พอจะมีเวลาว่างสัก 3-4 ชั่วโมงไหมคะ? มีสิ่งที่น่าสนใจมานำเสนอ ไม่ได้ชวนขายของ แต่จะชวนไปถ่ายรูป ไปคนเดียว ถ่ายคนเดียว ไม่ต้องเสียเงินเลยก็มีรูปกลับบ้านเพียบ เดินเล่นแถวๆ นี้แหละ (อ่อ ความจริงเสียแต่ค่ารถเมล์กับค่าน้ำนิดหน่อย)

 ไปเดินเล่นแถวๆ ชุมชนใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา เราต้องผ่านอะไรบ้างนะ ผ่านอะไรก็ถ่ายรูปกับอันนั้นแหละ

มีเอาชุดไปเปลี่ยนเพื่อความไม่น่าเบื่อและเผื่อเหงื่อชุ่ม ฮ่าๆๆ เดินเป็นวงกลมเลย คนเดินเก่ง 2020 เราเดินเก่งมาก เพราะงก ไม่อยากเสียเงินนั่งรถนิดๆ หน่อยๆ เพราะเราชอบออกกำลังกายด้วยการเดินด้วย เราไม่ชอบวิ่ง เราชอบเดิน

แต่แกจะมาเดินในตอนแดดเปรี้ยงบ่อยๆ แบบนี้ไม่ได้ วันนั้นลืมทากันแดดอีกต่างหาก กลับมาแขนไหม้เลยจ้า เดินตั้งแต่ 11 โมงถึงบ่ายสามประมาณนั้น

เริ่มจากนั่งรถเมล์ สาย 82 ไปลงแถวปากคลองตลาดแวะวัดราชบุรณราชวรวิหารวัดเลียบ  ใช้ขาตั้งกล้องในการถ่ายรูป

สำหรับวัดราชบุรณราชวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ เดิมชื่อ "วัดเลียบ" ตั้งอยู่เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

พระปรางค์องค์เดิม (สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3) ศาสนสถานแห่งเดียวในวัดราชบุรณราชวรวิหารที่รอดจากระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร

วัดนี้เป็นวัดหนึ่งตามธรรมเนียมประเพณีโบราณที่ว่า ในราชธานีจะต้องมีวัดสำคัญประจำ 3 วัด คือ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ และวัดราชประดิษฐ์  พระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ พระพี่นางเธอในรัชกาลที่ 1 ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดเลียบ เสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระราชทานนามว่า "วัดราชบุรณะ"  (ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://sites.google.com/site/...)

เดินออกจากวัด ลัดเลาะเข้ามาในสวนสาธารณะ ขึ้นมาที่สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา และเริ่มตั้งกล้องถ่ายรูปเองคนเดียวเหมือนเดิม เราเคยรีวิวที่นี่ไปแล้ว ลองอ่านในลิงก์นี้ดูนะคะ https://th.readme.me/p/33330

“สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา”
ว่ากันว่าเป็นสวนลอยฟ้าข้ามแม่น้ำแห่งแรกของไทยและแห่งแรกของโลกด้วย หามุมถ่ายรูปกัน

เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา เดิมเคยเป็นโครงสร้างของรางรถไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์นานหลายสิบปี จนปรับภูมิทัศน์ใหม่เป็นสวนลอยฟ้า

ข้อดี
:: มุมถ่ายรูปชิคๆ คลีนๆ เยอะมาก เนื่องจากพื้น ปูน กำแพงต่างๆ ยังดูใหม่ ถ่ายรูปออกมาดี เพราะอยู่ที่สูง รับแสงเข้าหน้า วัยรุ่นชอบเลยแหละ

:: วิวดีมาก ลมตึง ไม่ได้กลิ่นควันรถลอยขึ้นมาเลยหรือบางคนจมูกดีอาจจะได้กลิ่นนะ

:: มีจุดคัดกรอง เวลาเปิดปิดที่ชัดเจน กันไว้ กลัวเป็นแหล่งมั่วสุมในอนาคต

:: มีลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ เอาจักรยานขึ้นได้ มีสวนหย่อมเล็กๆ ให้ข้อมูลพืชพันธุ์ต่างๆ ที่ปลูก ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย

:: การเดินทางคือมาสะดวก มาง่าย ตื่นเต้นตรงเดินข้ามแม่น้ำได้แล้ว โดยที่เดินสูงกว่าระดับรถวิ่ง

ปูนไม่สวย พยายามแต่งรูปละก็ไม่เนียน 5555 เลอะเทอะมาก

ข้อเสีย
:: ใหม่ๆ อาจจะคนเยอะ ถ่ายติดคนเยอะ หาเพื่อนไปด้วย เลือกมุมถ่าย จะได้มุมชิคๆ เยอะ

:: ต้นไม้บางต้น อาจจะไม่เหมาะกับแดดแรงจัด น้องเริ่มเหี่ยว ต้องหมั่นรถน้ำหน่อยนะ

:: นั่งเล่นก็ชอบอยู่แหละ ดูวิว ดูเรือ แต่เสียงจากรถวิ่งบนสะพานพระปกฯ ค่อนข้างดัง

:: คนหามุมถ่ายรูปกันเยอะ ต้องระวังเรื่องการเหยียบหรือแอบเด็ดดอกไม้ ต้นไม้ เพราะบางต้นเป็นสมุนไพรชั้นดี กลัวถูกขโมย ควรมีกล้องวงจรปิดด้วย เอ๊ะ! หรือมีนะ ไม่ได้สังเกต

เดินข้ามมาอีกฝั่งก็ไปถึงวัดประยุรวงศาวาสได้  และจุดที่เราอยากไปถ่ายรูปที่วัดนี้ก็คือตรงเจดีขาวมินิมอลนี่แหละ

วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ใกล้กับเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า ฝั่งธนบุรี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เป็นวัดที่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์(ดิศ บุนนาค)  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าพระยาพระคลัง ว่าที่กรมท่า และสมุหพระกลาโหม  ได้อุทิศสวนกาแฟสร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2371 ซึ่งมีอาณาเขตติดกับบ้านสมเด็จเจ้าพระยาฯ 

พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ทรงกลม สัณฐานรูปโอคว่ำ สูง ๖๐.๕๒๕ เมตร ฐานล่างส่วนนอกวัดโดยรอบได้ ๑๖๒ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ๕๐ เมตร มีช่องคูหาเรียงรายล้อมรอบชั้นล่างพระเจดีย์ ๕๔ คูหา ชั้นบนถัดจากช่องคูหาขึ้นไปมีพระเจดีย์เล็ก ๑๘ องค์ เรียงรายพระเจดีย์องค์ใหญ่อยู่


พระเจดีย์องค์นี้เริ่มสร้างพระเจดีย์ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ เป็นผู้เริ่มสร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่นี้ขึ้น แต่หลังสร้างวัดแล้ว พระเจดีย์ยังไม่ทันแล้วเสร็จ ผู้สร้างก็ถึงแก่พิราลัยเสียก่อน เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๘ ต่อมา สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ( ช่วง บุญนาค ) ได้สร้างพระเจดีย์ต่อจนเสร็จสมบูรณ์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔

ต้องขอบคุณข้อมูลจาก  https://www.watprayoon.com/mai...  และ https://th.wikipedia.org/wiki/...  ด้วยนะคะ

ไปคนเดียว ใช้ขาตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเองทั้งหมดจริงๆ ค่ะ

 

ถ่ายรูปเสร็จก็เดินเลาะมาเรื่อยๆ ไปไม่ถูกก็ถามทางชาวบ้าน  มาถึงโบสถ์ซางตาครู้ส

วัดซางตาครู้ส, โบสถ์ซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีน   เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในซอยกุฎีจีนแยกซอยอรุณอมรินทร์ 4 (ถนนเทศบาล สาย 1)ถนนอรุณอมรินทร์  แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร

อาคารวัดแห่งนี้เป็นอาคารหลังที่สามซึ่งสร้างขึ้นเพื่อทดแทนอาคารวัดหลังเดิมที่คับแคบและชำรุดทรุดโทรมมาก โดยมีคุณพ่อกูเลียลโม กิ๊น ดา ครู้ส เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างในปี พศ.2459 (รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) และได้รับการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2539 โดยมีคุณพ่อศวง ศุระศรางค์ เป็นผู้ริเริ่มเพื่อการอนุรักษ์ต่อไป ปัจจุบันวัดหลังนี้มีอายุรวมแล้ว 104 ปี


อาคารวัดซางตาครู้สเป็นอาคารรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาและสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิกเช่นเดียวกับอาสนวิหารอัสสัมชัญ มีจุดเด่นที่ยอดโดมแบบอิตาลีซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับโดมแห่งมหาวิหารฟลอเรนซ์ หรือโดมของพระที่นั่งอนันตสมาคม ภายในเป็นอาคารชั้นเดียว มีจุดเด่นอีกประการคือ การใช้เสาลอยรับน้ำหนักของฝ้าเพดานแบบโค้ง รวมถึงกระจกสีที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับคริสต์ศาสนา

ขอบคุณข้อมูลที่สำคัญนี้จาก https://th.wikipedia.org/wiki/...

เดินมาเรื่อยๆ  ร้อนก็ร้อน เริ่มงอแงละ สุดท้ายละ

"วัดกัลยาณมิตร"   เจ้าพระยานิกรบดินทร์มหินทรมหากัลยาณมิตร (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัก  รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" (ขอบคุณข้อมูลจาก https://th.wikipedia.org/wiki/...) อันที่จริงเคยรีวิวไว้ในเพจบ้างแล้ว

ร้อนแล้วจะเริ่มถ่ายรูปน้อยลง

ร้อนก็เริ่มหลบเข้าร่มแล้วแวะเล่นกับแมววัดเฉยเลย  ที่นี่แมวเยอะเหมือนกันแฮะ หลวงพ่อบอกว่าเมื่อก่อนก็มากันแบบผอมๆ เดี๋ยวนี้อ้วนหมดละ

เดินเล่นแบบถามทางคนแถวนั้นมาเรื่อยๆ  ถ้าคนชอบเดินจะรู้สึกว่ามันไม่ไกลเลยจริงๆ แต่ถ้าทุกคนดูแผนที่จะรู้สึกว่าไกลมาก แต่เราเล่นถ่ายรูปมาตลอดทางมันเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร 

เดินเล่นคนเดียว ถ่ายรูปคนเดียวชิลมาก ชิลแบบไม่มีอะไรมากั้น แต่พอออกจากวัดกัลย์    ลัดเลาะวัดมาเรื่อยๆ เดินไปเดินมาถึงวัดอรุณเฉย  พอถึงวัดอรุณแค่นั้นแหละ คนเพียบ พักก่อนจ้า มาถ่ายบ่อยแล้ว แล้วก็นั่งเรือข้ามมาขึ้นรถเมล์สาย 82 กลับบ้านเหมือนเดิม  จบทริปแค่ไม่กี่ชั่วโมง เสียเงินค่ารถเมล์ เสียเงินค่าน้ำ หรือจะทำบุญบ้างนิดหน่อย  แต่กลับไปก็มีรูปลงไอจีนะ

เที่ยวคนเดียว ถ่ายรูปคนเดียว ง่ายๆ แค่นี้เอง

พิกัดในภาพ

:: วัดราชบุรณราชวรวิหาร(วัดเลียบ)

:: สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา

:: วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

:: วัดซางตาครู้ส

:: วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

:: วัดโมลีโลกยารามฯ (วัดนี้เดินหลงเข้าไป พระ เณรกำลังเรียนเพียบเลยจ้า เลยเข้าไปไหว้พระแก้เขินแล้วเดินออกมา)

:: วัดอรุณราชวรารามฯ

สองวัดสุดท้ายไม่ได้ถ่ายมา แบตใกล้หมดพอดี คนเยอะด้วย แต่วัดอรุณถ่ายมาเยอะแล้ว มีภาพในไอจี

เหมือนทริปทัวร์ไหว้พระเหมือนกันเนาะ ไม่ได้ไปถ่ายรูปอย่างเดียว เพราะเข้าไปไหว้พระจริงๆ ด้วย 😅

ชมภาพ 95% ที่เราถ่ายตัวเองด้วยตัวเองได้ทั้งหมดใน IG : boe._____ (ขีดล่างเคาะ 5 ทีนะจ๊ะ)

ไปเดินเล่นกันเถอะ ได้ออกกำลังกายด้วย ไม่เสียเงินเที่ยวด้วย แถมได้รูปกลับมาเพียบ ไปตามหามุมในภาพกัน

#เที่ยวคนเดียวรูปเดี่ยวเป็นร้อย

ถ่ายเป็นร้อย แต่คัดออกเยอะ ฮ่าๆๆๆ

อย่าลืมติดตามการท่องเที่ยวคนเดียว ถ่ายรูปเองคนเดียวของเราได้ที่เพจ "จะเที่ยวคนเดียว" นะคะ

Boe_Stories

 วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 12.44 น.

ความคิดเห็น