Sapan view resort สู่อ้อมกอดแห่งขุนเขา ณ บ้านสะปัน

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับรีสอร์ทในสะปัน ที่รับรองว่าวิวสวย บรรยากาศดี เป็นอีก 1 ตัวเลือกให้ทุกคนที่จะมาเที่ยวเก็บไว้พิจารณา รับรองว่าเด็ด ว่าปังแน่นอน ที่ Sapan View Resort รีสอร์ทสวย ทำเลดี ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาของหมู่บ้านสะปัน

รีสอร์ทแห่งนี้นับว่าทำเลดีมาก เพราะตัวที่พักตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถเห็นวิวได้แบบเต็มตา ไม่มีอะไรมาบดบัง ขณะเดียวกันก็มีส่วนที่เป็นบริเวณให้เดินเล่นได้ อย่างในรูปคือพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารเช้าและเย็น

ผมเดินทางไปพักในวันที่กรุงเทพอุณหภูมิ 21 องศา ในเดือนเมษา คิดดูครับว่าบนนี้จะหนาวขนาดไหน ไอเราก็ชะล่าใจเอาแค่เสื้อบาง ๆ ไป บอกเลยครับว่าหนาวจับจิตจับใจเลย เจ้าของที่พักบอกว่าสะปันฝนตกบ่อยอากาศดีกว่าข้างล่าง ผมเห็นด้วยอย่างแรงเลยครับ

ความเจ๋งของรีสอร์ทแห่งนี้คือมีน้ำพุเป็นของตัวเองด้วยนะครับ เก๋กู๊ด มาก ๆ ซึ่งเจ้าของรีสอร์ทบอกผมว่า น้ำพุที่นี่ไม่ใด้ใช้ระบบไฟฟ้าเลยนะครับ แต่เป็นการอาศัยแรงดันน้ำจากภูเขาและลดขนาดท่อส่งน้ำลงเรื่อย ๆ ทำให้ได้น้ำพุที่สวยงามแบบนี้ อะ เรียนวิทยาศาสตร์ไป 1 แมท ยอมรับว่าชื่นชมทางรีสอร์ทนะครับ ที่เข้าใจใช้เทคนิคแบบนี้ ทำให้รีสอร์ทดูสวยขึ้นมากเลย

ยังอยู่ที่บริเวณรอบรีสอร์ท ผมชอบที่ทางขึ้นไปห้องพักทางรีสอร์ทปลูกกุหลาบเป็นแนวยาว ดอกสีชมพูอ่อนช่วยให้พื้นที่น่ามองมากขึ้น และก็ได้รู้มาอีกว่า กุหลาบชนิดนี้เป็นสายพันธ์ุที่น่าจะผสมกับสายพันธ์ุพื้นเมืองมาแล้ว ทำให้ได้พันธ์ุกุหลาบที่ออกดอกได้ตลอดทั้งปี ไปตอนไหนก็เจอครับ

ทางขึ้นบ้านพักอาจจะชันไปซักหน่อยแต่สามารถขับรถยนต์ขึ้นมาจอดหน้าที่พักได้เลยครับ แต่แนะนำว่าควรเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก เพราะจะได้สะดวกเวลาเอารถขึ้นมาครับ หรือถ้าใครอยากทดสอบความแข็งแรงของร่างกาย เดินขึ้นมาก็สนุกดีเหมือนกันครับ

ทางขึ้นห้องพักชันซักหน่อย ใครที่มาพักกับผู้สูงอายุอาจต้องระวังนิดนึงนะครับ

พวงกุญแจห้องพักแบบเป็นไม้

มาถึงโซนห้องพักกันบ้างครับ ผมพักหลังที่ 6 ห้องพักเป็นลักษณะห้องกระจกบานเลื่อนแบบโมเดิร์น แต่ก็ยังคงความเป็นท้องถิ่นด้วยการใช้ฝาไม้ไผ่ หลังคาไม้ไผ่และเฟอนิเจอร์เป็นไม้แทบทั้งหมด

อุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องพักก็มีครบครันตามมาตรฐานรีสอร์ททั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจมากก็คือ
ความสะอาดครับ บรรดาหมอน ที่นอน ผ้าห่มใด ๆ คือสะอาด ซักมาอย่างดี ตามพื้นห้องก็ไม่มีฝุ่นหรือหยากไย่เลยครับ แม้จะเป็นช่วง Low season แต่ทางรีสอร์ทก็ดูแลห้องพักเป็นอย่างดี ที่นี่ไม่ต้องถามหาแอร์เลยครับ เพราะอากาศคือดือมาก 555

ผมพักห้องแบบเตียงเดี่ยวครับ แต่ก็มีห้องแบบเตียงคู่ด้วยเช่นกัน

แต่ละห้องพักจะมีประตูเปิดเชื่อมถึงกันได้ สำหรับใครที่มาพักเป็นหมู่คณะก็สามารถใช้ประตูเดินไปมาหาสู่กันได้ครับ

และเมื่อเป็นการรีวิว ผมก็ขอรีวิวแบบทุกซอกมุกมุมไปเลยครับ ซึ่งห้องน้ำก็เป็นอีกพื้นที่ที่หลายคนกังวลเมื่อต้องมาพักรีสอร์ท ที่นี่ผมว่าโอเคเลยครับ เป็นห้องน้ำแบบลอฟท์ปูนเปลือย มีชักโครก ฝักบัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น อ่างล้างหน้า มีสบู่และยาสระผมให้แบบรีสอร์ททั่วไปและสะอาดดีครับ แต่น้ำที่นี่ไหลไไม่แรงมากนะครับเวลาอาบน้ำอาจต้องใช้เวลาหน่อย แต่ไม่ได้เบาจนน่าเกลียดครับ

ชมส่วนต่าง ๆ ภายในห้องกันแล้ว มาชมส่วนหน้าห้องบ้างครับ บอกเลยว่าวิวหลักล้านของจริงครับ
ด้วยความเป็นพื้นที่สูงหน่อย ทำให้สามารถเห็นวิวได้แบบไม่มีอะไรมาบังสายตา มีที่นั่งให้นั่งจิบกาแฟยามเช้า ชมหมอกที่ไหลไปตามแนวเขา แค่คิดก็ฟินแล้วครับ เสียดายผมไปไม่เจอหมอก

มัวแต่กินบรรยากาศก็กลัวท้องจะไม่อิ่ม เลยขอลงมาหาอาหารเช้ากินซักหน่อยครับ ซึ่งอาหารเช้าก็รวมอยู่ในค่าห้องพักแล้ว ที่นี่จะเสิร์ฟแบบปิ่นโตครับ ใครกลัวไม่อิ่มบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลครับเพราะมาแบบเน้น ๆ อิ่มแน่นอน ตามภาพคือสำหรับที่เดียวนะครับ โดยปกติที่นี่จะส่งปิ่นโตให้แขกที่ห้องพักเลย บอกเขาได้ครับ
แต่ผมขอลงมาทานที่ห้องอาหารด้านล่างดีกว่าครับ ก็บรรยากาศดีไปอีกแบบ

อาหารก็ทั่วไปครับ เป็นข้าวต้ม ไส้กรอก แต่รสชาติอร่อยเลยครับ ผัดกะหล่ำปลีอร่อยมาก