*** คีรีวงกต 2 วัน1 คืน***



เด็กอีสานจะพาเลาะ(ไป)อีสาน ล่องแก่งรถอีแต๊ก กินเข่า(ข้าว)ป่า นอนโฮมสเตย์ ทิ้งความวุ่นวายในเมือง มาใช้ชีวิตแบบสโลฟ์ ที่หมู่บ้านครีรีวงกต อ.นายูง จ.อุดรธานี

คีรีวงกต เป็นหมู่บ้านที่ล้อมไว้ด้วยภูเขา เปิดให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย และยังเป็นการกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน ไปรู้จักคีรีวงกต และ จ. อุดรธานี พร้อมๆกับพวกเรากันค่ะ



การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ การเรียนรู้ของเราคือความเข้าใจ ........

29-มิ.ย.2561 ออกเดินทางจากหมอชิต-อุดรธานี(บขส.เก่า) เราเดินทางโดยรถทัวร์โดยมีหัวหน้าทริปของเราเป็นธุระจัดการจองตัวให้ลูกทริป let's go



เราถึง บขส.เก่า จ.อุดรธานี (ตรงข้ามเซ็นทรัล) เวลาประมาณ 6 โมงเช้า เราต่อรถตุ๊กตุ๊กไปยังคิวรถตู้ ตลาดรังษิณา(จุดที่เรานัดเจอกับสมาชิกผู้ร่วมทริปนี้) เพื่อเดินทางไปยัง บขส.อ.น้ำโสมและจะมีรถจากชาวบ้านมารับเราเพื่อเข้าไปหมู่บ้านคีรีวงกต


ใช้เวลานั่งรถตู้ไป บขส.น้ำโสม ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง แล้วจะมีคนจากหมู่บ้านมารอรับ นั่งรถกระบะเข้าหมู่บ้านอีกประมาณ 45 นาที

ทริปนี้เรามีหัวหน้าทริปเป็นคนติดต่อกับครูแจ๋ว พรทิพา (ครูเป็นคนติดต่อเรื่องรถเข้าหมู่บ้านให้มารับพวกเรา)



วิวข้างทางก็จะเป็นวิวเขา วิวท้องนา ที่เต็มไปด้วยสีเขียว เห็นแล้วสดชื่นมากมาย



อารมณ์เหมือนไปเที่ยวเชียงใหม่เหมือนกันนะ มันทำให้คิดถึงตอนนั้นขึ้นมาเลย



ถึงแล้วหมู่บ้านคีรีวงกต



น้าคนที่ไปรับเรา จะส่งเราที่ทำการท่องเที่ยว เพื่อนั่งรถอีแต๊กเข้าไปที่พัก เพื่อเอาของไปเก็บ และเตรียมตัวล่องแก่งรถอีแต๊ก อากาศที่นี้กลางวันแดดแรงมาก



ได้เวลาสนุกแล้วสิ นั่งรถอีแต๊ก ไปกินข้าวที่น้ำตก ดูจากทางที่ไปแล้วคนขับต้องใช้ความชำนายพอตัว คนนั่งก็สนุกสนานกันไปค่ะ มันส์ไปอีกแบบ



ระหว่างทางล่องแก่ง เราก็เจอแก๊งอีกอื่นด้วย คันนั้นสาวๆเยอะจัง มีคนอยากจะเปลี่ยนไปนั่งคันโน้นกันเลยทีเดียว



คู่นี้มุ้งมิ้งมาก ไม่ได้อิจฉาเล้ยยยยยย (เสียงสูงมากเช่นกัน)



ระหว่างรออาหาร ก็เดินถ่ายรูปกันไปค่ะ น้ำไม่ใสนะคะ แต่ว่าเย็นมาก เราไม่ได้เล่นน้ำกัน ได้แต่เอาเท้าไปแช่น้ำ แค่นี้ก็สดชื่นล่ะ



เมนูวันนี้ มีข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา แกงส้มหยวกกล้วย และตบท้ายด้วยสับปะรดหวานๆ อาหารอร่อยมากและก็เยอะมากเช่นกันค่ะ ชอบสุดคือแกงส้มหยวกกล้วย เข้มข้นมาก แซ่บอีหลี



อาหารทำสดๆใหม่ๆ เลยคะ



แกงส้มกระบอกไม้ไผ่ มันเด็ดตรงนี้แหล่ะ



แก้วน้ำและช้อนทำจากไม้ไผ่ อันนี้สามารถเอากลับบ้านได้นะคะ เราเก็บแก้วน้ำมาด้วย



เดี๋ยวมาต่อนะคะ โปรดติดตามตอนต่อไป *---*

อาหารอร่อยมาก อิ่มแล้วก็ง่วงกันไป

กลุ่มเราไม่มีใครเล่นน้ำตก เลยคุยกันว่ากลับเข้าบ้านพักแล้วไปหาที่ถ่ายรูปกันดีกว่า เราตกลงกันว่าอยากไปดำนา หัวหน้าทริปเลยไปบอกทีมงานของครูแจ๋ว พี่เขาก็จัดให้ อันนี้นอกเหนือจากโปรแกรมนะคะ



ไปช่วยหรือไปเป็นภาระ อิอิ

รูปนี้เหมือนแก๊งค์เด็ก(โข่ง)

ขากลับแวะดูการทอผ้า และการทำเข่าปุ้น (ขนมจีน)

แวะถ่ายรูปรอเวลาทำพิธีบายศรีสู่ขวัญในช่วงเย็น

ประเพณีบายศรีสู่ขวัญใช้เครื่องเชิญขวัญที่เรียกว่า บายศรี ทำด้วยใบตอง รูปคล้ายกระทง เป็นชั้น ๆ มีขนาดใหญ่เล็กสอบขึ้นไปตามลำดับ เป็น 3 ชั้น 5 ชั้น 7 ชั้น หรือ 9 ชั้น มีเสาปักตรงกลางเป็นแกน มีเครื่องสังเวยวางอยู่ในบายศรี และมีไข่ขวัญ (ไข่ต้ม) พิธีบายศรีสู่ขวัญจึงเป็นพิธีที่สำคัญของชาวอีสาน เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับขวัญและจิตใจ เพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจที่ดีขึ้น



หลังเสร็จพิธีก็มีการแสดงของน้องๆ



หลังจากดูการแสดงเสร็จเราก็ล้อมวงกันกินข้าว และก็เตรียมตัวเข้านอน เพราะตอนเช้าต้องตื่นมาใส่บาตร

1 ก.ค. 2561 รับวันใหม่ด้วยการตื่นเช้าๆมาใส่บาตร ทางครูแจ๋วเตรียมชุดตักบาตรไว้ให้นะคะ อากาศตอนเช้าๆ ของที่นี่จะเย็นๆ มีหมอกนิดหน่อยคะ แต่ช่วงกลางวันจะร้อนมาก หลังจากใส่บาตรเสร็จก็กินอาหารเช้าที่ทางคุณครูเตรียมไว้ให้ เก็บของเตรียมเดินทางกลับ ขากลับเราตกลงให้พี่คนที่ไปส่งเราขึ้นรถที่ บขส.น้ำโสม ให้พาแวะวัดป่าภูก้อน (โปรแกรมนี้ไม่คิดเงินเพิ่มด้วยนะ)



วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ภายในวัดมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ ในพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา ซึ่งเป็นประธานประดิษฐานหน้าองค์พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ มีพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาว ความยาว 20 เมตร



ต้องเดินวนซ้ายก่อน3รอบ แล้วค่อยไหว้นะคะ

หลังจากไหว้พระเราก็เดินทางต่อไปยัง บขส.อ.น้ำโสมเพื่อต่อรถตู้ไปยัง บขส.เก่าอุดรธานี จุดนี้เราก็จะแยกย้ายกัน แต่ตกลงกันได้ว่าต้องการไปต่อ นั่นคือทีมเป็ดเหลือง เราจะไปดูเป็ดเหลืองยักษ์ ที่หนองประจักษ์ และแวะไหว้ศาลหลักเมืองเพื่อความเป็นศิริมงคล เดินทางต่อด้วยพี่ตุ๊กตุ๊ก จากบขส.เก่าไปยังหนองประจักษ์ ค่ารถไปกลับคนล่ะ 30 บาท พี่เขาไปส่งและพอถึงเวลาเราก็โทรตามให้พี่ตุ๊กตุ๊กมารับตามจุดที่ตกลงกันไว้

ไปกันโล้ดดดดดด



แวะกินข้าวกันที่ RELAX STEAK รสชาดดี ราคาก็ปกติเราสั่งกันคนล่ะ 1 อย่าง และก็สั่งยำรวมกะยำผลไม้ หมดไปประมาณ 700 กว่าๆ



แดดแรงมาก ที่นี้ถ้ามาช่วงเย็นๆ น่าจะถ่ายรูปสวยกว่าช่วงกลางวัน

ถ่ายรูปกันเสร็จก็เดินลัดเลาะไปยังศาลหลังเมือง แวะซื้อชุดดอกไม้ ราคา 30บาท/ชุด ส่วนธูปเทียนบริจาคตามแต่จะสะดวก

จุดที่ต้องไหว้มีทั้งหมด3 จุด



จุดที่ 1

จุดที่2

จุดที่3

ไหว้เสร็จ เราก็นั่งพักกัน และแยกย้ายกันกลับ มีทีมเครื่องบิน และทีมรถทัวร์



เป็นทริปที่ได้รับความรู้สึกอบอุ่น ได้มิตรภาพใหม่ๆ การหยิบยื่นน้ำใจที่มีให้กันทั้งจากผู้ร่วมทริปและชาวบ้าน ต้องขอขอบคุณผู้ร่วมทริปในครั้งนี้ทุกๆคนนะคะ การเดินทางก็เหมือนกับการลงทุนให้กับตัวเอง และในระหว่างการเดินทางเราก็จะได้พบเจอผู้คน ได้สัมผัสวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น ได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเจอ มันเป็นการเพิ่มสีสันให้กับชีวิตของเรา ลองออกไปท่องเที่ยวดูค่ะ แล้วคุณจะค้นพบว่าความสุขอยู่ไม่ไกลจากตัวเราเลย



สรุปค่าใช้จ่าย

ค่ารถทัวร์ หมอชิต-บขส.อุดร 409 บ./คน

ค่ารถตุ๊กตุ๊กไปคิวรถตู้ตลาดรังษิณา 30/คน ไปกลับ60

ค่ารถตู้ไป บขส น้ำโสม 100/ คนไปกลับ200

ค่าเหมารถเข้าหมู่บ้าน (600 /10) ไปกลับ =60/คน

ค่าที่พักรวมกิจกรรม+อาหาร 3มื้อ (9000/10) = 900 บาท/คน

ค่าตุ๊กตุ๊กไปหนองประจักษ์และสนามบิน 30+40 =70 บาท/คน

ค่าเครื่องบิน อุดร-สุวรรณภูมิ 1050/คน



รวมประมาณ 2749 บาท



เบอร์ติดต่อครูแจ๋ว ตามรูปด้านล่างนะคะ คุณครูและชาวบ้านทุกท่านน่ารักและเป็นกันเองมากๆค่ะ

Yuphawan Cheunuthai

 วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.32 น.

ความคิดเห็น