ถ้าพูดถึงที่เที่ยวราชบุรี หลายคนอาจจะคิดถึงสวนผึ้งเป็นอันดับแรก เพราะเต็มไปด้วยที่เที่ยวที่พัก นอกจากนั้นอาจจะคิดถึงดำเนินสะดวกที่มีตลาดน้ำชื่อดัง แต่วันนี้ผมเปลี่ยนบรรยากาศไปพักในอำเภอที่ดูจะไม่มีที่เที่ยวอะไร ไปนอนโพธารามกันครับ

          โพธาราม ดูเงียบสงบไปเลยเมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวอย่างสวนผึ้ง นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน แหล่งท่องเที่ยวก็อาจจะมีไม่มากนัก ดังนั้นถ้าอยากได้ความสงบ มาพักผ่อนแบบพักผ่อนจริงๆ นั่งๆนอนๆฟังเสียงนกเสียงลม โพธารามก็น่าจะเหมาะ

          มาโพธารามรอบนี้ผมเลือกเข้าพักที่ พิง เพ ลา โพธาราม โรงแรมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แต่ห้องพักน้อยมีเพียง 7 ห้องเท่านั้น ติดริมแม่น้ำแม่กลอง การเดินทางมา พิง เพ ลา ไม่ยากนักหากเป็นรถส่วนตัว ถ้ามาจากอำเภอโพธารามให้ข้ามแม่น้ำแม่กลอง โดยสะพานที่ใกล้กับที่พักที่สุดคือ สะพานท่าชุมพล-คลองข่อย ข้ามมาเสร็จก็เลี้ยวขวาอีกนิดเดียวก็ถึง อยู่ตรงข้ามกับบ้านปูน คาเฟ่

          ที่จอดรถด้านหน้า ส่วนพื้นที่ด้านในถูกแบ่งไว้ด้วยกำแพงต้นไม้กับช่องประตูขนาดไม่ไม่ใหญ่โตราวกับจะกั้นความวุ่นวายให้จบไว้ตรงนี้ก่อนจะก้าวเข้าสู่พื้นที่ด้านใน ผ่านกำแพงมาด้านในเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของบ้านไม้ กับความทันสมัยด้วยปูนเปลือยและพื้นที่กระจก ตกแต่งด้วยเสาไม้และโซ่ กับต้นไม้ใหญ่อีกหลายต้น

          เข้ามาด้านในจะเจอกับห้องใหญ่ห้องหนึ่งซึ่งเป็นทั้งที่ทานอาหารและจุดเช็คอินด้วยในที่เดียวกัน เข้ามาติดต่อด้านในตรงเคาท์เตอร์ได้เลย และเราต้องเลือกอาหารเช้าไว้เลยซึ่งมี 2 แบบให้เลือกคือ อาหารเช้าแบบอเมริกัน กับ อาหารเช้าแบบโจ๊ก ไข่กะทะ  เลือกอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยรอไม่นานห้องพักของเราก็เรียบร้อย

          ห้องพักที่ผมจองไว้วันนี้เป็นห้อง River View ซึ่งมีอยู่ห้องเดียว ราคาตอนที่ไปพักในเดือน พ.ค. อยู่ที่ 2800 บาท/คืนรวมอาหารเช้า 

          เปิดเข้ามาในห้องพัก การตกแต่งแบบไทยคอนเทมโพลารี่ ที่ให้ความรู้สึกผสมกันระหว่างความเก่ากับความใหม่ เช่นตู้เสื้อผ้าไม้ที่เหมือนตู้กับข้าว พื้นไม้ โคมไฟหัวเตียงที่ดูคลาสสิก กับเฟอร์นิเจอร์ที่ดูทันสมัย รวมๆให้ความรู้สึกอบอุ่น สบาย เหมือนอยู่บ้าน

          จุดเด่นของห้องนี้นอกจากจะเป็นห้องเดียวที่เห็นวิวแม่น้ำแล้ว ยังเป็นห้องที่มีพื้นที่กระจกเยอะมาก สามารถรับแสงจากด้านนอกได้ 2 ด้านเต็มๆ ทำให้ห้องดูโปร่ง สว่าง แต่ต้องแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัวที่อาจจะน้อยหน่อยเพราะห้องอยู่แค่ชั้น 2 เท่านั้น คนที่อยู่ด้านล่างมองขึ้นมาเห็นได้อย่างชัดเจน

          ห้องน้ำขนาดกว้างพอสมควรเป็นแบบปูนเปลือย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องน้ำครบถ้วน ส่วนอาบน้ำมีช่องแสงเป็นกระจกขุ่น 2 ด้านเพิ่มความสว่างภายในห้องน้ำได้ดี

          ถุงใส่คีย์การ์ดแบบผ้าสวยงามน่ารักดี สิ่งที่ชอบอีกอย่างสำหรับที่นี่คือ Wifi แรงมากๆ แรงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ความเร็วระดับนี้ดูหนัง Full HD สบายหายห่วง

          ด้านล่างเป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดค่อนข้างใหญ่ มีสนามหญ้า และที่นั่งใต้ต้นไม้ให้เลือกนั่ง และมีสระว่ายน้ำขนาดย่อมอยู่ด้านข้าง ด้วยขนาดของสระว่ายน้ำที่ไม่ใหญ่นักจึงเหมาะกับการแช่ตัวชมวิวมากกว่าจะว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจัง ตัวสระมีทีเด็ดอีกอย่างคือจะมีไฟที่เปลี่ยนสีได้เรื่อยๆ กลางคืนสวยมากแต่คืนที่ผมพักฝนตก อดครับผม จากด้านล่างนี้จะเห็นห้อง River view ที่ผมพักอยู่อย่างชัดเจนถึงขนาดเห็นแทบจะทุกอย่างในห้อง ใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวปิดม่านเอานะครับ

          มื้อเย็นฝากท้องไว้ที่นี่แหละ ฝนตั้งเค้ามาแต่ไกลไม่ออกไปข้างนอกดีกว่า ห้องอาหารเป็นห้องที่เราเช็คอินนั่นแหละ จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือการนำต้นไม้มาแทรกไว้ในแทบจะทุกส่วนของพื้นที่ส่วนรวม ทำให้บรรยากาศอบอุ่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะหน้าฝนแบบนี้ทำให้ความเขียวของต้นไม้เขียวขึ้นไปอีก

         สั่งอาหารแค่ 2 อย่างเพราะยังอิ่มอาหารกลางวันอยู่ แต่อาหาร 2 จานที่เสริฟมาปริมาณก็เยอะใช่เล่น ทำเอาอืดไปอีกรอบ รสชาติของอาหารไม่ได้มีอะไรโดดเด่น เรียกว่าทานได้เรื่อยๆมากกว่า

          เช้าวันต่อมาลงมาทานอาหารเช้า บรรยากาศสดชื่นมากเนื่องจากฝนกระหน่ำไปเมื่อคืน สูดอากาศให้เต็มปอด เพราะอากาศแบบนี้ในกรุงเทพคงหาไม่ได้ง่ายๆ นั่งทานข้าวรับอากาศสดชื่นด้านนอกนี่แหละ เช้าขนาดนี้เย็นสบายอยู่แล้ว

          อาหารเช้ามาแล้ว ปริมาณอิ่มพอดีๆ นั่งทานไปฟังเสียงนกไป สูดอากาศเย็นๆตอนเช้าไป อาหารอร่อยขึ้นอีกนิด

          พิง เพ ลา โพธาราม เป็นที่พักที่ผมเรียกว่าที่พักได้แบบเต็มที่ ที่นี่ไม่มีอะไรให้เล่นให้ทำมากนักทำให้ได้พักผ่อนจริงๆ นั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้สั่งเครื่องดื่มเย็นๆมาจิบ หรือจะนอนดูซีรีส์ที่ชอบก็ทำได้แบบสบายใจ ถ้าเป็นคนชอบที่พักแบบมีอะไรให้ทำเยอะๆ ไม่ใช่ที่นี่แน่ แต่ถ้าอยากได้ที่พักผ่อน หนีความวุ่นวาย อยู่กับตัวเอง อยู่กับธรรมชาติ เลือกที่นี่ได้เลยครับ

Pratuneung

 วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 10.00 น.

ความคิดเห็น