กระบี่อีกครั้ง กับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่ชิลและสนุกมากกว่าเดิมในช่วงหน้าร้อน พักผ่อนด้วย เที่ยวด้วย “ฟินกับทะเลให้สุดแล้วหยุดที่คาเฟ่เย็นๆ” คือคติประจำใจของทริปนี้เลยก็ว่าได้ ตามชื่อบทความเลยค่ะ “เที่ยวกระบี่ 2 คาเฟ่ ทัวร์ทะเลใน เดินเล่นสบายๆหาดอ่าวนาง” ตามมาชมความชิลนี้กันค่ะ

แผนการเดินทาง ทริปนี้ 2 วัน 1 คืน

วันที่ 1

08.00 น. – ถึงสนามบิน รับรถเช่า

09.00 น. – สระมรกต เล่นถึง 10.00 น.

13.00 น. – วีเซล กาแฟชะมด @กระบี่

16.00 น. – เข้าที่พัก

17.30 น. – เดินเล่น ชมพระอาทิตย์ตก หาดอ่าวนาง

19.30 น. – Cafe 8.98 at Ao Nang

วันที่ 2

08.30 น. – รถมารับไปท่าเรือ ทัวร์เกาะห้อง ทะเลใน

14.00 น. – รถมาส่ง ที่ รร

15.00 น. – พักผ่อน ทานของว่าง หาดคลองม่วง

18.00 น. – เข้าสนามบิน – คืนรถ

---

วันที่ 1

กระบี่ทริปนี้เดินทางจากสนามบินดอนเมือง ก็จะสบายๆหน่อย เข้ามาด้านในสนามบินแล้วเปิดโทรศัพท์หาแลกของฟรีกินอิ่มแล้วค่อยเดินไปรอขึ้นเครื่อง ^^” ใครที่เคยอ่านรีวิวบันทึกการเดินทางของเรามาบ้างแล้วจะรู้ว่า เวลาเดินทางด้วยเครื่องบินจะชอบแวะหาแลกของฟรีในสนามบินก่อนขึ้นเครื่อง ฮ่าๆๆๆ

จะถ่ายเครื่องบิน หันมายิ้มให้ทำไม ฮ่าๆๆ

ใช่แล้วค่ะ เขาคือ ผู้ร่วมทริป+คนขับรถ+เด็กแบกกล้อง+ตากล้องสำรอง+นายแบบส่วนตัว++++ ^^

ขึ้นเครื่องแล้วก็หยิบบัตรเครดิตร่วมสายการบิน+บอร์ดดิ้งพาสออกมารับเครื่องดื่มฟรีๆกันไปพลางชมวิวยามเช้าจากหน้าต่างเครื่องบิน

08.00 น. – ถึงสนามบิน รับรถเช่า

ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงสนามบินกระบี่กันแล้ว

เดินไปรับรถเช่ากันก่อนค่ะ ทริปนี้ใช้บริการรถเช่าของ Avis เจ้าประจำเช่นเคย ก็รถเขาใหม่ เชื่อถือได้ ราคาถูก คืนช้าได้ตั้ง 4 ชั่วโมง มีให้บริการตั้งหลายจังหวัด จองก็ง่ายด้วย ผ่านเว็บไซต์ http://www.avisthailand.com ก็ได้ หรือผ่านคอลเซ็เตอร์ 02-251-1131-2/ 02-255-5300-4 ก็ได้เช่นกันค่ะ

09.00 น. – สระมรกต

ระหว่างทางแวะทานข้าวมื้อเช้ากันที่ตลาดริมทางค่ะ กะว่าแวะจอดรถที่ไหนได้ก็กินที่นั่น ง่ายๆ มาเจอที่นี่ราคาไม่แพง รสชาติใช้ได้เลย จัดไปค่ะ

สระมรกต

จุดแรกที่ชวนกันไปเที่ยวก็คือ “สระมรกต” ไปกระบี่ทีไรก็ต้องไปที่นี่ทุกที สระมรกตจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 17.00 น. ของทุกวัน ถ้าไปรอเข้าตั้งแต่เช้าจะได้เปรียบกว่าตรงที่คนน้อย หรือบางทีอาจจะได้เข้าไปเล่นน้ำในสระเป็นคนแรก น้ำจะใส สีเขียวสวยงาม ไม่จอแจวุ่นวายด้วยนะ ชมภาพจากทริปเก่าได้ค่ะ https://pantip.com/topic/35554219

ถ้ามาสายๆคนก็จะเยอะหน่อย แต่ลงเล่นแบบไม่เหงาดี

ทางเดินเข้าและออกมี 2 ทางนะคะ ทางแรกเป็นเส้นทางดินปนหิน ทางนี้ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร สองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้ ร่มรื่น มีป้ายชื่อต้นไม้ติดไว้ให้อ่านเพลินๆ อาจจะได้เจอนกและผีเสื้อด้วย แต่จะมีเนินขึ้นเนินเล็กๆบ้าง มีฝุ่นบ้างนิดหน่อย

ส่วนอีกทางจะเป็นสะพานคอนกรีตยาวไปประมาณ 1.4 กิโลเมตร มีต้นไม้ค่อนข้างมาก และมองเห็นน้ำที่ไหลมาจากสระมรกต แทบตลอดทาง ยาวกว่านิดหน่อย มีช่วงที่แดดสาดส่องลงมามากกว่าหน่อย แต่ทางเดินดีกว่า

ค่าธรรมเนียมการเข้าชม

คนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท

ต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท

---

Weasel วีเซล กาแฟชะมด @กระบี่

13.00 น. – วีเซล กาแฟชะมด @กระบี่

อากาศมันร้อน กระหายน้ำจนคอแห้งผาด พอดีได้รับโอกาสเชิญจากคาเฟ่น้องใหม่ในกระบี่ หลังจากที่เจ้าของร้านรู้จักแอมผ่านรีวิว “6 คาเฟ่ ในกระบี่ ไปกี่ทีก็ต้องแวะ” https://gowithampth.com/6-cafes-krabi จึงรีบบึ่งเข้าเมืองมาที่ บ้านเลขที่ 26 ถนนเจ้าคุณ เป็นที่อยู่ของร้าน “Weasel วีเซล กาแฟชะมด @กระบี่”

ร้านนี้ตัวชูโรงก็คือ “กาแฟชะมด หรือกาแฟขี้ชะมด” ที่นำเข้าจากประเทศเวียดนาม ซึ่งชื่อร้าน วีเซล ก็มาจากคำว่า Weasel Coffee ในภาษาอังกฤษที่แปลเป็นไทยว่า กาแฟชะมดนั่นเองค่ะ

บรรยากาศร้านจึงได้รับการตกแต่งให้มีกลิ่นอายแบบเวียดนามเอาไว้ด้วย ด้านในจะมีมุมต่างๆให้เลือกชั่งชิล นั่งชิม ละเลียดของหวานกันได้ตามใจชอบ จะนำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค หนังสือ เข้ามานั่งทำงานไปสั่งเครื่องดื่มหรือเค้กทานไปก็ได้นะคะ ชิลกันได้เต็มที่

นอกจากนี้ยังมีเมนูอีกมากมายให้เลือกดื่ม แถมยังมีเบเกอรี่ให้ได้นั่งทานกันเพลินๆด้วย และในอนาคตทางร้านจะมีเมนูอาหารให้นั่งทานแบบอิ่มอร่อยสบายๆอยู่ที่นี่เลยล่ะค่ะ

ชมภาพเพิ่มเติม ที่นี่ : https://gowithampth.com/weasel-cafe-krabi

ที่อยู่ : 26 ถ เจ้าคุณ ตำบล ปากน้ำ เมือง กระบี่ 81000

เวลาให้บริการ : 08.30 – 19.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 096-653-6151

Facebook : https://www.facebook.com/weaselkrabi

16.00 น. – เข้าที่พัก

ทริปนี้จองที่พักจาก booking.com ไปค่ะ เน้นที่ราคาไม่แพงมาก เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น ราคาที่พักจะอัพขึ้นไปค่อนข้างเยอะทุกที่เลย โดยเฉพาะที่ไม่ไกลจากหาด จะหาราคาหลักร้อยค่อนข้างยากสักหน่อย แต่ก็ยังโชคดีที่ได้ที่นี่มา เดินเล่นแถวๆนั้นไปยันหาดอ่าวนางได้สบายๆ เมื่อเข้าห้องพักแล้วก็เผลอหลับไป……

17.30 น. – เดินเล่น ชมพระอาทิตย์ตก หาดอ่าวนาง

ตื่นมาตอนเย็นๆ ออกไปเดินเล่นที่หาดอ่าวนาง เห็นพระอาทิตย์กำลังจะตกหลังเขาพอดิบพอดี แสงสีกำลังมา ชายหาดผืนกว้างหลังจากน้ำทะเลลง เต็มไปด้วยผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมารอชมวิวพระอาทิตย์ตก บ้างนั่งมอง บ้างผลัดกันถ่ายรูป มันเป็นช่วงเวลาที่ชิลสบายมากที่สุดของการพักผ่อน

---

Cafe 8.98 at Ao Nang

19.30 น. – Cafe 8.98 at Ao Nang

วันนี้มีโอกาสได้มาเข้าร้านอาหารคาเฟ่อีกสาขาหนึ่งของ Café 8.98 ซึ่งเคยเขียนถึงสาขาในเมืองไปแล้วใน “6 คาเฟ่ ในกระบี่ ไปกี่ทีก็ต้องแวะ” สาขานี้คนเข้าเยอะมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ เน้นฝรั่งจริงๆ สาย ฝ ควรมา(ส่อง) ^^ ขอแอบบอกว่าพนักงานที่นี่เก่งภาษา ยิ้มแย้มแจ่มใส และน่ารักมาก อัธยาศัยดีกันทุกคน

คอปเซ็ปของร้านก็จะเป็นแนวเดียวกับสาขาในเมืองกระบี่ คือ เน้นอาหารแนวฝรั่ง สไตล์รักสุขภาพด้วย แต่ที่สาขาอ่าวนางจะเน้นสำหรับชาวต่างชาติมากกว่า ทั้งเมนูและรสชาติ ถึงอย่างไรก็ยังมีเมนูอีกมากมายที่อร่อยสำหรับคนไทยอย่างเราๆ บรรยากาศสบายๆ รับลมเย็นๆยามค่ำ แสงไฟสีส้มทำให้ยิ่งรู้สึกชิลได้เต็มที่

มาชมเมนูตัวอย่างกันเลยค่ะ

ช็อกโกแลตบราวนี่แฟร็บเป้ : เครื่องดื่มแก้วนี้สายหวานต้องลอง!!! มันถูกใจเรามาก เพราะชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว หวานกลมกล่อมแบบกำลังดี เข้มข้นได้ใจ บราวนี่เนื้อเด้งฉ่ำที่แต่งหน้ามาก็ช่างถูกปาก

แมงโก้แร็พเบอร์รี่สแลป : (แมงโก้โฟรซเซ่น ราสเบอรี่ฟูริ ราซเบอรี่โฟรซเว่น) แก้วนี้อาจจะถูกปากสำหรับคนที่ไม่ชอบหวานมากและเพื่อสุขภาพสุดๆ เพราะรวมผลไม้หลายชนิดไว้ด้วยกัน

พายแอปเปิ้ลกาว่า : น้ำฝรั่งผสมสับปะรด รสชาติได้ใจมาก เปรี้ยวหวานกำลังดี ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นเลยล่ะค่ะ เป็นเครื่องดื่มแนวทรอปปิคอล เหมาะกับหน้าร้อนเป็นอย่างยิ่ง

สปาเก็ตตี้กุ้งผัดพริกกระเทียมน้ำมันมะกอก : มีส่วนสผมของ พริกสด พริกแห้ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม น้ำมันมะกอก และพาร์สลีย์ เส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มกำลังดี รสชาติไม่จัดจ้าน ทานได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ

สลัดไก่ตะไคร้และคูสคูส : สลัดผักเพื่อสุขภาพอีกจาน โรยบนด้วยถั่วลิสง มะม่วงดิบ สับปะรด ข้าวโพด ซุกินี ทับทิม ราดด้วยซอสโรเมสโก้ อร่อยใช้ได้เลยล่ะค่ะจานนี้

ฟาฮีต้าไก่ : ซัลซ่ามะม่วงและอโวคาโด้ สลอว์สไตล์เอเชีย ถั่วดำบด ราดด้วยซอสชิโพเลย์ จานนี้ไม่ค่อยถูกปากเราสักเท่าไหร่ เพราะกลิ่นเครื่องเทศค่อนข้างแรงไปหน่อย สำหรับใครที่ชอบกลิ่นสมุนไพร เครื่องเทศ หรืออาหารจำพวกผงกะหรี่ กระวาน มัสมั่น หรืออาหารแขก ก็น่าจะชื่นชอบจานนี้ไม่น้อย

อาซาอี (Acai) : สมูทตี้อาซาอี (ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จากอเมซอน) – บลูเบอร์รี่ – กล้วย เสิร์ฟพร้อมแก้วมังกร แอปเปิ้ล มะพร้าวอบกรอบ เมล็ดเจีย และเมล็ดทานตะวัน จานนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานอะไรเบาๆ แคลลอรี่น้อย แต่อิ่มท้อง รสชาติอร่อยใช้ได้เลย

บลูเบอร์รี่ชีสพาย : ตบท้ายด้วยเบเกอรี่ อย่างจานนี้ ทำเอาฟินหนักมาก เน้อชีสนุ่มละมุนหวานอมเปรี้ยวหน่อยๆ ซอสที่ราดมาเข้มข้นพอดีๆ เข้ากันที่สุด

เวลาให้บริการ : 07.00 – 23:00 น.

โทรศัพท์ : 075-656-980

Facebook : https://www.facebook.com/cafe898

---

อิ่มแล้วก็เดินเล่น เดินย่อยอยู่แถวๆนั้นค่ะ ใกล้หาดอ่าวนาง ช่วงกลางคืนจะมีแสงสว่างจากไฟสีสันต่างๆริมทาง และมีร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หลายร้านเลย

---

วันที่ 2

ทัวร์เกาะห้อง-ท่องทะเลใน กับ Love Sea Tour

08.30 น. – รถมารับไปท่าเรือ

วันนี้เรามีนัดกับ “กระบี่มุขอันดา” ที่ติดต่อจาก “เลิฟซีทัวร์” ไว้ค่ะ ที่นี่เขามีทัวร์ให้เลือกเยอะ หลายจังหวัดด้วย (ทัวร์หลีเป๊ะ – ทัวร์ภูเก็ต – ทัวร์กระบี่ – ทัวร์พังงา – ทัวร์ตรัง – ทัวร์เขาสก – ทัวร์ระนอง – ทัวร์สมุย) หลังจากที่ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ 099-387-3878/ 062-935-2299 ก็แอด Line ไปเพื่อทำการนัดหมายอีกครั้งที่ @loveseatour โดยครั้งนี้ได้เลือกเป็น “ทัวร์เกาะห้อง-ท่องทะเลใน เรือเร็ว” ในราคาคนละ 990 บาท (ดูโปรแกรมกันได้จากที่นี่ http://www.loveseatour.com/ทัวร์เกาะห้อง-ท่องทะเลใ/) เขาจะมีบริการรถรับส่งถึงที่พัก โซนอ่าวนาง หรือใกล้ๆ ถ้านอกจากนี้ลองสอบถามดูได้นะคะ เราพักที่อ่าวนาง รถจะมารับตอน 08.30 น. ไปที่ท่าเรือ บริเวณหาดคลองม่วง

เมื่อมาถึงแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่มาบอกให้เดินไปยังจุดลงทะเบียน มีกล้วยให้ทานรองท้อง และมีริสแบนด์ให้โดยแยกเป็นทัวร์ละสี ใส่ข้อมือไว้นะคะ

ระหว่างรอให้ลงทะเบียนครบทุกคนก็สามารถเดินเล่นบริเวณนี้ได้ หาดคลองม่วงจะตีโค้งเป็นเวิ้ง ช่วงเช้าน้ำทะเลลดลงจนมองเห็นชายหาดกว้าง วิ่งเล่น เดินเล่นได้อย่างสนุกสนาน

ไม่นานนักไกด์ท้องถิ่นประจำเรือจะเรียกรวมกลุ่ม และอธิบายเส้นทางของทัวร์คร่าวๆค่ะ ไกด์ของทริปนี้ชื่อ “พี่ชล” พี่ชลเป็นคนฮาเฮ ร่าเริง เสียงดังฟังชัด และมีคำติดหูคือหางเสียงของประโยคจะลากยาวผสมกับมีลูกคอลูกเอื้อน (ฮ่าๆๆๆๆ) พูดทั้งไทยและอังกฤษค่ะ เพราะจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปด้วยกัน

เดินไปลงเรือ ทริปนี้เป็นสปีดโบ๊ท มีคนขับเรือและผู้ช่วยอีก 1 คน จะคอยให้บริการพวกเราอยู่ เรือวิ่งฉิว ไวดีมาก แถมบรรยากาศอย่างตื๊ด เปิดเพลงตื๊ดๆให้ฟังตลอดทาง ให้ลุกขึ้นแดนซ์ได้ด้วยนะ

แจกน้ำดื่มเย็นๆให้บนเรือ

ชมวิวเพลินๆกันไปตลอดทาง

เกาะผักเบี้ย

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดหมายแรกของทริป นั่นคือ “เกาะผักเบี้ย” ชื่อของเกาะนี้มาจากพืชท้องถิ่นที่เมื่อก่อนขึ้นอยู่บนเกาะนี้เยอะมาก คือ ผักเบี้ย หรือ ผักบุ้งทะเลนั่นเองค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีให้เห็นแล้วนะ เกาะนี้เป็นเกาะเล็กๆค่ะ มีจุดให้เดินเล่นชิลๆ และจุดให้ดำน้ำตื้นได้

ใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 20 นาที แล้วก็ไปกันต่อ ลงเรือมาก็มีน้ำส้มเย็นๆให้อีกคนละขวด

เกาะเหลาลาดิง

จุดที่สองจะเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่มากแต่มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆเยอะ “เกาะเหลาลาดิง” เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เกาะแห่งนี้เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก มีเวิ้งชายหาดสวยงามห้อมล้อมด้วยภูเขาหินปูน มีต้นไม้ต่างๆให้ร่มเงาและลมพัดเย็นสบาย หาดทรายสีขาวนวลออกเหลืองเล็กน้อย เม็ดทรายค่อนข้างละเอียด

ทะเลใน

จากนั้น พาไปชมความงามของท้องทะเลส่วนหนึ่งที่ห้อมล้อมด้วยภูเขาหินขนาดใหญ่ มีเพียงช่องเล็กๆให้เรือสามารถเข้าออกได้ แต่ต้องรอดูจังหวะที่น้ำขึ้นกำลังดี ถ้าหากน้ำลงมากไปหรือขึ้นสูงมากไป อาจจะทำให้ทางเข้าออกนั้นแคบหรือก้นเรืออาจชนโขดหินด้านล่างจนไม่สามารถเข้าไปได้ ภายในเป็นเหมือนแอ่งน้ำที่มองเห็นภูเขาอยู่รอบๆ

บริเวณกลางแอ่งจะมีเนินทรายพื้นที่เล็กๆที่สามารถยืนอยู่บนนั้นได้

เกาะห้อง

จากนั้นไปยัง “เกาะห้อง” ถือเป็นไฮไลท์ของทริปเลยก็ว่าได้ ที่นี่พี่ชลบอกว่าเคยมีละครมาถ่ายทำ “ยาย่ากับณเดชไง” พี่ชลกล่าว ที่นี่หาดทรายมีสีขาวละเอียด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในทริปนี้ น้ำใส มีปลาสวยงามแหวกว่ายให้เห็นอยู่ตื้นๆเยอะเลย

เรือจะจอดเทียบท่าบริเวณสะพานทุ่นโฟม จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานเดินมาติดต่อไกด์ประจำเรือ ปกติแล้วจะมีค่าเข้าอุทยานแห่งชาติค่ะ แต่ทางทัวร์ดูแลตรงนี้ให้ ไม่ต้องจ่ายเองนะคะ เราขึ้นเรือแล้วก็เดินไปตามทางโยกเยกๆไปจนถึงชายหาด

ก่อนอื่น ทานอาหารกลางวันกันค่ะ อาหารจะเป็นมินิบุฟเฟ่ต์ที่ทัวร์จัดให้ ราคารวมในแพ็คเกจทัวร์เรียบร้อยแล้วนะคะ ทริปนี้มี ไก่ทอด ผัดหมี่เหลือง และพะแนงไก่ ตักเองเติมได้ไม่อั้น อาหารอร่อยมาก!! โดยเฉพาะ พะแนงไก่ อร่อยมากจริงๆ

หลังจากอิ่มแล้ว เข้าห้องน้ำห้องท่า นั่งๆเดินๆชิลกันไปเรื่อยๆ ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก น้ำสีฟ้าอมเขียว มองเห็นปลาสวยงามแหวกว่ายให้เห็นกันเยอะมาก สามารถยืมสน็อกเกิ้ลบนเรือลงไปดำน้ำดูปลาดูประการังกันได้เลย

แล้วก็ได้เวลาลงทะเลๆๆๆ!! ขออภัยในความเบลอๆมัวๆของรูปใต้น้ำด้วยนะคะ ^^” ลงเล่นน้ำอยู่นานมาก มันสนุกจนลืมดูเวลา แช่อยู่ในทะเลจนมือซีด เท้าเปื่อยลอกเลย ฮ่าๆๆ

ขึ้นมาอาบน้ำ จะเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเลยก็ได้นะคะ แต่เราไม่ได้เตรียมไปก็กลับมันทั้งเปียกๆนั่นเลย นั่งพักรอเวลากลับเกือบๆบ่ายสองโมง ตอนเดินกลับเจอน้องตัวเงินตัวทองด้วย พี่ชลบอกเอาไว้ว่าเกาะนี้จะมีน้องๆอยู่ ถ้าเจอก็ไม่ต้องตกใจนะคะ น้องไม่เป็นอันตราย แต่กลับน่ารักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยซ้ำ เป็นดาราประจำเกาะเลยนะ นักท่องเที่ยวรุมถ่ายรูปกันเพียบเลย ^^

หมดเวลาสนุกแล้ว ต้องลงเรือกลับเข้าฝั่งแล้ว บ๊ายๆเกาะห้อง

เมื่อกลับเข้าฝั่งแล้วจะมีรถพาไปส่งยังที่พัก หรือตรงที่เราให้เขาไปรับตอนแรกค่ะ

เราเช็คเอ๊าท์จากที่พักตั้งแต่เช้าแล้ว เดินไปหารถที่จอดเอาไว้ แล้วไปหาดคลองม่วงหาที่อาบน้ำ (คนละ 10 บาท) นั่งชิลหาของกินที่มีรถขายแถวๆนั้น ส้มตำ ลูกชิ้น น้ำอัดลม อิ่มแล้วก็เข้าสนามบิน โทรหา Avis เพื่อคืนรถ แล้วก็เดินเข้าไปด้านในสนามบินรอเวลากลับ

มีเวลาแค่วันหยุด 2 วัน เสาร์ – อาทตย์ ก็เที่ยวได้สนุกขนาดนี้ ฟินกับทุกสิ่งอย่างตลอดทริปเลย

ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ ^^