"หัวลำโพง" ชื่อนี้ที่เกิดมาจำความได้ก็ต้องรู้ว่ามันหมายถึง "สถานีรถไฟ" และเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 นี้ก็จะเป็นเดือนสุดท้ายที่เราจะได้ใช้งาน หลังจากนี้ตำนานบทใหม่ก็จะไปเริ่มต้นขึ้นที่ "สถานีกลางบางซื่อ" และวันนี้ในวัย 27 ปีก็เลยขอมาระลึกความหลังกันสักหน่อย

ถ้าพูดถึง "หัวลำโพง" สำหรับผมมันคือสถานที่แห่งการเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง การเริ่มต้นชีวิต แม้แต่การมาตามหาความฝันในเมืองหลวง สำหรับบางคนมันเป็นเหมือนบ้านหลังแรก หรือหลังสุดท้ายในเมืองศิวิไลซ์แห่งนี้ด้วยซ้ำ

สำหรับผม ความทรงจำดีๆ ของหัวลำโพงแห่งนี้ที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจเสมอก็คือการได้กลับไปบ้านเกิดของพ่อที่ลพบุรี และทุกๆครั้งก็จะมาขึ้นรถไฟที่นี่เสมอ เพราะเมื่อ 20 กว่าปีก่อนการเดินทางโดยรถไฟไปลพบุรีสำหรับผมมันสะดวกที่สุด เพราะบ้านเกิดพ่อผมอยู่ติดสถานีรถไฟเลย

และในช่วงเทศกาลทุกคนก็คงจะรู้ดีว่ามวลมหาประชาชนจะเยอะแค่ไหน บางทีที่นั่งเต็มก็ยอมยืนกันเพื่อให้ได้กลับภูมิลำเนา บางคนนั่งตรงบันได บางคนแอบนั่งบนหลังคาก็มี แต่ความเท่ของพ่อผมที่จำได้ไม่เคยลืมเลย คือการโยนกระเป๋าสัมภาระขึ้นไปบนโบกี้รถไฟ เพื่อจับจองที่นั่ง และพ่อก็จะกระโดดขึ้นไปก่อนโดยที่รถไฟยังไม่ทันจอดเทียบชานชาลา เพื่อให้ลูกเมียได้มีที่นั่ง ด้วยความที่ยังเด็กผมไม่รู้ผิดรู้ถูกหรอก รู้แค่ว่าพ่อผมโคตรเท่เลย บางคนมาอ่านอาจจะดราม่าก็ได้ 555 แต่อย่ามาดราม่ากันเลย เพราะผมแค่อยากบันทึกไว้เป็นความทรงจำดีๆ ระหว่างผมกับหัวลำโพง

ทุกๆ อย่างย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา อย่างน้อยวัยรุ่นยุค 90 ก็เกิดมาทันได้ใช้งานหัวลำโพง และมีเรื่องราวไปเล่าต่อให้รุ่นหลังๆ จะว่าไปประโยคนี้ดูแก่ๆ ยังไงไม่รู้

เพื่อนๆ คนอื่นมีความทรงจำอะไรกับหัวลำโพงบ้าง มาแชร์ให้เรื่องราวให้ดูกันบ้างนะ

ฉันจะไป : I Will Go

 วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 12.51 น.

ความคิดเห็น