<เนื้อหานี้เป็นเนื้อหาจากเพจเก่า(ไปมาเเล้ว)>

สวัสดีครับ นี้เป็นกระทู้เเรกของผม ผมสมัครบัญชีนี้มาเพื่อจะพาเที่ยว เเนะนำ รีวิว ลงภาพที่ต่างๆ ที่ผมไปเที่ยวมา!


เที่ยวไกลๆด้วยตัวเองครั้งเเรก


Backpack ครั้งเเรก


ขึ้นรถไฟครั้งที่ 2


ไปเชียงใหม่ครั้งที่ 4


ครั้งเเรกในหลายๆ อย่าง


โดยที่เเรกที่จะมาพาไปเลยนั้นก็คือ จังหวัดเชียงใหม่ เหนือเกือบจะสุดเเดนสยามของเรา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าไม่มีเชียงรายก็เหนือสุดไปละ 555

เอาละครับ มาเริ่มกันเลย

จันทร์ 6 พฤศจิกายน 2560


ทริปนี้ไปกัน 2 คน ใช้เวลา 3 วัน 3 คืน รวมนั่งรถไฟด้วยนะ ตั้งเเต่ 6-9 พฤศจิกา 2560 ซึ่งโดยส่วนมากถ้าอ่านในพันทิปการเที่ยวโดยรถไฟส่วนมากจะขึ้นที่หัวลำโพงกันใช่ไหมละ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่ถามนี้ไม่มั่นใจ 555

เเต่ผมจะขึ้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ผมอยุ่จังหวัดอุทัยธานีด้วยความตื่นเต้นก็ไปสถานีตั้งเเต่ 4 โมงเย็นเลย (รถออก 18.27 น.) ไปถึงก็ซื้อตั๋วด้วยความตื่นเต้นอีกที 555 โดยรถไฟที่ผมขึ้นนั้นเป็น รถเร็ว ขบวน 109 นครสวรรค์-เชียงใหม่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก็มาจากกรุงเทพนั้นเเหละ ราคา 195 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง โห่ววว++++

รีบมาก็นั่งรอยาวไป ยังดีที่มีหมาเป็นเพื่อน 555

18:30 น. เห้อออ เเละเเล้วรถไฟก็มา+++ ขึ้นไปก็เหวอเลยครับ ดูที่นั่งไม่เป็น ก็พึ่งขึ้นครั้งที่ 2 นี้หว่า ครั้งเเรกขึ้นรถไฟฟรีจะนั่งตรงไหนก็ได้ ดีนะที่มีตายายคู่หนึ่งบอกให้นั่งกับเค้าก็ได้ ขอบคุณมากคร้าบ เเก้เหวอได้เยี่ยมมาก 555 เเล้วระหว่างทางก็ได้คุยกับตายายเค้าเล็กๆ น้อยๆ

เดินทางทั้งคืน ไม่ต้องกลัวหิวเลยครับอยู่บนรถไฟ มีของขายตลอด ไม่เเพงด้วย

ประเดิมด้วยข้าวต้ม 10 บาท

ขณะนี้เวลา 04:37 น. นั่งเซ็งๆ หลังขดหลังเเข็งมาอย่างเนิ่นนาน มาถึงซะทีเชียงใหม่ เรทนิดหน่อย เห้อๆ

เอาละ มาถึงก็อาบน้ำอาบท่าในสถานี รอพระอาทิตย์ขึ้นเเล้วดำเนินการเที่ยวต่อไป


อังคาร 7 พฤศจิกายน 2560


ครับ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็นั่งรอไปเช่ารถอยู่ที่สถานี ร้านที่ผมจะไปเช่าคือร้าน BikkyBike สาขาอาเขต ครับ ห่างจากตัวสถานี 2.6 กิโลเมตร ร้านเปิด 6.00 น. เเต่ผมเข้าใจผิดว่าเปิด 7 โมง 555 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เเต่ละสาขาเปิดไม่เหมือนกัน พอ 6 โมงครึ่งผมก็ออกเดินเลยครับ พิมพ์ชื่อร้านในเนตเเล้วเปิด GPS เดินยาวไปเลย

ถึงร้านก็เลือกรถเลยครับ ผมเลือก Zoomer X ครับ วันละ 300 บาท ไม่มีมัดจำใช้บัตรประชาชนตัวจริง ทำเรื่องเสร็จก็พร้อมลุย

ที่เเรกที่เราตั้งใจจะไปดอยสุเทพ เปิด GPS นำไปตามสูตร พอถึงทางขึ้นดอยก็เห็นอนุสาวรีย์ ครูบาเจ้าศรีวิชัย เลยจอดลงดูเเละกินข้าวซะเลย (ไม่ได้ถ่ายอนุสาวรีย์เลย 555)

สั่งคะน้าหมูกรอบใข่ดาวไป เสียหายไป 45 บาท รสชาติใช้ได้เลยครับ อยู่ติดกับทางเข้าน้ำตกหาดเเก้วเลยครับ จอดที่อนุสาวรีย์เเล้วเดินเข้าไปในสุด

พอกินเสร็จ ก็ไปเห็นป้ายน้ำตกหาดเเก้ว เลยเข้าไปเที่ยวก่อนขึ้นดอยละกัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อยู่ข้างในของอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยเลยครับ

จากนั้นก็ขี่รถขึ้นดอยเลยครับ อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ พอถึงก็ไปซื้อตั๋วรถรางเลยครับ เกรงว่าเดินขึ้นบรรไดไปจะไม่ไหว 555 ไปถึงข้างบนก็เดินๆ ถ่ายรูปไป ความรู้สึกผมมันไม่มีอะไร คงเพราะเคยมาเเล้วด้วยละ เเต่มาเชียงใหม่ทั้งทีก็ต้องขึ้นมาสักหน่อย เดี๋ยวจะถือว่ามาไม่ถึง 555

ค่าตั๋วรถราง 20 บาท

ลงมาจากดอยสุเทพ บอกตรง ตอนนี้อยากนอนมากกกกกกกกก!!! ง่วงอ๊บอ๊ายยย!!! เเต่เพราะพึ่งจะ 5 โมงกว่าๆ ที่พักเช็คอินได้ บ่าย 1 โอ้จ็อด กูจะบ้าตาย ก็เลยต้องจำใจหาที่เที่ยวต่อไป เห็นป้ายชี้ขึ้นดอยปุย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พึ่งรู้ว่ามันอยู่ด้วยกัน เลยเดินไปถามรถเเดงว่าขี่มอเตอร์ไซต์ขึ้นได้หรือเปล่า คำตอบก็ดังใจหวัง "ได้" จัดไป ขี่มอเตอร์ไซต์ขึ้นดอยปุย

ทีเเรกใส่เสื้อเเขนสั้นเนื่องจากมันไม่หนาว ออกจะร้อนๆ ด้วยซ้ำ เเต่พอเริ่มขี่ขึ้นดอยปุย อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีหมอกบางๆ ตา สักพัก! ไอ้เเสรดดด!!! ฝนตก ไม่เเรงนะ ปรอยๆ เเต่เพิ่มความหนาวได้ดีโครตๆ ขี่ไปมือเริ่มเเข็งละ ขาเกร็งจนเหมือนจะเป็นตะคริว 555 เลยต้องจอดใส่เสื้อกันหนาวก่อนถึงจะไปต่อได้ 555

ปล. ระหว่างที่ขึ้นดอยปุยมีน้ำตกอยู่ตามข้างทางหลายที่เลย

พอไปถึง ก็มีคนตะโกนบอกว่า "นักท่องเที่ยวขึ้นทางนี้เลยครับ" ก็เดินไปตามทางที่เค้าบอก เป็นทางเดินขึ้นที่เต็มไปด้วยร้านค้า ที่ขายอะไรเหมือนๆ กัน จำพวกกระเป๋าดอยๆ หมวกดอยๆ อะไรประมาณนี้

เห็น 2 คนนี้ตั้งเเต่ดอยสุเทพละ เค้ามาถามเเม่ค้าว่าเเถวนี้มีน้ำมันขายไหม ผมก็คิดในใจ "ก็คนในพื้นที่ทำไมไม่รู้วะ555" เเต่พอมาเจอที่ดอยปุย ฟังเค้าพูดกัน ก้ได้รู้ว่าเป้นนักท่องเที่ยวชาวอีสาน เเหมะ! เเต่งซะเต็มยศเชียว

เดินไปสักพัก ก้จะมีคนนั่งขายตัวเข้า "พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวเขา" ก็ซื้อเเล้วเดินเข้าไป

ตั๋วเข้า "พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวเขา" 10 บาท

เดินไปก็เจออะไรสักอย่างเรียกไม่ถูก 555 เหมือนบ้านที่สร้างจากเเฝกมั้ง มีป้ายเขียนไว้ว่า "พิพิธภัณฑ์ชาวเขาบ้าน ม้ง ดอยปุย" ก็เดินเข้าไป ข้างในมีพวกของใช้ที่ทำจากไม้เก่าๆ ซึ่งผมคาดว่าน่าจะเป็นของใช้ชาวเเต่นั้นเเหละ เเต่ในขณะนั้นผมคิดว่า "นี้กูเข้ามาดูอะไร?" เซ็งๆ เลยครับ ไม่ตื่นเต้นเหมือนที่คิดไว้ 555

เเต่พอเดินออกมาจากบ้านที่สร้างจากเเฝก เอ้อ! ค่อยชื่นใจหน่อย จะเรียกว่าอะไรไม่รู้อีกเเล้ว เป็นดอกไม้เยอะๆ เเต่บอกได้คำเดียวว่าสวย 555 มีรถไอติมกะทิขายด้วย จะรออะไร สายกินอยู่เเล้ว จัดไป 1 ถ้วย เเล้วก็เดินดูดอกไม้ ถ่ายรูปไปตามภาษา

ไอติมกะทิ 1 ถ้วย 10 บาท

ถ่ายรูปมาเยอะนะ เเต่มันบอกไฟล์เกิน 700 มีวิธีเเก้ยังไงบอกกันบ้างนะครับ

มีชุดดอยให้เช่าด้วยนะ

มีเเค่นี้เเหละครับ ดอยปุย ระหว่างทางที่เดินกลับไปที่รถก็ยังมีร้านค้าขายของซ้ำๆ อีกหลายร้าน

พอเดินมาถึงที่รถ ตอนนั้นเวลา 12.30 น. พอดี เลยคิดว่ากว่าจะขี่รถถึงที่พักก็เช็คอินได้พอดี เลยขี่ตรงไปยังที่พักเลย เเต่อย่างที่บอก ระหว่างขี่ขึ้นดอยปุยม่น้ำตกอยู่หลายเเห่งมากตามข้างทาง เลยเเวะถ่ายรูปนิดหน่อย

ผมได้เช่าที่พักเป็น Hostel ชื่อ "Nature's Way House" คืนละ 130 บาท มัดจำกุญเเจห้อง 100 บาท เป็นห้องรวมชาย-หญิง 4 เตียงครับ ห้องน้ำรวมอยู่ในห้องพัก 1 ห้อง

มาถึงที่พัก เวลา 13.00 น. เวลาเช็คอินได้พอดี เลยไปที่เค้าเตอร์เช็คอินเลย ชำระเงินเสร็จพี่เค้าก็บอกว่า "รอสัก 30 นาทีนะ ห้องยังเก็บไม่เสร็จ" ผมก็โอเค ไม่มีปัญหา เลยไปนั่งเล่นรออยู่ที่โต๊ะหน้าห้อง มีเเต่ฝรั่งเลยครับ มีคนไทยเเค่ผมกะเพื่อนที่ไปด้วยกัน เเล้วก็เจ้าของี่พักที่เป็นคนไทย ที่เหลือฝรั่งหมด สูขบุหรี่กันควันโขมงทั้งชายหญิงเลย 555 นั่งไปนั่งมาสักพักก็หลับไปที่โต๊ะเลยครับ 555

ผมตื่นขึ้นมาเพราะเพื่อนที่มาด้วยกันปลุก เเล้วบอกว่าเข้าห้องได้เเล้ว ดูเวลา ไอ้เเสรดดด! 14.30 น. กูหลับไปชั่วโมงกว่าห้องพึ่งเสร็จ 555 เเล้วไม่เป็นไร หลับเหมือนกัน 555 เลยขนของเข้าห้องเเละนอนอย่างเกือบจะเป็นทางการ ZZZ

Nature's Way House

ฮ้าววว! ตื่นขึ้นมาก็มืดพอดี ถึงเวลาท่องราตรีละ คืนนี้คิดไว้จะไปที่ ไนซ์ บราซ่า ครับ ตื่นมาล้างหน้าล้างตาก็ออกเดินทางกันไปเลย

ไปถีงที่ ไนซ์ บราซ่า โห่! คนเยอะมากครับ ส่วนมากเป็นฝรั่งเช่นเคย น้อยมากที่จะเห็นคนไทย ก็เดินๆ ดูทั้งในโซนของกินเเละของฝาก หรือของอะไรต่างๆ ที่วางขายอยู่ อย่างหนึ่งที่เด้งขึ้นมาในหัวคือ "เเพงซิปหาย 555" เเพงทุกอย่างจริงๆ ครับ ไม่กล้าจะซื้ออะไรกินหรือของอะไรเลย 555 เเต่ก็เข้าใจว่าเป็นเเหล่งท่องเที่ยว ดีนะ มียายคนหนึ่งขายขนมถ้วย กล่องละ 20 บาท โอเค อันนี้กินได้ 555 ถ้าไม่มีของยายนี้จะไม่ได้กินอะไรที่ ไนซ์ บราซ่า เลยนะ 555

เดินเล่นไปซักพัก ก็ตัดสินใจออกไปหาอะไรกินข้างนอกดีกว่า 555 เลยมาจบที่ร้านก๋ยเตี๋ยวข้างทาง ราคา 35 บาท 555 เเถมด้วยน้ำผลไม้ปั่นป้าเเดงข้างๆ ราคาเเก้วละ 10 บาท น้ำผลไม้จริงๆ นะครับ เอาผลไม้มาปั่นเลย 10 บาททุกเเก้ว มีเเตงโม กล้วย เเอีปเปิ้ล เเคนตาลูป สับปะรด ประมาณนี้ ผลไม้รวมก็ 10 บาทนะ อร่อยมาก ร้านนี้เเนะนำเลย มาเชียงใหม่อีกจะมากินอีก 555 ตำเเหน่งร้านหาเอา บอกไม่ถูก รู้เเต่ว่าอยู่ตรงข้ามกับร้านอาหารเกาหลี 555

ชามละ 35 บาท

เเนะนำเลยร้านนี้ เเก้วละ 10 บาท

กินเสร็จก็กลับที่พัก นอนพักผ่อนเอาเเรงครับ พรุ่งรี้วางโปรเเกรมไว้จะไป เเกรนเเคนยอน 555 ฝันดีราตรีสวัสกู๊ดไนซ์ซียูอะเกน


พุธ 8 พฤศจิกายน 2560


วันนี้ผมต้องรีบไปเอารถไปคืนตอน 7 โมงเช้าครับ เพราะถ้าเกินจะคิดชั่วโมงละ 50 บาท เเต่! ! ตื่นสาย 555 ตื่นมา 7 โมงกว่าเเล้ว เลยต้องรีบไปเลยครับ ไม่ต้องล้างหน้าเเปรงฟัน ดีนะที่ไปทันครับ ไม่โดนปรับเพิ่ม

จากนั้นผมก็ไปเช่ารถที่หน้าสถานีครับ เพราะพรุ่งนี้ผมต้องมาขึ้นรถไฟกลับเเต่เช้า จะได้คืนรถได้สะดวก พอไปถึงร้านก็ทำการเจรจาเช่ารถครับ ร้านนี้อยู่หน้าสถานีเลยครับ ออกมาจากสถานีก็อยู่ตรงข้ามเลย ร้านนี้ดูเหมือนจะมีเเต่ Click 125 นะครับ 200 ต่อวัน เเต่มีค่ามัดจำ 1,000 ครับ ใครไม่มีเงินมัดจำซวยเลย 555

ได้รถมาเเล้วก็กินข้าวเช้าที่ร้านข้าวเเกงข้างๆ ร้านรถเช่าเลยครับ เสร็จเเล้วก้ไปเก็บของเช็คอินออกจากที่พัก รับเงินมัดจำกุญเเจคืนเเล้วก็เดินทางไป "เเกรนเเคนยอน เชียงใหม่" เลย ตามสูตรครับ เปิด GPS นำไป ขี่ไปประมาณ 20 กิโลครับ เเละเเล้วก็มาถึง "เเกรน เเคนอน เชียงใหม่"

เเกรนเเคนยอน เเบ่งเป็น 2 เเห่งนะครับ สถานที่เดียวกัน เเต่เเบ่งเป็น 2 ฝั่ง 2 นายทุน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คนโบกรถหน้าเเกรนบอกมา ที่ที่ผมไปค่าเข้า 100 บาทครับ ที่เล่นส่วนมากเป็นหน้าผาให้กระโดด สูงมากบอกตรง!!!! ส่วนอีกที่เป็นสวนน้ำครับ ค่าเข้า 350 บาท คนโบกรถบอกผมมานะ 555 เข้าไปเล่นตั้งเเต่ 5 โมงกว่าๆ จนถึงบ่าย 3 เลยครับ หน้าไหม้กันไปเลย เหลือเเต่อันสูงสุดอันเดียวที่ยังไม่ได้โดด เเหมะ! เสียดาย 555

พอออกจากที่เเกรน ก็ไปที่พืชสวนโลกต่อครับ ห่างกันเเค่ 4-5 โลเท่านั้น พอไปถึง ก็ไม่ได้เข้าครับ ค่าเข้า 100 ไม่สู้ครับ 555 เคยเข้าเเล้วด้วย เลยไม่กระหือรืออยากเข้าขนาดนั้น ก็เลยต้องกลับครับ 555

หลังจากกลับจากพืชสวนโลก ก็ไปยังที่พักเเห่งใหม่เลยครับ โดยคืนนี้เราจองไว้ที่ "บ้านกรุงไทยคอนโดเทล" ราคา 480 บาท เป็นห้องเตียงเดี่ยวครับ เหมือนโรงเเรมทั่วไปเเหละ เเต่เขาเปิดให้เช่าเเบบรายเดือนด้วยครับ เลยมีคนอยู่ประจำเยอะเลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่นี้ลืมถ่ายรูปครับ เเต่สภาพตัวตึกเเละภายนอกค่อนข้างเเย่ครับ เก่าๆ น่ากลัว เเต่ในห้องพักโอเคครับ



เเล้วอยากที่บอกครับ ผมสายกิน กลางคืนเลยวางเเผนไว้ว่าจะไปกินหมูกะทะ 555 หาใน Google เเล้วเปิด GPS นำไปอีกครับ ขี่ออกไปกินตั้ง 18 กิโล 555 ลงทุนไหมละ ไปเจอร้านนี้ครับ ราคา 99 บาท เป็นหมูจุ่มบุฟเฟ่ครับ น้ำจิ้มอร่อยมากกก!!!

การกินของสายกินยังไม่หมดเเค่นี้ครับ ยัดหมูจุ่มมาเต็มกระเพาะ เเต่ก็ยังอยากกินน้ำป้าเเดง ขากลับเลยขี่ไปซื้อน้ำปลาเเดงกินอีก 1 เเก้ว 555 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขากลับเเวะ Cental Festival ด้วยละ 555

ซื้อเสร็จก็กลับที่พักนอนเลยครับ พรุ่งนี้ต้องตื่นเเต่เช้า รถออก 6.30 น. ครับ นอนๆๆๆ เดี๋ยวตื่นไม่ทัน 555


พฤหัสบดี 9 พฤศจิกายน 2560


วันนี้ต้องกลับเเล้วครับ ตื่นมาตี 4 ครึ่งเเล้วรีบอาบน้ำเเปรงฟัน เเต่งตัว เก็บของ ไปเช็คอินออกครับ เเล้วก็รีบเอ่รถไปคืน เเล้วไปต่อเเถวซื้อตั๋ว

ตั๋วรถเร็วขากลับ 195 บาทเหมือนเดิม

เวลา 6.30 น. รถไฟออกตรงเวลาครับ เวลาอันน่าเบื่อกับมาเเล้วกับการนั่งรถไฟอันยาวนาน ขากลับก็พอถ่ายวิวข้างทางมาครับ

ครับ จบไปเเล้วกับทริปเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 3 คืน ค่าเสียหายคร่าวๆ ก็ค่ารถไฟไป-กลับ 390 บาท ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ทั้ง 2 วัน 500 บาท ค่าเข้าเเกรนเเคนยอน 100 บาท ค่ารถรางขึ้นดอยสุเทพ 20 บาท ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 10 บาท ค่าที่พัก 2 คืน 610 บาท ค่าน้ำมัน 60 บาท

ค่าใช้จ่ายไม่รวมของกิน 555 ก็อยู่ประมาณ 1,090 บาท ถ้ารวมค่ากินก็คงเพิ่มอีกบานโข 555

ขอบตุณที่อ่านจนจบ 555


ไปละเชียงใหม่ เดะเจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ


See You Again

DieowPaTieow

 วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 23.41 น.

ความคิดเห็น