่



ปี ๒๕๒๒ ทั้งสองพระองค์เสด็จมาที่บ้านดง

และรับสั่งหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ให้ช่วยพัฒนาอาชีพด้านเกษตรกรรม สังคม และสาธารณสุข



ปี ๒๕๒๓

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย

ได้เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบโดยใช้พื้นที่ บ้านดง เป็นที่ทำการ



ปี ๒๕๓๕ ทั้งสองพระองค์เสด็จอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งหลังสุด



**ข้อมูลจากเอกสาร โครงการหลวงแม่ลาน้อย**




ออกจากเฮินไต ณ ปากทางเข้าก็ตรงไปค่ะ

ตามป้ายบอกทางไปเรื่อย ๆ ผ่านความสวยงามมากมาย

ไต่ยอดดอยขึ้นไปเรื่อย ๆ

นาขั้นบันไดระหว่างทาง

สงสัยเขาจอดรถทำอะไรกันตรงนี้



ไหน ไปดูสิ

อ้อ เขาทำงานกันนั่นเอง

เมื่อมาถึงจุดนี้ เห็นป้ายนี้ก็เลี้ยวเข้าไปค่ะ (ถ้าตรงขึ้นไปก็ไปบ้านห้วยห้อม)



เส้นทางทะลุผ่านหมู่บ้าน



#แล้วฉันก็มาถึง



เป็นช่วงที่เขาเก็บเกี่ยวข้าวกันแล้ว

ฉันคุยกับคนข้างตัวว่า ที่นี่ไกลมาก

สมัยก่อนในหลวงรู้ได้ยังไงว่ามีผู้คนอยู่อาศัยในสถานที่ไกลสุดกู่ขนาดนี้

บนดงดอยที่ซ่อนเร้นขนาดนี้ ในหลวงยังมาได้ถึง

คนข้างตัวฉันบอกว่า

"ในหลวงมองเห็นประชาชนของพระองค์เสมอแหละ

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในแผ่นดินนี้ ให้เส้นทางมืดมิด ลำบากยังไง ในหลวงท่านก็เสด็จไปถึง"



เราคุยกัน มองหน้ากันและก็น้ำตาเอ่อ...

ปัจจุบัน พื้นที่แห่งนี้พลิกฟื้นจากความลำบากยากจน

เป็นความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนชาวบ้านล้วนมีอาชีพ มีความเป็นอยู่ที่ดี



ผลผลิตของโครงการหลวงฯนั้น ไม่ต้องสงสัยถึงคุณภาพ

ทุกอย่างคัดสรรอย่างดีตั้งแต่เรื่องของเมล็ดพันธ์

ดูแลจากต้นกล้าเล็ก ๆ จนเติบโตเก็บเกี่ยว



นอกจากนี้ก็ยังมีงาน“ทอผ้า”

เป็นมรดกทางภูมิปัญญาของชาวละว้า

ซึ่งทางโครงการหลวงได้เข้ามาส่งเสริมและจัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้ผ้าฝ้ายทอมือละว้า” ขึ้น

ผ้าทอของที่นี่สวย นุ่ม ราคาไม่แพง



ใครมาเที่ยวก็ช่วยอุดหนุนกันนะคะ

เรามีไกด์กิติมาศักดิ์พาชมรอบ ๆ ด้วยนะคะ น่ารักเป็นที่สุด

ที่โครงการหลวงมีบ้านพัก แต่ต้องติดต่อล่วงหน้านะคะ

และมีโฮมสเตย์ของชาวบ้านละแวกนั้น หรือไม่ก็ไปพักโฮมสเตย์บ้านห้วยห้อมก็ได้ค่ะ

ร่ำลาแม่ลาน้อยด้วยใจอาวรณ์ แน่นอนว่าจะต้องกลับมาอีก

#บ้านห้วยห้อม

ตรงขึ้นไปจากโครงการหลวงฯอีกหน่อย

คือ ชุมชนหมู่บ้านห้วยห้อม เป็นชาวบ้านปกากญอ หรือกะเหรี่ยงนั่นเอง



เฉพาะที่หมู่บ้านนี้ ในหลวงเสด็จถึง ๓ ครั้ง

และใช้ทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ในการช่วยเหลือชาวบ้าน

ในหลวงได้ทรงมีพระราชดำรัสกับชาวบ้านห้วยห้อม

ให้ช่วยกันดูแลและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งน้ำและป่าไม้

#โฮมสเตย์บ้านห้วยห้อม



สำหรับโฮมสเตย์ที่นี่แบบชาวบ้านจริง ๆ นะคะ

กินนอนบ้านชาวบ้านนั่นแหละ ว่าง ๆ ก็ช่วยเขาทำงานด้วยนะ



เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตแบบชาวบ้านแท้ ๆ

ราคาต่อคนต่อคืนก็ 150 บาท

ติดต่อได้ที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน บ้านหลังที่มีกาแฟให้ชิมได้เลย

เข้าไปติดต่อได้เลยหรือไม่ก็โทรถาม 089 8540914

เบอร์คุณป้ามลิวรรณค่ะ ประธานกลุ่มผ้าทอ

ช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวณ โครงการหลวงฯและบ้านห้วยห้อม

น่าจะเป็นหน้าหนาว กับหน้าฝนนะคะ

โดยส่วนตัวเราชอบหน้าฝนมากกว่า

เพราะจะได้เห็นทุ่งนาขั้นบันไดเขียวสดชื่น

วันนั้นฉันเจอน้องผู้หญิงคนนหนึ่ง ใส่ชุดกะเหรี่ยง

ช่วยทำงาน เก็บพับผ้าทอ และช่วยขายและให้ความรู้ต่าง ๆ แก่ผู้ไปเยือนด้วย

ฉันก็นึกว่าน้องเป็นชาวบ้านที่นี่ ปรากฎน้องเป็นนักท่องเที่ยว

น้องบอกว่า กะจะมานอนคืนเดียว แต่ยังไงไม่รู้ ติดใจ นี่อยู่มาจะอาทิตย์นึงหละ

ยังไม่อยากกลับ เนียน ๆ จนจะเป็นคนที่นี่แล้ว

#กาแฟห้วยห้อม หอมมากกกก

ตอนขับรถเข้าห้วยห้อม กลิ่นกาแฟโชยไปถึงหน้าหมู่บ้าน

เรื่องจริงเลย ยังคิด เฮ้ย หอมขนาดนี้เลย

แต่เดิมนั้น กาแฟได้ถูกนำเข้ามาปลูกจากกลุ่มมิชชันนารี

ต่อมาโครงการหลวงฯได้พัฒนาและนำสายพันธ์มาให้ปลูกเพิ่มเติม



ห้วยห้อมถือเป็นแหล่งกาแฟอราบิก้าที่มีชื่อเสียง

กลิ่นและรสนั้นเข้มข้นมาก

การปลูกกาแฟของที่เป็นการปลูกแบบธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี

ปลูกแซมกับพืชพันธ์อื่น ๆ ให้เติบโตไปด้วยกัน

กาแฟห้วยห้อมทำรายได้ให้ชาวบ้านปีละเป็นล้านนะเออ

ลองไปชิมกันได้

#ผ้าทอขนแกะ

สมเด็จพระนางเจ้าฯทรงพระราชทานแกะสายพันธ์ดีจากต่างประเทศ

เพื่อให้ชาวบ้านได้มีอาชีพเสริมคือ การทอผ้าขนแกะ

แกะที่นี่ไม่เหมือนแกะตามฟาร์มสำหรับโชว์สวยงามนะคะ

แต่เป็นแกะพันธ์ขน ขนหนามากกกก

แน่นอน ผ้าทอขนแกะของบ้านห้วยห้อม นุ๊มนุ่ม

การเลี้ยงแกะของชาวบ้านก็เลี้ยงแบบง่าย ๆ

ไม่ซับซ้อนเหมือนฟาร์ม

แค่ปล่อยขึ้นเขาลงห้วยกินฟางกินหญ้าไปตามเรื่อง

วันนั้นฉันไม่ได้เห็นน้องแกะ เพราะออกจากเล้าข้ามเขาไปหากินหมดแล้ว

ครั้งจะข้ามเขาตามไป สังขารก็ไม่ไหว

เล้าแกะ พื้น ๆ แบบนี้เลย

#บางความรู้สึก



ป้ามะลิวรรณ เล่าให้ฟังถึงวันก่อนกาล

ที่ในหลวงได้เสด็จมา.....

"ในหลวงท่านมา ฮ. แต่จอดบนนู้นนนนน ชี้มือไปบนภูเขาลิบ ๆ

แล้วท่านก็เดินลงมาหาชาวบ้าน ป่าทั้งนั้นหนู มีแต่ป่า

ในหลวง พระราชินี เดินบุกป่าฝ่าดงข้ามเขามา"



ป้าพูดพร้อมยกมือไหว้ท่วมหัว...



"ป้าไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เห็นในหลวง ที่นี่ไม่มีอะไรสักอย่าง

นี่ในหลวงก็มาทำให้ทั้งนั้นแหละหนู"



"เราอยู่ดีกินดีกันมาทุกวันนี้

ก็ในหลวงพระราชินีทั้งนั้นที่มาทำให้หาให้"



ป้าพูดแล้วหยุด...เงียบนิ่ง

ฉันมองป้า



ป้าน้ำตาเอ่อ...

" แต่วันนี้ในหลวงไม่อยู่แล้ว...ในหลวงไม่อยู่แล้ว..."



แล้วฉันก็น้ำตาร่วงทันทีในวันนั้น



ฉันจำได้ทุกคำที่ป้ามะลิวรรณบอกกับฉัน

ทุกชีวิตลืมตาอ้าปากได้ก็เพราะในหลวง

..............................................................



ไม่มีที่แห่งไหนในประเทศนี้ที่ในหลวงไม่เคยเสด็จ

รอยเท้าของพระองค์มีอยู่ในทุก ๆ ที่



......................................................................................



ในทุกการเดินทาง ฉันพบเห็นร่องรอยของใครคนหนึ่งอยู่เสมอ

ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่ไหนแต่ไรมาฉันคุยกับคนใกล้ตัวเสมอ

ที่ไหนบ้างนะในแผ่นดินนี้ที่ในหลวงไม่เคยเสด็จ คงไม่มี



คนเราต้องมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน ถึงทำเพื่อคนอื่นได้ขนาดนั้น

#ส่งท้าย



ได้เวลาเดินทางกลับ

ประทับใจกับทุกอย่างที่นี่ บอกกับตัวเอง ฉันต้องกลับมาอีก

*การเดินทางไปแม่ลาน้อย จากเชียงใหม่

ถ้าขับรถเองก็ยาวไปเส้น 108 เลยค่ะ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น

หากเดินทางด้วยรถโดยสาร มีทั้งรถตู้และรถทัวร์จากอาเขตค่ะ



**ถ้าเดินทางจากแม่ฮ่องสอนก็มีทั้งรถตู้และรถบัสเหมือนกัน

ลองเช็คเวลาดูนะคะ



หากจะขึ้นไปยังโครงการหลวงฯ และบ้านห้วยห้อม

สำหรับคนที่เดินทางมาด้วยรถตู้หรือรถทัวร์น่าจะต้องว่าจ้างรถรับจ้างขึ้นไปค่ะ



หากพักที่เฮินไต ก็ติดต่อทางเฮินไตให้หารถรับจ้างให้ได้เลยค่ะ

ขอจบรีวิวทริปนี้แต่เพียงเท่านี้

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ

Paramee Na Prasri

 วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.42 น.

ความคิดเห็น