คุ้นชื่อปากน้ำประแสกันไหมครับ เราเป็นคนนึงที่ได้ยินชื่อนี้บ่อยมาก

หนีความวุ่นวาย ไปเที่ยวแบบ ONE DAY TRIP

กับชุมชนที่มีชื่อว่า “ชุมชนปากน้ำประแส” อ.แกลง จ.ระยอง

แค่คนละ 400 เองแกรร๊ เล่าแบบนี้อาจจะยังไม่ค่อยเห็นภาพ

คลิปรายละเอียดการเดินทาง

🍃 Highlight หลักคือ
● ไปถ่ายรูปที่สะพานประแสสิน
● ไปไหว้พระวัดสมมติเทพฐาปนาราม (วัดแหลมสน)
● ไปถ่ายรูปจุดชมวิวแหลมสน
● ไปดูอนุสรณ์เรือรบหลวงประแส
● ไปสักการะกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
● ไปไหว้เจ้าแม่ตะเคียนทองอายุมากกว่า 500 ปี ที่วัดตะเคียนงาม
● นั่งสามล้อชมวิถีชีวิตชุมชนปากน้ำประแส
● ไปหัดทำอาหารท้องถิ่น แจงลอน ก๋วยเตี๋ยวผัดเปรี้ยวหวาน ก๋วยเตี๋ยวผัดปู ทานคู่กับชาใบขลู่
● ไปล่องเรือชมป่าโกงกาง
● ไปดูบ้านปากคลอง 100 ปี
● ไปชมแนวกันคลื่นคลองแสมผู้
● เดินเที่ยวทุ่งโปร่งทองยามเย็น

ถ้าพร้อมแล้วเตรียมกล้่อง เตรียมเมม เตรียมชุดให้พร้อม ทาครีมกันแดด แล้วไปเที่ยวกัน 


เราเริ่มออกเดินทางจากชลบุรี - ชุมชนปากน้ำประแส จอดรถที่ลานจอดตรงบ้านป้าแต๋ว ซึ่งอยู่ใกล้กับทุ่งโปร่งทอง 🚙 ค่าบริการที่จอดรถคันละ 20 บาท จากนั้นป้าแต๋วก็ให้คุณลุงพานั่งรถสามล้อไปที่สะพานประแสสิน และนี่คือจุดเริ่มต้นทริปของเรา

ไปถ่ายรูปที่สะพานประแสสิน

ระหว่างนั่งรถไปคุณลุงก็จะเล่าประวัติความเป็นมาของสะพานประแสสินให้ฟัง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เราก็มาถึงสะพานประแสสินแล้ว

สะพานประแสสิน จังหวัดระยอง  เป็นสะพานข้ามแม่น้ำประแส เป็นถนนสายรองที่ติดทะเลฝั่งภาคตะวันออก มีวิวที่สวยงามมากๆ เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม วิถีชีวิต จาก จ.ระยอง สู่จันทบุรีและตราด สามารถเดิน ถ่ายรูปชมวิวพระอาทิตย์ตกรับลมเย็นๆ

บนสะพานคือสวยมากๆ แอ๊คท่าถ่ายรูป แบบพาโนรามา กับแม่น้ำกว้างๆ ได้หลายมุมเลย 

ยิ่งบินโดรนมุมสูงเห็นแทบจะทั้งชุมชน เป็นอะไรที่ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่เลยจริงๆ

🔰 : สะพานประแสสิน
📍 : ตำบลปากน้ำกระแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
🚘 : https://goo.gl/maps/txueUQf8hT...


ไปไหว้พระวัดสมมติเทพฐาปนาราม (วัดแหลมสน)


ไปถ่ายรูปจุดชมวิวแหลมสน

อีกจุดชมวิวที่สวยงามภายในหาดแหลมสนคือ แนวหินกันคลื่นลมที่ยื่นออกสู่ทะเล ฝั่งตรงข้ามคือเรือรบหลวงประแส เดินออกไปปลายสะพาน จะเห็นเรือจมอยู่ 

และจากความสมบูรณ์ของทะเล ทำให้คุณยายสองคน ออกมาตกไว้เป็นอาหารมื้อเย็นด้วย

ชายหาดมีบรรยากาศร่มรื่น มีต้นสนปลูกอยู่สองข้างถนน ชายหาดลาดชันเล็กน้อย สามารถเล่นน้ำได้

บางคนก็มาตั้งแคมป์ กางเต็นท์กันริมทะเลเลย มีร้านค้าไม่มาก​ เหมาะมานั่งสงบๆ​รับลมทะเล​ คนไม่พลุกพล่าน​" มีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ 


ไปดูอนุสรณ์เรือรบหลวงประแส 

เรือรบหลวงเก่าที่ปลดประจำการ จากสงครามเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ที่เป็นอนุสรณ์สถานที่มีประวัติศาตร์สำคัญควรค่าแก่การรำลึกถึงราชนาวีไทย ในปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของชาวชุมชนปากน้ำประแส ที่เมื่อไรที่นักท่องเที่ยวเดินทางมา ก็ต้องแวะเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ตระการตาที่เป็นของจริงแห่งนี้

การขึ้นไปชมด้านบนตัวเรือต้องระวังการขึ้นลงบันไดเป็นสำคัญเพราะบันไดจะชันมากเลยมีโอกาสคว่ำหน้าขมำหรือหงายหลังล้มได้ 

นอกจากนั้นแล้วยังสามารถไปเดินเล่นตรงผนังหินกั้นคลื่นเล่นได้(ควรเดินด้วยความระมัดระวัง) ลมพัดผ่านสบายๆเย็นดี ถ่ายรูปก็สวยนะ ร้านค้าร้านอาหารด้านข้างก็มีบริการด้วย


● ไปสักการะกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

ภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองระยอง

หากมีโอกาสมาเที่ยวระยอง เชิญแวะสักการะศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพร ซึ่งตั้งอยู่ที่หาดแหลมสน อ.แกลง เพื่อความเป็นศิริมงคลซักครั้งนึง


● ไปไหว้เจ้าแม่ตะเคียนทองอายุมากกว่า 500 ปี ที่วัดตะเคียนงาม

วัดตะเคียนงามเป็นวัดที่มีต้นตะเคียน 500 ปี ที่ยังมีชีวิตให้ดู หาดูได้ยากมากๆ ขนาดประมาณ 10 คนโอบ มีอีกต้นนึงอายุ 300 ปี 

แล้วยังมีศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองที่เป็นต้นตะเคียนที่ล้มแล้ว ต้นขนาดใหญ่มาก สร้างหลังคาคลุมไว้มีคนแวะเวียนมากราบไหว้ ตลอดเวลานับเป็นอีกหนึ่งวัดที่น่ามาชม

ต้นตะเคียนเก่าแก่ที่ล้มแล้ว ก็สร้างศาลาคลุมไว้ มีคนมากราบไหว้ ทาแป้งขอหวยตลอดเวลาจนขาวไปหมด

ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองที่อยู่ใกล้ๆ ต้นตะเคียน 500 ปี


● นั่งสามล้อชมวิถีชีวิตชุมชนปากน้ำประแส

เป็นชุมชนบ้านเก่าริมน้ำประแสซึ่งเป็นบ้านไม้โบราณที่ยังคงมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าต่างๆ ตามวิถีชีวิตชุมชนโบราณ และเป็นที่ตั้งของบ้านพิพิธภัณฑ์ปากน้ำประแส

มีมุมถ่ายรูปชิคๆ เยอะมากๆ เหมือนเราได้พาแม่มาย้อนวันวาน สมัยนางยังเป็นเด็ก 

ขนาดร้านตัดผม ยังคงความดั้งเดิม เหมือนเมื่อสมัยเรายังเป็นเด็กไว้เลย 


● ไปหัดทำอาหารท้องถิ่น แจงลอน ก๋วยเตี๋ยวผัดเปรี้ยวหวาน ก๋วยเตี๋ยวผัดปู ทานคู่กับชาใบขลู่

หลังจากที่เที่ยวกันมาทั้งวันแล้ว ก็ได้เวลามาทำอาหารท้องถิ่น ซึ่งป้าแต๋วเตรียมไว้ให้  คือ แจงลอน ทอดมัน ก๋วยเตี๋ยวผัดเปรี้ยวหวาน ก๋วยเตี๋ยวผัดปู ทานคู่กับชาใบขลู่

เมนูแรกของเรา คือ การทำแจงลอน มองดูว่าปั้นง่ายๆ แต่พอลองทำจริงๆ ยากแหะ ต้องจุ่มน้ำมันทีละนิดเพื่อไม่ให้แจงลอนติดมือ ยุ่งเหยิง สนุกสนาน เรียกเสียงหัวเราะกันพอสมควรเลย 

กลิ่นหอมอบอวลไปหมด พอย่างเสร็จ หน้าตาออกมาหน้ากินมากๆ เลยแกรร๊ เราไม่พลาดที่จะลองชิม รสชาติดีเหมือนหน้าตาเลยแหละ เสร็จก็ไปทำเมนูต่อไป ทอดมันปลากราย 

เสร็จก็ไปทำเมนูต่อไป ก๋วยเตี๋ยวผัดเปรี้ยวหวาน  

เมนูก๋วยเตี๋ยวผัดเปรี้ยวหวาน จะหาทานได้แค่เฉพาะที่ชุมชนปากน้ำประแสร์เท่านั้นน้า เพราะเป็นของพื้นบ้านของที่นี่ ซอสเปรี้ยวหวาน ก็จะเป็นสูตรเฉพาะของที่นี่

พอทำเสร็จออกมาหน้าตาหน้าทานมากๆ และแม่เราก็ไม่พลาดที่จะลองชิม รสชาติอร่อย คล้ายๆ กับซอสเย็นตาโฟ แต่มีความหวาน และความเปรี้ยว ตัดกันกำลังดีเลยแหละ กินแกล้มกับแตงกวา และใบขลู่เข้ากัน แล้วก็เหลือเมนูสุดท้าย ก๋วยเตี๋ยวผัดปู 

ป้าแต๋วบอกว่า ต้องทำน้ำยาปูแช่ค้างคืนไว้ก่อน 1 คืน ก่อนที่จะเอามาผัดได้ เผื่อให้น้ำและเนื้อปูมันเข้ากันได้ดี พอทำออกมาแล้ว บอกเลยว่ารสชาติมันกลมกล่อมมากๆ เนื้อปูนุ่ม ละมุนลิ้นสุดๆ เลย

หลังจากทำทุกเมนูเสร็จเรียบร้อย เราก็มานั่งทานกันที่โต๊ะ อาหารทุกเมนูของวันนี้ อร่อยสุดๆ เลย ยิ่งทานคู่กับชาใบขลู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ หรือจะนำมาแกล้มเป็นผักเครื่องเคียงก็เข้ากันสุดๆ หลังทานอาหารเสร็จ ป้าแต๋วก็เล่าเรื่องราวความเป็นมาของชุมชนปากน้ำประแสร์ให้เราฟังกันเพลิน จนอาหารเริ่มย่อย ก็ให้คุณลุงพาเราไปเที่ยวกันต่อ


● ไปล่องเรือชมป่าโกงกาง

เส้นทางเดินเที่ยวทุ่งโปรงทองและป่าชายเลนแสมผู้มีหลายเส้นทางให้เลือก
- จากท่าเทียบเรือแสมผู้เดินไปทุ่งโปรงทอง ประมาณ 60 เมตร
- จากท่าเทียบเรือแสมผู้ นั่งเรือเที่ยวชมป่าโกงกาง วนกลับมาที่ศาลเจ้าพ่อแสมผู้ เดินเที่ยวทุ่งโปรงทอง ระยะทาง 300 เมตร

ค่าบริการล่องเรือชมธรรมชาติ คนละ 50 บาท เราว่าคุ้มมากๆ เลยน้า นั่งเรือเที่ยวชมป่าโกงกาง ไปดูบ้านปากคลอง อายุ 100 ปี ไปชมแนวกันคลื่นที่คลองแสมผู้ และวนไปส่งศาลเจ้าพ่อแสมผู้

ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ช่วงเช้า และช่วงบ่ายแก่ๆ เนื่องจาก บรรยากาศไม่ร้อนมาก

คุณลุงคนขับเรือ แนะนำสถานที่ และอธิบายความเป็นมา ให้ความรู้เรื่องไม้ชนิดต่างๆเยอะมากๆ ต้นไม้ในป่าชายเลนแห่งนี้ มีหลากหลายชนิด เช่น ต้นแสม ต้นตะบูน ต้นลำพู ต้นโกงกาง และต้นโปรง และเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเล เช่น ปูแสม ปูก้ามดาบ หอยนางรม

คุณลุงพาวนดู จอดเรือให้ถ่ายรูปสวยๆคุ้มมาก


● ไปดูบ้านปากคลอง 100 ปี

ที่นี่คือสถานที่ที่หมอปลามาพิสูจน์ เพราะบ้านไม้อายุกว่าร้อยปี เปลี่ยนเจ้าของมาแล้ว4คน สาเหตุเพราะเป็นเจ้าของบ้านทุกคนเจอผีหลอก เราก็ไปตามคำบอกเล่า ของคุณลุงคนขับเรือ 

บรรยากาศค่อนข้างวังเวง มีเสียงค้างคาวดังสนั่น และที่นี่ค้างคาวเยอะมาก ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่ามามากๆ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด


● ไปชมแนวกันคลื่นคลองแสมผู้

ออกจากบ้านปากคลอง 100 ปี คุณลุงก็พาเราลัดเลาะไปตามคลองแสมผู้ ชมปูก้ามดาบ แนวกันคลื่นที่สวยงามการทำประมงพื้นบ้าน จับสัตว์หาอาหารทะเล ที่ยังคงมีให้เห็น


● เดินเที่ยวทุ่งโปร่งทองยามเย็น

คุณลุงคนขับเรือจะมาส่งเราที่ศาลเจ้าพ่อแสมผู้ และลงเรือเดินเลาะสะพานไปที่ทุ่งโปรงทอง ระยะทางประมาณ 300 เมตร

 มาถึงก็แวะไหว้ศาลเจ้าพ่อแสมผู้ก่อน

ต้นไม้ในป่าชายเลนแห่งนี้ มีหลากหลายชนิด เช่น ต้นแสม ต้นตะบูน ต้นลำพู ต้นโกงกาง และต้นโปรง

พอเดินถึงทุ่งโปร่งทอง จุดเด่นของที่นี่คือ ต้นโปร่งทองที่ขึ้นเต็มและหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่ ชมวิว 360 องศา ได้เลย

ถ่ายรูปออกมาได้สวยมากๆใครที่รักธรรมชาติ อยากมาชมวิถีชีวิตชาวบ้านแนะนำที่เลย

เราว่าแสงตอนเย็นยิ่งสวยเลยน้า บรรยากาศพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน ฟิลมันได้มากๆ เลย

 ทุ่งโปรงทอง 
ตั้งอยู่บริเวณริมปากแม่น้ำประแส ใกล้กับเทศบาลตำบลปากน้ำกระแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
⏰ เปิดให้เข้าชม เวลา:8.00-18.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม


 ใช้เวลาแค่วันเดียวมาเที่ยวพักผ่อน แถมได้ชิมอาหารอร่อยๆในชุมชนที่เราได้ทำเอง และมีกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายมากมายไปกับบรรยากาศสบายๆ สไตล์ชุมชน ปิดท้ายด้วยการเดินเที่ยวทุ่งโปร่งทองยามเย็นทำให้เราได้ยินเสียงธรรมชาติที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถือเป็นกิจกรรมที่ unseen อีกอย่างนึงในจังหวัดระยองที่ห้ามพลาดเลยน้า เป็นกิจกรรมที่ประทับใจเราสุดๆ

สนใจติดต่อ ป้าแต๋ว 085-3297384


.. เพราะการเที่ยวเยอะๆ มันช่วยทำให้เราลืมเรื่องไม่สบายใจได้ระยะหนึ่ง 🙂

ช่องทางการติดตาม อัปเดตข่าวสารกันได้ที่

Fanpage :
Website" class="redactor-autoparser-object">https://www.facebook.com/EnvyJ...
: https://envyjourney.com/

YouTube : เที่ยวให้คนอิจฉา

Tiktok : @envyjourney

#ทุ่งโปร่งทอง #มานี่มาที่เที่ยว #ระยอง #ที่เที่ยงระยอง #ทุ่งโปร่งทองระยอง #บ้าน100ปี #สถานที่ท่องเที่ยงจังหวัดระยอง

เ ที่ ย ว ใ ห้ ค น อิ จ ฉ า

 วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.26 น.

ความคิดเห็น