.การเดินทางท่องเที่ยวเชียงใหม่ในครั้งนี้หลักๆของผมก็คืออยากมาพักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศในช่วงฤดูฝน ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ค่อยพลุกพล่านเหมือนช่วงฤดูหนาว ได้ขับรถชิวๆไปตามเส้นทางตามยอดดอยต่างๆ และหาที่พักที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติไม่วุ่นวาย เรียบง่าย และใกล้ชิดกับวิถีชาวบ้านของผู้คนในท้องถิ่น ครั้งนี้ผมเลือกเดินทางท่องเที่ยว เส้นแม่แจ่ม-เชียงดาว แต่ก่อนจะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆบนเส้นทางเหล่านี้ ผมจะพาไปชมที่พักที่ผมได้เข้าพักกันก่อน ในอ.แม่แจ่มผมพักที่ โกวิทกระท่อมปลายนาบรรยากาศสวยๆวิวทุ่งนาในหุบเขา เข้าไปชมรีวิว click

ส่วนที่เชียงดาวที่ผมกำลังจะพาไปคือที่นี่เลยครับ


บ้านต้นไม้แม่แมะ (Tree House Hideaway)

บ้านต้นไม้แม่แมะตั้งอยู่ใน อ.เชียงดาว ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่แค่ 90 โล

  • สถานที่ตั้ง : หมู่บ้านแม่แมะ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
  • เบอร์โทรศัพท์ : 081 958 5601
  • เว็บไซด์ : http://treehouseinchiangmai.com/
  • เฟสบุ๊ค :https://www.facebook.com/TreeHouseHideaway/
  • พิกัด : 19.322865, 98.880792
  • ราคา 750/คน (รวมอาหารเช้า+เย็น)

การเดินทาง

  • รถโดยสารสาธารณะ : จะนั่งเครื่องหรือนั่งรถทัวร์ ก็หารถแดงมาขึ้นรถประจำทางไปเชียงดาว ที่ บขส.ช้างเผือก รถประจำทางที่นี่จะมีทั้งรถบัส รถสองแถวส้ม รถตู้ วิ่งไปที่ตัวอำเภอเชียงดาว อีกประมาณ 60 กิโลเมตรครับ แต่ถ้าใครไม่อยากต่อรถมากก็นั่งรถทัวร์กรุงเทพ-บ้านท่าตอนที่วิ่งผ่าน อ.เชียงดาว ตีตั๋วลงเชียงดาว บอกลงปากทางบ้านแม่แมะ จากนั้นให้รถของทางโฮมสเตย์มารับ ซึ่งต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนเดินทาง โดยมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นราคาเหมา ประมาณ 600 บาท
  • รถส่วนตัว จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ google map บอกทางได้เลยรับรองไม่หลง วิ่งเส้น 107 เชียงใหม่แม่ริม-เชียงดาว ก่อนเข้าตัว อ.เชียงดาวซัก 4-5 กิโลเมตร จะมีป้ายซ้ายมือ บอกทางไปบ้านแม่แมะ จากปากทางอีกประมาณ 10 กว่าโล จะถึงบ้านแม่แมะ เส้นทางไปบ้านแม่แมะเป็นถนนราดยางคดเคี้ยวไปมาตามไหล่เขา ทางค่อนข้างแคบพอสวนกันได้ ให้สัญญาณโดยการบีบแตรเตือนทุกครั้งเวลาเข้าโค้งเพราะเหลี่ยมมุมเขามันเยอะ ขับเพลินๆอาจจ้ะเอ๋รถที่สวนมาแบบไม่ทันตั้งตัวได้

ผมออกจากแม่แจ่มแวะเที่ยวตามรายทางมาเรื่อยๆ กว่าจะมาถึงเชียงดาวได้ก็ใกล้ค่ำเต็มที จากป้ายบอกทางเข้าบ้านแม่แมะ ริมถนนสายแม่ริม-เชียงดาว เข้ามาอีกประมาณ 10 กว่าโลจะมาเจอป้ายทางเข้าบ้านแม่แมะ(ทรายคำ) ซึ่งหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านต้นแบบตัวอย่างที่เป็นชุมชนปลอดการเผา เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับหน่วยงานรัฐ ช่วยนำแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันของตัวเมืองเชียงใหม่เผยแพร่ไปยังชุมชนอื่นๆอีกด้วย

จากปากทางเข้าไปไม่เกิน 300 เมตรก็มาถึงบ้านต้นไม้แม่แมะ หากมองจากปากทางเข้ามาก็จะมองเห็นตัวบ้านตั้งอยู่โดดเด่นโผล่พ้นยอดไม้อยู่ไม่ไกลนัก พอมาถึงก็จอดรถที่วัดทรายคำหน้าที่พักได้เลย

บ้านต้นไม้แม่แมะนั้น ลักษณะเป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่หลังคามุงจาก ตั้งอยู่บนเนินโดยมีเสารองรับน้ำหนักของตัวบ้านยื่นออกไปในอากาศเพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสบรรยากาศกันอย่างเต็มที่ ห้องพักของบ้านต้นไม้จะมีอยู่ด้วยกัน 4 ห้องเป็นห้องรวม 1 ห้อง ห้องเดี่ยวอีก 3 ห้อง ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำรวม มีลานเอนกประสงค์อยู่กลางบ้านเป็นพื้นที่นั่งชมวิว ทานอาหาร หรือจะนอนเล่นบนเปลที่มีแขวนตามเสาบ้าน ภายในบ้านดูไปดูมาเหมือนโรงเตี๊ยมในหนังจีนหน่อยๆ นอกจากนี้ยังมีบริการนวดตัวโดยชาวบ้านในช่วงเย็นๆอีกด้วย

ส่วนห้องพักที่ผมพักเป็นห้องที่ติดกับวิวผืนป่าซึ่งเป็นห้องเดี่ยวห้องเดียวในบ้านที่แค่เปิดฉากกั้นออกไปก็จะมองเห็นวิวที่เปิดโล่ง ในห้องพักก็จะมีมุ้งให้หนึ่งหลัง เพราะตัวห้องเป็นแบบ open air ไม่มีมุ้งลวดป้องกันแมลง มีพัดลมให้ 1 ตัว และน้ำดื่มอีก 2-3 ขวด

อาหารเย็นจะเป็นแบบ buffet อาหารเหนือ 3-4 อย่างรสชาติดีทีเดียว แต่ไม่ได้เก็บภาพไว้เพราะมาถึงก็มืดแล้ว จัดแจงอาบน้ำอาบท่ามานั่งจิบเบียร์ชมบรรยากาศสักพักก็เข้าห้อง อากาศเย็นสบายจนเกือบหนาว นอนฟังเสียงจากผืนป่าจนหลับไปจนค่อนรุ่งตื่นขึ้นมาสัมผัสอากาศยามเช้า มีสายหมอกบางๆลอยผ่านแนวยอดไม้ ล้างหน้าล้างตาขับไล่ความง่วง ลงมาจิบกาแฟ พร้อมเสริฟด้วยข้าวต้มร้อนๆควันกรุ่น

ทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกมาเดินสำรวจบริเวณรอบๆที่พักสักหน่อย นอกจากบ้านต้นไม้แล้วที่นี่ยังมีที่พักอื่นๆที่อยู่บริเวณเดียวกันถัดลงไปภายในของรั้วบ้านต้นไม้ เริ่มจากบ้านต้นไม้จะอยู่บนสุด ถัดลงไปก็เป็น ไอยเรศชมจันทร์,เฌอชีวา และก็บ้านระเบียงน้ำที่อยู่ล่างสุด ก็อาศัยเดินมั่วๆลงไป หามุมถ่ายภาพไปเรื่อยๆ ไปเจอที่พัก เฌอชีวา เลยหามุมมหาชนสักหน่อย ต้องเดินข้ามห้วยไปถ่ายฝั่งตรงข้าม

ส่วนบ้านระเบียงน้ำ จะอยู่ระดับเดียวกับเฌอชีวาแต่อยู่คนละด้าน เป็นวิวลำธารเหมือนกันแต่บ้านระเบียงน้ำจะพื้นที่กว้างขวางกว่าและมีห้องพักเป็นหลังแยกออกไป น้ำในลำธารก็สามารถเล่นได้น่ะครับ แต่ช่วงหน้าฝนน้ำอาจจะขุ่นสักหน่อย


หลังจากลงไปสัมผัสบรรยากาศที่พักริมลำธารแล้ว ก็ถือว่าบรรยากาศใช้ได้ทีเดียวเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใครที่มาเข้าพักในชุมชนบ้านแม่แมะ และตอนที่ไปกำลังมีการก่อสร้างเพิ่มเติมคาดว่าในอนาคตอาจจะมีมากขึ้น กลับขึ้นมาก็ได้เวลาเก็บข้าวของเดินทางกลับไปใช้ชีวิตในเมืองกรุงเหมือนเดิม ปีหน้าฟ้าใหม่คิดว่าเชียงใหม่คงมีที่พักเกิดใหม่และเป็นที่ยอดนิยม ที่พร้อมจะต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปพักผ่อน เหมือนอีกเช่นเคย...สวัสดี


-ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้เข้ามาชม และ กด like กด share เป็นกำลังใจน่ะครับ

-แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือพูดคุย สอบถามข้อมูลการเดินทาง Fanpage : สตั๊ดดอยร้อยเรื่องราว

-ติดตามบทความเก่าๆ ได้ที่นี่ครับ ทริปเดินทางทั้งหมด


สตั๊ดดอย ร้อยเรื่องราว

 วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 19.42 น.

ความคิดเห็น