ออกเดินทางจากดอยผาฮี้ ก่อนเที่ยง ตั้งใจจะหาอาหารมื้อกลางวันที่อำเภอแม่สาย แวะเก็บภาพเหนือสุดแดนสยามและสามเหลี่ยมทองคำ  แต่หลงทางนิดหน่อย ก็เลยแวะที่สามเหลี่ยมทองคำ ถ่ายรูปไป มองหาร้านทานอาหารไป แต่ไม่สำเร็จ  ก็เดินทางต่อ ตั้งใจว่าระหว่างทางมีร้านอาหารพื้นเมือง หรือร้านอาหารที่น่าสนใจค่อยแวะล่ะกัน

สามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่ห่างจากเชียงแสนไปทางทิศเหนือ 9 กิโลเมตร ตามถนนเลียบริมแม่น้ำโขง สบรวกเป็นบริเวณที่แม่น้ำโขง พื้นที่รอยต่อระหว่างสามประเทศ ได้แก่ประเทศไทย (จังหวัดเชียงราย) ลาว (แขวงบ่อแก้ว) และพม่า (ท่าขี้เหล็ก, รัฐฉาน) มีลักษณะเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมบรรจบกัน โดยมีแม่น้ำโขงตัดผ่านชายแดนไทยและลาว นับเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาค นอกจากนี้สามเหลี่ยมทองคำยังมีทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะยามเช้าที่ดวงอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางสายหมอก 

กิจกรรมท่องเที่ยวบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ

1. ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขง

  • จุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และพม่า ค่าเช่าเรือประมาณ 300-400 บาท (นั่งได้ 6 คน)
  • นั่งเรือไปคาสิโน คิงส์โรมัน (Kings Roman Casino) เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้วของลาว (ต้องทำบัตรผ่านแดนที่ อ.เชียงแสน)
  • เที่ยวทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่น สิบสองปันนา คุนหมิง

2. นมัสการพระเชียงแสนสี่แผ่นดิน 

ประดิษฐานกลางแจ้ง ณ สามเหลี่ยมทองคำ พระพุทธนวล้านตื้นองค์นี้เป็น พระเชียงแสนสี่แผ่นดินเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งได้สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่จมลงแม่น้ำโขง และสร้างขึ้น ด้วยทองสัมฤทธิ์ ปิดทองด้วยบุศราคัม น้ำหนักถึง 69 ตัน หน้าตักกว้าง 9.99 ม.สูง 15.99 ม. ประทับนั่งบน "เรือแก้วกุศล ธรรม" ขนาดใหญ่

3. ถ่ายรูปคู่กับซุ้มประตูสามเหลี่ยมทองคำ

4. ช้อปปิ้งซื้อของที่ระลึก ซึ่งจะมีร้านค้าตลอดแนวถนน ฝั่งตรงข้ามจุดชมวิว

เมื่อไม่มีร้านอาหารที่โดนใจให้นั่ง ก็เดินทางต่อ เพื่อไปดอยผาตั้ง ระหว่างทางมองเห็นป้ายทางไป "ดอยสะโง้"  ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับสามเหลี่ยมทองคำมาก ไม่รอช้า ไปเลยค่ะ ตามเส้นทางนี้ ถนนลาดยาง แต่มีความชันมากขึ้น มากขึ้น เมื่อใกล้ถึงดอย

Let's Go ดอยแม่สะโง้

ระหว่างทางก่อนถึงจุดสูงสุดบนดอย ก็จะมีที่พักให้บริการ 

และจะเจอถนนขรุขระประมาณ 500 เมตร ต้องเป็นรถกระบะโฟว์วิลหรือรถมอเตอร์ไซด์ เท่านั้นที่สามารถขึ้นไปได้  นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถของชาวบ้าน หรือเดินเท้าขึ้นไปก็ได้

เราขับรถกระบะไป และตั้งใจจะจอดไว้ตรงทางขึ้น แต่เจอชาวบ้านบอกว่าให้ขับขึ้นไปได้เลย (สงสัยคิดว่าเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ) ทางขรุขระมากขับไปได้สัก 50 เมตร ก็เลยหาที่จอดแอบๆไว้ในป่าข้างทาง และเดินเท้าขึ้นไป ก็สบายๆค่ะ ต้นไม้เยอะ ไม่ร้อน จะร้อนก็ตอนที่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของดอย

ถึงแล้วค่ะ

มองเห็นวิวทิวทัศน์ของดินแดนสามประเทศ ไทย พม่า ลาว และเห็นชุมชนของ 3 อำเภอ เชียงแสน แม่จัน และแม่สาย สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว

ชาวบ้านบอกว่า กลางคืนอากาศดีมาก ตอนเช้ามีทะเลหมอกด้วยและที่นี่มีบ้านพักโฮมสเตย์ ที่สร้างเป็นกระท่อมของชนเผ่าอาข่า ซึ่งเป็นชนเผ่าหลักที่อาศัยอยู่บนยอดดอยแห่งนี้ มีชิงช้าและเครื่องเล่นของชนเผ่า อย่าง ม้าโยก รถม้งดอย หากใครไม่ได้พักโฮมสเตย์มีบริการลานกางเต็นท์ของเอกชนอีกหลายจุด และลานชมวิวหลายจุดให้ได้ชมวิวถ่ายภาพได้


วันนี้ร้านค้ายังไม่ค่อยเปิดให้บริการ แต่มีร้านส้มตำไก่ย่าง ลาบปากล่ะ จัดไปให้หายหิว นี่คือโต๊ะอาหารและออเดิฟ555

เวลานี้อากาศร้อนมาก ไม่สามารถเก็บภาพวิวสวยๆมาฝากได้เต็มที่ ตั้งใจมาก ว่าจะต้องมาอีกเร็วๆนี้ และจะพักบนดอยแห่งนี้แน่นอน สอบถามร้านค้าบอกว่าบนดอยจะมีผู้ให้บริการที่พักอยู่ 3 เจ้าของ สามารถเลือกพักเป็นบ้านพัก หรือเป็นเต้นท์ก็ได้ แต่รับรองตื่นมามองเห็นหมอกอยู่ปลายเท้าเลยทีเดียว 

เจอกันอีกนะคะ "ดอยสะโง้" เร็วๆนี้  วันนี้ต้องรีบไปดอยผาตั้งก่อนค่ะ

ดอยผาตั้ง
https://th.readme.me/p/29409

Paikannaka

 วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.32 น.

ความคิดเห็น