เที่ยวน่าน 4วัน3คืน x รายละเอียดแพลนเที่ยว 

บ้านสะปัน บ่อเกลือ ดอยสกาด บ้านห้วยโทน และตัวเมืองน่าน

คลิปวิดีโอ รายละเอียดการเดินทาง

►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►


ฝากติดตามเพจด้วยครับ

facebook fanpage : https://goo.gl/Fumgyi [ยิ้มแบกเป้เที่ยว]

อย่าลืมกดLike กดShare และ subscribe ด้วยนะครับ
YouTube
►► https://bit.ly/2yFR22w




วันที่ 1

08.10 - 09.20 น. ดอนเมือง-สนามบิน จ.น่าน

11.00 - 13.20 น. เมืองน่าน ( วัดภูมินทร์ + ข้าวซอยต้นน้ำ + วัดมิ่งเมือง + พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ )

13.20 - 13.30 น. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ - วัดพระธาตุเขาน้อย

13.30 - 13.50 น. วัดพระธาตุเขาน้อย

14.00 - 16.00 น. วัดพระธาตุเขาน้อย - ดอยสกาด

16.00 น. - วันที่ 2 ดอยสกาด อุ่นไอใบเมี่ยง


เริ่มด้วยวันแรกนะครับ 

เรานั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมือง มาลงที่สนามบินน่าน 

เมื่อมาถึงสนามบิน เราก็เช่ารถ จากสนามบิน 

ซึ่งตอนที่ผมไป ราคาเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 700 บาท เป็นต้นไป ซึ่งตอนที่ผมมา 

ก็แนะนำให้เครื่อง 1500 ซีซี ขึ้นเลยดีกว่า เวลายังเหลือเยอะ

ก่อนที่จะเดินทางไปดอยสกาด

เราจะมุ่งหน้าเข้าไปในเมืองน่านก่อน เพื่อไปสักการะไหว้พระ

ขอเจ้าที่เจ้าทาง เพื่อความเป็นสิริมงคล

ในการเดินทางก่อน โดยจะไปจอดรถแถวบริเวณวัดภูมินทร์


11.00 - 13.20 น. เมืองน่าน ( วัดภูมินทร์ + ข้าวซอยต้นน้ำ + วัดมิ่งเมือง + พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ )


จากสนามบินน่าน มาที่ วัดภูมิทร์ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึง วัดภูมินทร์




ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังอายุร้อยกว่าปี ฝีมือจิตรกรชาวไทลื้อ  

หนึ่งในนั้นคือภาพปู่ม่านย่าม่าน

หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในนามภาพ “กระซิบรักบันลือโลก”




เมื่อสักการะเสร็จแล้ว เราก็เดินไปกินอาหารเที่ยง ที่ ร้านข้าวซอยต้นน้ำ



ข้าวซอยต้นน้ำ 

ซึ่งเป็นร้านที่อยู่คู่เมืองน่าน มามากกว่า 30 ปี ตั้งอยู่ใกล้กับวัดมิ่งเมือง


เมื่อกินเสร็จแล้ว เดินไปอีกนิดนึง ก็จะเจอกับวัดมิ่งเมือง

วัดมิ่งเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ เสาพระหลักเมืองน่าน

จากนั้นเราก็เดินย้อนกลับมา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

ที่อยู่ตรงข้ามกับวัดภูมินทร์ เพื่อมาถ่ายรูปกับซุ้มลีลาวดี กันก่อน


13.20 - 13.30 น. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ - วัดพระธาตุเขาน้อย

13.30 - 13.50 น. วัดพระธาตุเขาน้อย

เสร็จแล้ว เวลาประมาณ 13.20 น. 

เราก็มุ่งหน้ากันไปที่ วัดพระธาตุเขาน้อย

วัดพระธาตุเขาน้อย มีพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร

ด้านบนนี้เราสามารถชมวิวเมืองน่านจากมุมสูง 180 องศา


เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 10 -15 นาที

จากนั้นก็มุ่งหน้าไป ที่ ดอยสกาด กันเลย



14.00 - 16.00 น. วัดพระธาตุเขาน้อย - ดอยสกาด


เดินทางประมาณ 1.30 - 2 ชั่วโมง

ดอยสกาด อยู่ในอำเภอปัว

ดอยสกาด เป็นบ้านเรือนของชาวบ้านปลูกแทรกตามไหล่เขา

ลักษณะของหมู่บ้านส่วนใหญ่ จะเป็นบ้านไม้และที่ตั้งอยู่บนที่สูง 

และสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาดอยภูคาได้


16.00 น. - วันที่ 2 ดอยสกาด อุ่นไอใบเมี่ยง

ซึ่งตอนที่ผมไป ผมพักที่ บ้านอุ่นไอใบเมี่ยง

บ้านอุ่นไอใบเมี่ยง เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ตั้งอยู่บนเนินเขา

พื้นที่ส่วนกลางทั้งสองชั้น จะมองเห็นวิวภูเขาได้ 180 องศา


วันที่ 2

06.00 - 06.50 น. อุ่นไอใบเมี่ยง - นาขั้นบันได โครงการพัฒนาบ้านกอก-บ้านจูน

06.50 - 07.30 น. นาขั้นบันได โครงการพัฒนาบ้านกอกบ้านจูน

07.30 - 08.20 น. นาขั้นบันได โครงการพัฒนาบ้านกอกบ้านจูน - อุ่นไอใบเมี่ยง

10.30 - 10.45 น. อุ่นไอใบเมี่ยง - สกาดคอฟฟี่

10.45 - 11.45 น. สกาดคอฟฟี่

12.00 - 14.30 น. สกาดคอฟฟี่ - จุดชมวิว 1715 - ถนนลอยฟ้า - บ้านสะปัน

15.00 - 16.00 น. บ้านสะปัน - บ้านห้วยโทน

16.00 น. - วันที่ 3 บ้านห้วยโทน



06.00 - 06.50 น. อุ่นไอใบเมี่ยง - นาขั้นบันได โครงการพัฒนาบ้านกอก-บ้านจูน



เช้าวันที่ 2 ผมมีแพลนที่จะเดินทางไปชม นาขั้นบันได โครงการพัฒนาบ้านกอก-บ้านจูน

ซึ่งต้องเหมารถ 4WD ของชาวบ้านขึ้นไป

โดยไฮไลท์อยู่ที่ระหว่างทาง เราจะเห็นนาขั้นบันได ที่ปลูกเรียงรายระหว่างทาง

06.50 - 07.30 น. นาขั้นบันได โครงการพัฒนาบ้านกอกบ้านจูน

เมื่อนั่งรถมาได้ประมาณ 50 นาที เราก็มาถึงโครงการพัฒนาบ้านกอก-บ้านจูน

                

โครงการพัฒนาบ้านกอก-บ้านจูน 

ที่นี่เป็นโครงการพระราชดำริ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เป็นโครงการขยายผล การทำนาขั้นบันได สู่หมู่บ้านพื้นที่ไกล้เคียง 

เพื่อนำน้ำเข้าสู่แปลงนา

เพื่อนำพื้นที่ป่าที่ถูกทำลายมาใช้ประโยชน์ให้เกิดการผลิตสูงสุด



เราจะเดินเล่นและถ่ายรูปกันอยู่บนนี้ประมาณ 30 - 40 นาที ก่อนจะกลับไปยังที่พัก

07.30 - 08.20 น. นาขั้นบันได โครงการพัฒนาบ้านกอกบ้านจูน - อุ่นไอใบเมี่ยง
10.30 - 10.45 น. อุ่นไอใบเมี่ยง - สกาดคอฟฟี่


เวลาประมาณ 10 โมงกว่าๆ เราก็เช็คเอ้าท์ล้วมุ่งหน้ากันไปที่ บ้านสะปัน

แต่ก่อนที่จะออกเดินทาง เรามาจิบกาแฟกันที่ สกาดคอฟฟี่ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก

ร้าน สกาดคอฟฟี่ เป็นร้านกาแฟที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

ซึ่งบริเวณร้านจะเห็นวิวภูเขาดอยภูคา และมีสะพานเหล็ก

ร้านเปิดทุกวัน 08.00 น. - 18.00 น.

10.45 - 11.45 น. สกาดคอฟฟี่

เรานั่งชิวๆอยู่ที่นี่ได้เกือบ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ


12.00 - 14.30 น. สกาดคอฟฟี่  - ถนนลอยฟ้า - บ้านสะปัน

เราขับรถจากร้านสกาดคอฟฟี่ มาที่หมู่บ้านสะปัน โดยใช้เส้นทาง 1256 ที่ผ่าน อ.ปัว

ใช้เวลาประมาณ 1.30 - 2 ชั่วโมง

ระหว่างเส้นทาง 1256 เราจะผ่าน ถนนลอยฟ้า

อารมณ์เหมือนเราขับรถอยู่บนสันเขาเลย


หลังจากที่เราขับรถกันมาได้ 2 ชั่วโมง เราก็ผ่าน เรามาถึงบ้านสะปัน

หมู่บ้านสะปัน ตั้งอยู่ในอำเภอบ่อเกลือ

แต่คืนนี้เราจะไม่พักกันที่นี่ เราจะไปกันต่อที่บ้านห้วยโทน 

ที่อยู่ทางด้านเหนือของบ้านสะปัน

ซึ่งเราต้องเหมารถ 4WD ของชาวบ้านเข้าไป ราคาเหมาไป-กับ 1500 บาท 



เรามาพบกับพี่จำเนียร 

เป็นพี่คนขับ และจอดรถเราจะจอดรถไว้บริเวณร้าน เฮือนฮิมน้ำ โฮมสเตย์


📌รายละเอียดเพิ่มเติม(บ้านห้วยโทน)
1. เหมารถ จาก สะปัน-ห้วยโทน ไป-กลับ 1,500 บาท
2. ที่พัก 800- /คน พักได้สูงสุด 6 คน (พร้อมอาหาร)
3. จุดกางเต็นท์ 200- (นำเต็นท์มาเอง)
ราคา 300- (เต็นท์หมู่บ้าน)
บริเวณลานกางเต็นท์มีห้องน้ำ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

รถเหมา ห้องพัก และ ลานกางเต็นท์ ได้ที่
1.082-1900491
2.064-1040320


15.00 - 16.00 น. บ้านสะปัน - บ้านห้วยโทน

จากบ้านสะปันเดินทางไปที่บ้านห้วยโทน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ซึ่งบอกเลยวิวระหว่างทางสวยมากๆ 

โดยขับรถเลียบเขาที่สลับไปมา บอกเลยว่าวิวระหว่างทางสวยมากๆ

และอย่างที่พี่คนขับได้บอกไว้ เส้นทางนี้เป็นถนนลูกรัง


16.00 น. - วันที่ 3 บ้านห้วยโทน

บ้านห้วยโทน ภาษาท้องถิ่น เรียกว่า “สะโทน” หมายถึงหมู่บ้านอยู่แบบโดดๆ

ที่นี่ตั้งอยู่บนไหล่เขา ติดแนวชายแดน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ส่วนเพื่อนๆท่านใดที่นำรถเก๋งมา ไม่สามารถขึ้นไปได้

จะต้องเป็นรถกระบะ 4WD เท่านั้น ส่วนมอเตอร์ไซค์แนะนำมอไซค์วิบาก

นี่คือร้านค้าหนึ่งเดียวในหมู่บ้าน ที่เราสามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้ 

บริการส่งถึงที่ ปิด 2ทุ่ม

ในค่ำคืนนี้ เราจะพักนอนกางเต็นท์กัน ราคา 300 บาท




วันที่ 3

06.00 - 09.00 น. จิบกาแฟ + จุดชมวิว + เดินเล่นบ้านห้วยโทน

09.30 - 11.30 น. บ้านห้วยโทน - หมู่บ้านสะปัน (จุดชมวิวระหว่างทาง)

11.30 - 13.30 น. หมู่บ้านสะปัน

(วัดสะปัน + หยุดเวลา ณ สะปัน)

13.30 - 13.50 น. บ้านสะปัน - บ่อเกลือ

14.00 - 14.30 น. บ่อเกลือ

14.30 - 15.30 น. บ่อเกลือ - ถนนหมายเลขสาม

15.30 - 15.45 น. ถนนหมายเลขสาม

15.45 - 16.45 น. ถนนหมายเลขสาม - รร.น่านนคร

17.15 - 17.45 น. รร.น่านนคร - กำแพงเมืองเก่า

17.45 - 18.00 น. กำแพงเมืองเก่า

18.00 - 18.10 น. กำแพงเมืองเก่า - ร้านอาหารปุ้ม3

18.10 - 19.30 น. ร้านอาหารปุ้ม3

19.40 - 20.00 น. ร้านอาหารปุ้ม3 - ถนนคนเดิน

20.00 - 21.30 น. ถนนคนเดิน

21.45 น. - วันที่ 4 โรงแรมน่านนคร


06.00 - 09.00 น. จิบกาแฟ + จุดชมวิว + เดินเล่นบ้านห้วยโทน

ในรุ่งเช้าวันที่ 3 เรานั่งรถไปจิบกาแฟและชมวิวบ้านห้วยโทนที่อยู่บริเวณด้านบนของจุดกางเต็นท์

                                          โดยพี่ที่เราเหมารถกันมา จะมารับเราในตอนเช้า

หลังจากที่อยู่ด้านบนนี้ได้ประมาณ 30 นาที 

พี่คนขับก็จะพาเราไปเดินเล่นในบริเวณชุมชนบ้านห้วยโทน

เวลา 8 โมงกว่าๆ

เราก็กลับมายังจุดกางเต็นท์ เก็บสัมภาระ อาบน้ำ กินข้าวกันให้เรียบร้อย

เพื่อเตรียมตัวกลับมาที่บ้านสะปัน


09.30 - 11.30 น. บ้านห้วยโทน - หมู่บ้านสะปัน (จุดชมวิวระหว่างทาง)


เวลา 9 โมงครึ่ง พี่ก็มารับเรา จากบ้านห้วยโทนมายังบ้านสะปัน

ระหว่างทางที่กลับ เราก็จะแวะดูจุดวิว 2 ที่ คือ จุดชมวิวสันสอด และ จุดชมวิวบ้านสามหลัง

จุดชมวิวที่ 1 จุดชมวิวสันสอด

จุดชมวิวที่ 1 จุดชมวิวสันสอด



จุดชมวิวที่ 2 จุดชมวิวบ้านสามหลัง

จุดชมวิวที่ 2 จุดชมวิวบ้านสามหลัง






11.30 - 13.30 น. หมู่บ้านสะปัน (วัดสะปัน + หยุดเวลาคาเฟ่) 

จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่ร้านหยุดเวลา คาเฟ่ เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอิน

ที่สามารถมองเห็นภูเขาที่โอบล้อมหมู่บ้านแห่งนี้

จะว่าไปแล้ว ผมก็คิดว่าที่นี่น่าจะเป็นมุมจุดชมวิวที่สวยที่สุดของหมู่บ้านนี้

บริเวณหน้าวัดสะปัน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิต ที่มีผู้คนมากางเต็นท์กันเยอะมากๆ




13.30 - 13.50 น. บ้านสะปัน - บ่อเกลือ

หลังจากที่ผมใช้เวลาอยู่ที่บ้านสะปัน ได้ 2 ชั่วโมง

ผมก็ขับกลับจากบ้านสะปันมาที่บ่อเกลือสินเธาว์ ที่เราขับมาผ่านกันมาเมื่อวาน

14.00 - 14.30 น. บ่อเกลือใต้

บ่อเกลือสินเธาว์เป็นแหล่งเกลือสินเธาว์ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดน่าน เกลือ

ซึ่งเกลือจากบ่อเกลือแห่งนี้กลายเป็นสินค้าที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว

เช่น เกลือสปาขัดผิว เกลือแช่เท้า สบู่ดอกเกลือ ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อหากลับบ้าน



ปั้มน้ำมัน หนึ่งเดียวในตำบลบ่อเกลือใต้ อยู่ห่างจากสามแยกบ่อหลวง ประมาณ 6.9 กิโลเมตร





14.30 - 15.30 น. บ่อเกลือ - ถนนหมายเลขสาม

หลังจากนั้นเราก็ขับรถจาก ต.บ่อเกลือใต้ มุ่งหน้ามาที่ อ.เมืองน่าน โดยใช้

เส้นทางหมายเลข 1081

ไฮไลท์ของเส้นทางนี้ คือ จุดชมวิวหมายเลข 3



15.30 - 15.45 น. ถนนหมายเลขสาม หรือ ถนนโค้งเลข 3

จุดชมวิวหมายเลข 3 เป็นเส้นทางถนนหมายเลข 1081 ใน ตำบลอวน อำเภอปัว จังหวัดน่าน

เป็นถนนที่เป็นถนนอีกเส้นทางที่สวยงดงามมากและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการมาแวะถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆ



15.45 - 16.45 น. ถนนหมายเลขสาม - รร.น่านนคร

เมื่อถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลามุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอเมือง ในค่ำคืนที่ 3 นี้ 

ผมพักที่โรงแรมน่านนครา

รร น่านนครา ทำเลที่ตั้งของ เป็นโรงแรมอยู่ด้านหลังวัดภูมินทร์

สามารถเดินไปเที่ยวรอบๆเมืองเก่าน่านได้สะดวกมากๆ และที่นี่ยังมีจักรยานให้ยืมปั่นเที่ยวได้ฟรี

โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผมเช็คอิน เก็บสัมภาระเสร็จ ผมยืมจักรยานของที่พัก ยืมฟรีไม่เสียค่าบริการ




17.15 - 17.45 น. รร.น่านนคร - กำแพงเมืองเก่า

ในยามเย็นนี้ เราจะปั่นจักรยานชมย่านเมือง โดยมีปลายทางอยู่ที่กำแพงเมืองเก่าน่าน



17.45 - 18.00 น. กำแพงเมืองเก่า

กำแพงเมืองเก่าน่าน เป็นแนวกำแพงที่ปรากฎให้เห็นในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๓๙๘






18.00 - 18.10 น. กำแพงเมืองเก่า - ร้านอาหารปุ้ม3

และในมือเย็นของวันนี้ ผมขอแนะนำเลย ต้องมากันที่ ร้านอาหารปุ้ม3 อร่อยมากๆ การันตรีเลย

18.10 - 19.30 น. ร้านอาหารปุ้ม3

ร้านอาหารปุ้ม3 ซึ่งเป็นร้านข้าวต้มชื่อดังคู่จังหวัดน่านที่เปิดขายใน ตั้งแต่ประมาณ 5 โมงเย็นไปจนถึงดึกที่จะมากินร้านนี้

ผมแนะนำให้มาต้งแต่ตอนร้านเปิดเลย เพราะถ้ามาจากกว่านี้โต๊ะเต็มแน่นอน




19.40 - 20.00 น. ร้านอาหารปุ้ม3 - ถนนคนเดิน

เมื่อกินเสร็จแล้ว ก็ปั่นจักรยานกลับมายังที่พัก แล้วไปเดินเล่นกันที่ถนนคนเดิน




20.00 - 21.30 น. ถนนคนเดิน

ถนนคนเดินตั้งอยู่ข้างวัดภูมินทร์ ถนนคนเดิน เปิดเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ห้าโมง ถึงประมาณสี่ทุ่ม

ที่นีมีบริการนวด เพื่อสุขภาพ ซึ่งหลังจากที่ผมเดินและปั่นจักยาน มาทั้งวัน 

ผมก็ไม่รอช้าที่จะไปใช้บริการที่นี่ ซึ่งหลังจากที่เราเดินทางมา3วัน 

การได้นวดผ่อนคลาย ถือว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากๆเลย


21.45 น. - วันที่ 4 โรงแรมน่านนครา

                                                 จากนั้นเราก็เดินทางกลับที่พัก



วันที่ 4

10.00 - 11.00 น. รถรางชมเมืองเก่า

11.15 - 11.45 น. ข้าวซอยต้นน้ำ

12.30 - 12.45 น. น่านนครา - ขนมหวานยยายภรณ์

12.45 - 13.25 น. ขนมหวานยยายภรณ์ + ตึกรังษีเกษม

13.25 - 13.30 ตึกรังษีเกษม - บ้านโฮงเจ้าฟองคำ

13.30 -14.00 น. บ้านโฮงเจ้าฟองคำ

16.15 - 17.50 น. สนามบินน่าน - สนามบินดอนเมือง



วันที่ 4 ก่อนที่เราจะกลับไปที่สนามบินน่าน ใน เช้าวันนี้ เวลา 10 โมง 

เรามานั่งรถรางชมเมืองเก่ากันก่อน

รถรางชมเมืองน่าน จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง


10.00 - 11.00 น. รถรางชมเมืองเก่า

เส้นทางที่รถรางผ่านจะเป็นย่านเมืองเก่าที่ยังมีโบราณสถาน

อาคารบ้านเรือนในสมัยก่อน วัดต่างๆ

ใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทาง 45-60 นาที และแวะจอดแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน

จำนวน 2 จุดๆละ 10 นาทีโดยมีเจ้าหน้าที่บรรยายบนรถรางตลอดเส้นทาง



11.15 - 11.45 น. ข้าวซอยต้นน้ำ

หลังจากนั้นเราก็เดินไปกินข้าวที่ร้านซอยต้นน้ำทิ้งทวนอีกรอบ

เมื่อกินเสร็จแล้ว เราก็เดินทางกลับมาเช็คเอาท์ที่พัก 

แล้วขับรถไปที่ ร้านขนมหวานยายภรณ์


12.30 - 12.45 น. น่านนครา - ขนมหวานยยายภรณ์

12.45 - 13.25 น. ขนมหวายยายภรณ์ + ตึกรังษีเกษม

ร้านขนมหวานยายภรณ์ ที่นี่บรรยากาศร้านจะเป็นใต้ถุนบ้านไม้โล่งๆ

      

                         เมื่อกินของหวานเสร็จแล้ว ก็ขับมาได้ 550 เมตร ก็จะถึงตึกรังษีเกษม


เราก็จะพบกับตึกรังษีเกษม 

ป็นตึกสีม่วงๆ ปัจจุบันตึกรังษีเกษม ที่ได้ถูดดัดแปลงเป็นอาคารหอประวัติศาสตร์ จัดแสดงโบราณวัตถุ

ถ่ายรูปเสร็จ ก็มุ่งหน้าไปที่บ้านโฮงเจ้าฟองคำ เป็นสถานที่ท้ายสุดในทริปนี้


13.25 - 13.30 ตึกรังษีเกษม - บ้านโฮงเจ้าฟองคำ

13.30 -14.00 น. บ้านโฮงเจ้าฟองคำ


บ้านโฮงเจ้าฟองคำ เป็นบ้านเก่าอายุเกือบ200ปี สร้างจากไม้สักหลังใหญ่สไตล์ล้านนา



ชั้นล่างเป็นใต้ถุนโล่ง ที่ใช้สำหรับสาธิตการทอผ้า ตั้งกี่ทอผ้า และจำหน่ายผ้าพื้นเมืองที่ทอที่บ้าน



16.15 - 17.50 น. สนามบินน่าน - สนามบินดอนเมือง

หลังจากนั้นก็ถึงเวลาซะที ที่ต้องโบกมือลาจังหวัดน่านแห่งนี้ 


และนี่ก็คือแพลนทริปการเดินทางของผม 4 วัน 3 คืน 

เพื่อนๆ ก็สามารถประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับแพลนทริปของเพื่อนๆได้ 

หวังว่าแพลนนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาชม

แล้วพบกันใหม่ในคลิปหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับผม









ยิ้มแบกเป้เที่ยว RoamingYim

 วันพฤหัสที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.26 น.

ความคิดเห็น